|
|
|
ดั่งน้ำตาดาวสกาวหยาด
พร่างพราวขาวพาดเป็นพวงพุ่ม
ทอดช้อยช่อชมภิรมย์รุม
เบิกซุ้มใบซ้อนฉะอ้อนลม
กลิ่นแก้วรัตติกาลอันกำจาย
ลมชายให้หอมมาห้อมห่ม
รัญจวนป่วนใจกระเจิงจม
เสน่หาอาคมแห่งค่ำคืน
หยาดร่วงดวงดาวหนาวน้ำค้าง
ยิ่งร้างโรยร่ำยิ่งฉ่ำชื่น
ความเอยความหลังไม่ยั่งยืน
เฝ้าตื่นตาฝันแม้วันนี้
แผ่วเพลงราตรีประดับดาว
เหน็บหนาวรำลึกสะทึกถี่
เลือนรางจางทิพท์สุวาที
หอมดอกราตรีมิรู้จาง |
|
|