สารคดี ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๑๙๗ เดือน กรกฎาคม ๒๕๔๔ "หุ่นจีนไหหลำในเมืองไทย"
นิตยสารสารคดี Feature Magazine
นิตยสารสำหรับครอบครัว
www.sarakadee.com
ISSN 0857-1538
  ฉบับที่ ๑๙๗ เดือน กรกฎาคม ๒๕๔๔
 กลับไปหน้า สารบัญ

จากบรรณาธิการ

    มีสัตว์ไม่กี่ชนิดในโลกที่เป็นดาวเด่น เป็นที่สนใจของคนทั่วไป โดยเฉพาะยามที่มีข่าวว่าสัตว์ชนิดนั้น ๆ กำลังถูกไล่ล่าจนใกล้สูญพันธุ์
    สัตว์เหล่านี้ได้แก่ หมีแพนด้า เสือ ช้าง สิงโตทะเล ปลาโลมา และปลาวาฬ 
    ปลาวาฬนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นับแต่พระเจ้าสร้างโลกมา 
    การขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นทุกที จนบางชนิดมีชื่อว่าซูเปอร์ไดโนเสาร์ ก็ยังมีน้ำหนักเพียง ๕ หมื่นกิโลกรัม มิอาจเทียบเคียงกับปลาวาฬสีน้ำเงิน ที่มีน้ำหนักร่วม ๑ แสน ๕ หมื่นกิโลกรัมได้
    การล่าปลาวาฬมีมานานแล้ว ยุคแรก ๆ ใช้วิธีล่าแบบพื้นเมือง ด้วยการลงเรือเล็กพายเข้าไปในระยะ ที่พอจะพุ่งฉมวกเข้าใส่ปลาวาฬได้ หลังปี ๒๔๑๑ มีการประดิษฐ์ปืนฉมวกที่ใช้ยิงจากเรือใหญ่ นับจากนั้นมาสถิติการล่าปลาวาฬก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ 
    ในปี ๒๕๒๙ สมาพันธ์ปลาวาฬสากล ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิก ๒๔ ประเทศทั่วโลก ได้ลงมติห้ามล่าปลาวาฬเพื่อการพาณิชย์ โดยเฉพาะชนิดที่มีจำนวนน้อยใกล้สูญพันธุ์ อาทิ ปลาวาฬสีน้ำเงิน ปลาวาฬฟิน ปลาวาฬสเปิร์ม ปลาวาฬฮัมแบ็ก ยกเว้นพันธุ์ที่มีค่อนข้างมาก คือ ปลาวาฬมิงค์ แต่อนุญาตให้ชาวประมงพื้นบ้าน ที่ใช้แรงคนซัดฉมวก ล่าปลาวาฬได้ รวมทั้งการล่าเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ 
     ทุกวันนี้แม้จะมีการกำหนดกฎกติกาเพื่อป้องกันการล่าปลาวาฬ แต่ปลาวาฬยังคงถูกล่าเฉลี่ยปีละ ๑,๐๐๐ ตัว ประเทศที่เป็นนักล่าตัวฉกาจ คือ ญี่ปุ่นและนอร์เวย์
    ก่อนหน้านี้ประเทศสมาชิกสมาพันธ์ปลาวาฬสากล ได้ลงมติร่วมกัน ให้เขตมหาสมุทรทางซีกโลกใต้ เป็นเขตปลอดการล่าปลาวาฬทุกชนิด แต่ญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะลงมติ
    เดือนกรกฎาคม ๒๕๔๔ สมาพันธ์ปลาวาฬสากลจะจัดประชุมประจำปี ณ กรุงลอนดอน ประเทศสมาชิกที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด เห็นจะหนีไม่พ้นญี่ปุ่น 
    ปีนี้รัฐบาลญี่ปุ่นอนุญาตให้นำปลาวาฬที่ติดอวนมาโดยไม่ตั้งใจ ออกขายในตลาดได้ ทำให้กลุ่มนักอนุรักษ์ปลาวาฬออกมาวิจารณ์ว่า นี่เป็นช่องทาง ที่จะทำให้มีการล่าปลาวาฬมากขึ้น 
    เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยโอ๊กแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ได้สุ่มตัวอย่างเนื้อปลาวาฬ ในตลาดของญี่ปุ่นมาตรวจดีเอ็นเอ พบว่าตัวอย่างเนื้อปลาวาฬที่ได้มาบางชิ้น เป็นเนื้อของปลาวาฬชนิดใกล้สูญพันธุ์ ได้แก่ ปลาวาฬสีน้ำเงิน ปลาวาฬฟิน และปลาวาฬฮัมแบ็ก
    นั่นหมายความว่าญี่ปุ่นลักลอบล่าปลาวาฬหลายชนิดที่ห้ามล่าเด็ดขาด
คลิกดูภาพใหญ่
ฉบับหน้า
กับระเบิด นักฆ่าผู้ซื่อสัตย์
    ปีนี้กองเรือประมงญี่ปุ่น มีโครงการจะล่าปลาวาฬมิงค์ ๔๔๐ ตัว และเป็นปีแรกที่จะมีการล่าปลาวาฬที่ใกล้สูญพันธุ์ คือ ปลาวาฬสเปิร์ม ๑๐ ตัว ปลาวาฬบรูด้า ๕๐ ตัว โดยอ้างว่าเป็นการล่าเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
    ประเทศสมาชิกสมาพันธ์ปลาวาฬสากลตั้งข้อสงสัยว่า งานวิจัยอะไรถึงต้องล่าปลาวาฬมากขนาดนั้น หรือจริง ๆ แล้วเบื้องหลังคือการค้า มุ่งหาเนื้อปลาวาฬมาขายกันมากกว่า
    ก่อนที่การประชุมจะมีขึ้น นายโจจิ โมริชิตา รองอธิบดีกรมประมงของญี่ปุ่น กล่าวยืนยันว่า ในมุมมองของคนญี่ปุ่นแล้ว ปลาวาฬเป็นสัตว์ทะเล ที่มนุษย์สามารถล่า เพื่อนำมาเป็นอาหารได้ คนญี่ปุ่นนั้น ไม่ค่อยบริโภคสัตว์บกขนาดใหญ่เป็นอาหาร ประกอบกับประเทศมีพื้นที่น้อย ไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ ให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการ ทุกวันนี้เนื้อสัตว์ที่คนญี่ปุ่นบริโภค ร้อยละ ๗๕ นำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้นคนญี่ปุ่นจึงจำเป็นต้องออกเรือ ไปหาอาหารในทะเล 
    "ไม่แปลกอะไรที่อาหารในวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น เป็นอาหารทะเล ขณะที่อาหารในวัฒนธรรมของคนยุโรป และคนอเมริกัน คืออาหารจากปศุสัตว์" นายโจจิกล่าว
    นายโจจิคงอยากจะบอกตรง ๆ ว่า คนญี่ปุ่นกินเนื้อปลาวาฬ ไม่ต่างอะไรกับที่คนอังกฤษ กินกระต่าย หรือคนจีนกินเนื้อหมา 
    เอาเข้าจริงแล้ว ในการประชุมที่ว่านี้แม้ญี่ปุ่นจะถูกรุมตำหนิ แต่ดูเหมือนญี่ปุ่นไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไร ที่ผ่านมาญี่ปุ่นก็ทำผิดกฎ กติกา มารยาทของการล่าปลาวาฬมาโดยตลอด ไม่เห็นประเทศสมาชิกจะทำอะไรได้ 
    "ยักษ์ใหญ่" อย่างญี่ปุ่นทำอะไรก็ดูไม่น่าเกลียด แม้จะกินสัตว์ใหญ่อย่างปลาวาฬก็ตาม 
    แต่ถ้าประเทศเล็ก ๆ อย่างไทยเกิดจะกินเนื้อช้างเป็นอาหารประจำวันบ้าง คงถูกกดดันหรือถูกกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศอย่างสุดลิ่มแน่นอน

 

วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์
vanchait@hotmail.com