๑๔ ปี คลินิกคนไข้แห่งสงคราม
ของแพทย์หญิงชาวกะเหรี่ยง ซินเทีย มาว
อองซาน ซูจี เลขาธิการพรรค NLD เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี ค.ศ. ๑๙๙๐ * *(จากนิตยสาร ELLE พฤษภาคม ๒๕๔๖)
เกเก เป็นชื่อของเด็กชายกำพร้าวัยขวบเศษ ติดเชื้อเอชไอวีตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ พ่อแม่ของเด็กน้อยเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ ทางคลินิกจึงรับเลี้ยงเกเกไว้ด้วยความสงสาร เจ้าหน้าที่และคนไข้ทุกคนในคลินิกต่างรักและเอ็นดูเด็กชายผู้นี้ และหวังให้เด็กน้อยมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปให้นานที่สุด ไม่เพียงแต่เกเกเท่านั้นที่เติบโตมาโดยแทบไม่มีโอกาสเห็นหน้าพ่อแม่ ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พื้นที่ซึ่งมีประชาชนจากประเทศพม่าอพยพมาทำงานมากที่สุดแห่งหนึ่ง มีเด็กกำพร้าถูกทอดทิ้งจำนวนไม่น้อย พ่อแม่ของเด็กเหล่านี้ไม่รู้จักวิธีคุมกำเนิด เมื่อมีลูกมากเกินไปจึงดูแลไม่ไหว แต่ละเดือน มีผู้หญิงที่พยายามทำแท้งเองและเสียเลือดมากจนต้องหามส่งคลินิกถึง ๓๐ ราย หมอซินเทียกล่าวถึงที่มาของปัญหาเหล่านี้ว่า "ประชาชนในพม่าส่วนใหญ่ขาดโอกาสในการศึกษาและขาดความรู้ ในการดูแลสุขภาพตนเอง พ่อแม่ของเด็กเหล่านี้ไม่มีความรู้ในการป้องกันตัวเองจากโรคเอดส์ รวมทั้งไม่มีความรู้ในการคุมกำเนิด อัตราการทำแท้งและเด็กกำพร้าจึงเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน" แพทย์หญิงชาวกะเหรี่ยงเริ่มต้นแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่เปิดศูนย์เด็กเล็ก ให้การศึกษาแก่ลูกหลานแรงงานอพยพ เปิดหลักสูตรอบรมความรู้ด้านการแพทย์ ให้แก่เยาวชนจากประเทศพม่า ที่ต้องการกลับไปทำงานช่วยเหลือชุมชนของตนเอง โดยคัดเลือกผู้เข้าเรียนจากประชาชนหลากหลายกลุ่มชาติพันธุ์ อาทิ ไทยใหญ่ คะฉิ่น ปะหล่อง กะเหรี่ยง มอญ เป็นต้น "ประชาชนจากประเทศพม่าอดทนรอคอยการเปลี่ยนแปลงมานานหลายสิบปี ระหว่างที่รอคอยการเปลี่ยนแปลง เราก็พยายามสร้างประสิทธิภาพในการทำงานของเรา ให้เข้มแข็งมากขึ้น ตลอด ๑๐ ปีที่ผ่านมา เราเห็นว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ประชาชนต้องเผชิญกับความเจ็บปวดมากขึ้น เราไม่อาจทนรออยู่เฉย ๆ ต่อไปได้ จึงต้องพยายามสร้างให้คนในสังคมดูแลสุขภาพของตนเองได้"
ปี ๒๕๔๔
ปี ๒๕๔๕
ปี ๒๕๔๖