นิตยสารสารคดี Feature Magazine
นิตยสารสำหรับครอบครัว |
www.sarakadee.com ISSN 0857-1538 |
|
|
สัตว์เหล่านี้ได้แก่ หมีแพนด้า เสือ ช้าง สิงโตทะเล ปลาโลมา และปลาวาฬ ปลาวาฬนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นับแต่พระเจ้าสร้างโลกมา การขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นทุกที จนบางชนิดมีชื่อว่าซูเปอร์ไดโนเสาร์ ก็ยังมีน้ำหนักเพียง ๕ หมื่นกิโลกรัม มิอาจเทียบเคียงกับปลาวาฬสีน้ำเงิน ที่มีน้ำหนักร่วม ๑ แสน ๕ หมื่นกิโลกรัมได้ การล่าปลาวาฬมีมานานแล้ว ยุคแรก ๆ ใช้วิธีล่าแบบพื้นเมือง ด้วยการลงเรือเล็กพายเข้าไปในระยะ ที่พอจะพุ่งฉมวกเข้าใส่ปลาวาฬได้ หลังปี ๒๔๑๑ มีการประดิษฐ์ปืนฉมวกที่ใช้ยิงจากเรือใหญ่ นับจากนั้นมาสถิติการล่าปลาวาฬก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ ในปี ๒๕๒๙ สมาพันธ์ปลาวาฬสากล ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิก ๒๔ ประเทศทั่วโลก ได้ลงมติห้ามล่าปลาวาฬเพื่อการพาณิชย์ โดยเฉพาะชนิดที่มีจำนวนน้อยใกล้สูญพันธุ์ อาทิ ปลาวาฬสีน้ำเงิน ปลาวาฬฟิน ปลาวาฬสเปิร์ม ปลาวาฬฮัมแบ็ก ยกเว้นพันธุ์ที่มีค่อนข้างมาก คือ ปลาวาฬมิงค์ แต่อนุญาตให้ชาวประมงพื้นบ้าน ที่ใช้แรงคนซัดฉมวก ล่าปลาวาฬได้ รวมทั้งการล่าเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ |
||||
ทุกวันนี้แม้จะมีการกำหนดกฎกติกาเพื่อป้องกันการล่าปลาวาฬ แต่ปลาวาฬยังคงถูกล่าเฉลี่ยปีละ ๑,๐๐๐ ตัว ประเทศที่เป็นนักล่าตัวฉกาจ คือ ญี่ปุ่นและนอร์เวย์ ก่อนหน้านี้ประเทศสมาชิกสมาพันธ์ปลาวาฬสากล ได้ลงมติร่วมกัน ให้เขตมหาสมุทรทางซีกโลกใต้ เป็นเขตปลอดการล่าปลาวาฬทุกชนิด แต่ญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะลงมติ เดือนกรกฎาคม ๒๕๔๔ สมาพันธ์ปลาวาฬสากลจะจัดประชุมประจำปี ณ กรุงลอนดอน ประเทศสมาชิกที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด เห็นจะหนีไม่พ้นญี่ปุ่น ปีนี้รัฐบาลญี่ปุ่นอนุญาตให้นำปลาวาฬที่ติดอวนมาโดยไม่ตั้งใจ ออกขายในตลาดได้ ทำให้กลุ่มนักอนุรักษ์ปลาวาฬออกมาวิจารณ์ว่า นี่เป็นช่องทาง ที่จะทำให้มีการล่าปลาวาฬมากขึ้น เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยโอ๊กแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ได้สุ่มตัวอย่างเนื้อปลาวาฬ ในตลาดของญี่ปุ่นมาตรวจดีเอ็นเอ พบว่าตัวอย่างเนื้อปลาวาฬที่ได้มาบางชิ้น เป็นเนื้อของปลาวาฬชนิดใกล้สูญพันธุ์ ได้แก่ ปลาวาฬสีน้ำเงิน ปลาวาฬฟิน และปลาวาฬฮัมแบ็ก นั่นหมายความว่าญี่ปุ่นลักลอบล่าปลาวาฬหลายชนิดที่ห้ามล่าเด็ดขาด |
|||||
ฉบับหน้า กับระเบิด นักฆ่าผู้ซื่อสัตย์ |
ปีนี้กองเรือประมงญี่ปุ่น มีโครงการจะล่าปลาวาฬมิงค์ ๔๔๐ ตัว และเป็นปีแรกที่จะมีการล่าปลาวาฬที่ใกล้สูญพันธุ์ คือ ปลาวาฬสเปิร์ม ๑๐ ตัว ปลาวาฬบรูด้า ๕๐ ตัว โดยอ้างว่าเป็นการล่าเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประเทศสมาชิกสมาพันธ์ปลาวาฬสากลตั้งข้อสงสัยว่า งานวิจัยอะไรถึงต้องล่าปลาวาฬมากขนาดนั้น หรือจริง ๆ แล้วเบื้องหลังคือการค้า มุ่งหาเนื้อปลาวาฬมาขายกันมากกว่า ก่อนที่การประชุมจะมีขึ้น นายโจจิ โมริชิตา รองอธิบดีกรมประมงของญี่ปุ่น กล่าวยืนยันว่า ในมุมมองของคนญี่ปุ่นแล้ว ปลาวาฬเป็นสัตว์ทะเล ที่มนุษย์สามารถล่า เพื่อนำมาเป็นอาหารได้ คนญี่ปุ่นนั้น ไม่ค่อยบริโภคสัตว์บกขนาดใหญ่เป็นอาหาร ประกอบกับประเทศมีพื้นที่น้อย ไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ ให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการ ทุกวันนี้เนื้อสัตว์ที่คนญี่ปุ่นบริโภค ร้อยละ ๗๕ นำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้นคนญี่ปุ่นจึงจำเป็นต้องออกเรือ ไปหาอาหารในทะเล "ไม่แปลกอะไรที่อาหารในวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น เป็นอาหารทะเล ขณะที่อาหารในวัฒนธรรมของคนยุโรป และคนอเมริกัน คืออาหารจากปศุสัตว์" นายโจจิกล่าว นายโจจิคงอยากจะบอกตรง ๆ ว่า คนญี่ปุ่นกินเนื้อปลาวาฬ ไม่ต่างอะไรกับที่คนอังกฤษ กินกระต่าย หรือคนจีนกินเนื้อหมา เอาเข้าจริงแล้ว ในการประชุมที่ว่านี้แม้ญี่ปุ่นจะถูกรุมตำหนิ แต่ดูเหมือนญี่ปุ่นไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไร ที่ผ่านมาญี่ปุ่นก็ทำผิดกฎ กติกา มารยาทของการล่าปลาวาฬมาโดยตลอด ไม่เห็นประเทศสมาชิกจะทำอะไรได้ "ยักษ์ใหญ่" อย่างญี่ปุ่นทำอะไรก็ดูไม่น่าเกลียด แม้จะกินสัตว์ใหญ่อย่างปลาวาฬก็ตาม แต่ถ้าประเทศเล็ก ๆ อย่างไทยเกิดจะกินเนื้อช้างเป็นอาหารประจำวันบ้าง คงถูกกดดันหรือถูกกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศอย่างสุดลิ่มแน่นอน |
||||
|