|
|
|
|
สิงคโปร์อีกแล้ว
สิงคโปร์--ประเทศที่หลายคนอยาก ใช้เป็นแม่แบบในการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่อีกด้านหนึ่ง รัฐบาลลูกหลานลีกวนยู
มักจะออกกฎเกณฑ์หยุมหยิม มาบังคับใช้กับพลเมือง โดยอ้างว่าเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
โดยไม่สนใจว่าพลเมือง จะอัดอั้นตันใจอย่างไร
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลพยายามส่งเสริม ให้ผู้หญิงที่มีการศึกษาแต่งงาน และมีลูกมาก ๆ จึงการออกระเบียบว่า หากคุณแม่คนใด มีลูกมากกว่าหนึ่งคน จะได้ลดหย่อนภาษีก้อนโต
ในขณะเดียวกัน ก็ไม่สนับสนุนให้ผู้หญิงสิงคโปร์ ที่การศึกษาต่ำ มีลูกมากเกินหนึ่งคน โดยเสนอเงินก้อนโตล่อใจให้คุณแม่เหล่านี้ทำหมัน หลังจากคลอดลูกคนแรก
ล่าสุดรัฐบาลสิงคโปร์ ออกประกาศเตือน บรรดาผู้อาศัยอยู่ในตึกสูง จำนวนหลายแสนครอบครัว ให้เคลื่อนย้ายกระถางต้นไม้ กรงนก และสิ่งอื่น ๆ ออกไปให้พ้นระเบียง
หรือหน้าต่างเสียดี ๆ มิฉะนั้นจะถูกลงโทษ
และรัฐบาลกำลังพิจารณา ปรับปรุงกฎหมายให้เข้มงวดขึ้น เพื่อจัดการกับเจ้าของห้องตามตึก ที่ปล่อยให้สิ่งของในห้องตัวเอง หล่นลงมาบนพื้นถนน
ที่มาของเรื่องนี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเดือนเมษายนปีกลาย เมื่อเด็กหญิงวัย ๕ ขวบผู้หนึ่ง ถูกกระถางต้นไม้ จากตึกสูงหล่นใส่ศีรษะ จนถึงแก่ความตาย ซึ่งนับเป็นรายแรกของประเทศ
กฎหมายที่คอยควบคุมความประพฤติ ของประชาชนชาวแฟลตทั้งหลาย ดูท่าจะเข้มงวดกวดขันมาก ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัฐของสิงคโปร์ เคยไล่เจ้าของห้อง
ออกจากแฟลตมาแล้วไม่ต่ำกว่าห้าราย หลังจากพบว่า เจ้าของห้องเหล่านี้ พลั้งเผลอปล่อยให้ของในห้องตัวเอง หล่นลงมาบนพื้นถนน ตั้งแต่กระถางต้นไม้ ไปจนถึงเตาไมโครเวฟ
และขวดชนิดต่าง ๆ โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
"เจ้าหน้าที่ของเรา จะเป็นผู้พิจารณาโทษของความผิด ว่ารุนแรงเพียงใด กรณีใดเป็นกรณีที่เสี่ยงต่ออันตรายของคน บนท้องถนน และกรณีใดถือว่ายังไม่ร้ายแรง" โฆษกท้องถิ่นของสิงคโปร์กล่าว
ทุกวันนี้สิงคโปร์มีประชากร คิดเป็นครอบครัวทั้งหมด ๙๕๐,๐๐๐ ครอบครัว และมากกว่าร้อยละ ๘๐ ของประชากรจำนวน ๔ ล้านคนอาศัยอยู่ในตึกสูง
ห้องที่อยู่อาศัยนั้นแคบมาก จนต้องใช้ระเบียงให้เป็นประโยชน์ทุกตารางนิ้ว ทั้งวางกระถางต้นไม้ ดอกไม้ จนแม้กระทั่งใช้เป็นที่ทำครัว
ห้องน้ำในแฟลตบางแห่ง มีขนาดเล็กมาก ชนิดคนอ้วนแทบจะพลิกตัวไม่ได้ ต้องติดตั้งฝักบัวอาบน้ำ อยู่เหนือโถส้วมเลยทีเดียว
ข่าวไม่ได้แจ้งว่า บรรดาประชาชนชาวแฟลต ชาวอพาร์ตเมนต์ มีปฏิกิริยาอย่างไรกับกฎหมายใหม่ที่เข้มงวดนี้ ปรกติชาวสิงคโปร์ผู้มีการศึกษา
ก็เป็นคนว่านอนสอนง่ายอยู่แล้ว ต่างคนต่างอยู่ ไม่ค่อยมีปากมีเสียงหรือคิดรวมกลุ่มเพื่อเรียกร้องสิทธิใด ๆ
สิงคโปร์จึงเป็นเมืองน่าอยู่ น่าปกครอง ด้วยเหตุฉะนี้
|
|