สองฝ่ายที่เผชิญหน้ากันอยู่ ดูไม่ใช่คู่ปรับคู่เปรียบที่เหมาะสมกันเลย ผาหินตระหง่านฟ้านั้นแข็งแกร่งยิ่งใหญ่ ขณะที่มนุษย์ที่ยืนอยู่ตีนผาดูเล็กจ้อยต้อยต่ำเหลือเกิน แต่หลายคนก็เคยฝ่าข้าม พิชิตถึงยอดเขามาแล้ว...เป็นการพิชิตโดยไม่ยึดครองอะไร เป็นเรื่องแปลกที่น่าทำความเข้าใจ ว่าทำไมผู้คนในโลกสมัยใหม่ ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ให้เลือกหยิบฉวยมาปรนเปรอชีวิตได้อย่างล้นเหลือ จึงเลือกที่จะออกมาผจญความลำบากบนผาหิน ที่มองไม่เห็นผลตอบแทนอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ปีนป่ายหน้าผาขึ้นไปด้วยสองมือเปล่า และกลับลงมามือเปล่า...
กว่า ๑๐ ปีมาแล้วที่กีฬาปีนเขาแพร่มาถึงไร่เล หากถามถึงวันเวลาที่แน่นอน คงไม่มีชาวเลคนไหนบอกได้ การจดบันทึกไม่เกี่ยวข้องอะไรกับวิถีชีวิตของการประมง สิ่งที่อุบัติขึ้นและดำเนินไปในชุมชนชายเล จึงเป็นเหมือนรอยเท้าบนผืนทราย เกิดขึ้นแล้วก็ผ่านเลยไปในเกลียวคลื่นแห่งกาลเวลา จะหลงเหลืออยู่บ้างก็แต่ในความทรงจำของผู้คน ถ้าย้อนความตามหลักฐานที่บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร จะพบชื่อของ Dominique Potard และ Francois Burnier เป็นชื่อแรก ๆ ในหนังสือไกด์บุ๊ก ในฐานะผู้นำเมล็ดพันธุ์ของเกมกีฬาแห่งความท้าทายมาหว่านลงบนแผ่นดินไร่เล ต่อมานักปีนเขาชาวอเมริกันกลุ่มใหญ่ นำโดย Todd Skinner มาสำรวจบุกเบิกเส้นทางปีนเขาที่ไร่เลอย่างจริงจัง และมีการบันทึกทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวกลับไปด้วย ภาพผาหินท่ามกลางทิวทัศน์ชายทะเลอันพิสุทธิ์และงดงาม ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง หลังจากนั้นนักปีนผาจากทั่วทุกมุมโลกก็ทยอยกันมาเยือนไร่เลอย่างคึกคัก จากวันนั้น...กีฬาปีนผาก็หยั่งรากลงที่ไร่เลอย่างมั่นคง และเป็นดินแดนแห่งแรกที่กีฬาปีนเขาเข้ามาปักธงในประเทศไทย