นิตยสาร สารคดี: ฉบับที่ ๒๒๐ เดือนมิถุนายน ๒๕๔๖ | ISSN 0857-1538 |
|
ฉบับหน้า มอเตอร์ไซค์ พาหนะของคนจน |
ในรอบหลายปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์หรืออีโคทัวร์
ดูจะเป็นแนวทางที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
หรือ ททท. ให้ความสนใจมาก และพยายามนำมาใช้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ |
||
ผมจึงเจอคนหนุ่มสาวและคนชราจำนวนมาก
เดินสวนกันเป็นปรกติในป่าหลายแห่งที่ออสเตรเลีย ด้วยเหตุผลเดียวคือ ไม่อยากให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศอันเปราะบาง การเดินทางด้วยเท้าจึงเป็นหัวใจสำคัญของอีโคทัวร์ เพราะการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์คือการเดินทาง ท่องธรรมชาติอย่างสนุก ได้ความรู้ และไม่ทำร้ายธรรมชาติ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้มีข่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะทำโครงการกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดดอยเชียงดาว ภูเขาหินปูนที่สูงเป็นอันดับสามของประเทศ รองจากดอยอินทนนท์และดอยผ้าห่มปก เหตุผลง่าย ๆ ก็คือ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นยอดดอยเชียงดาวได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องเดินเท้าปีนขึ้นไป อันที่จริงปัจจจุบันการเดินทางขึ้นยอดดอยเชียงดาวที่มีความสูง ๒,๒๒๕ เมตร ก็ไม่ใช่เรื่องยากลำบากนัก เพราะมีถนนจากตีนดอยให้ขับรถขึ้นไปจนถึงหน่วยพิทักษ์ป่าเด่นหญ้าขัด ใช้เวลาราว ๒ ชั่วโมง บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าฯ มีที่กางเต็นท์ ห้องน้ำ และแหล่งน้ำ ให้ค้างแรมอย่างสะดวกสบาย มีทางเดินป่าลัดเลาะขึ้นไปตามเขาจนถึงยอดดอยเชียงดาว ใช้เวลาเดินเพียง ๕ ชั่วโมง ตามเส้นทางที่เดินเราจะเห็นสภาพป่าที่เปลี่ยนแปลงไปตามความสูงของภูมิประเทศ ตั้งแต่ทุ่งหญ้า สังคมป่าดิบเขา ไปจนถึงสังคมพืชอัลไพน์บนยอดดอย ซึ่งมีพรรณไม้หายาก อาทิ ชมพูเชียงดาวที่มีแห่งเดียวในโลก กุหลาบดอยเชียงดาว พืชเฉพาะถิ่นที่ ททท. นำมาโฆษณาในแคมเปญชุดใหม่ Unseen in Thailand และกล้วยไม้ที่เพิ่งพบใหม่ล่าสุดของโลก คือ กล้วยไม้สิรินธร ทุกปีเราจะเห็นนักท่องเที่ยวทั้งเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ คนชรา พากันปีนขึ้นยอดดอยเชียงดาว ด้วยความเบิกบานใจ พวกเขารู้แก่ใจว่า การเดินเท้าเป็นการเที่ยวป่าที่รบกวนธรรมชาติน้อยที่สุด การเดินเท้าขึ้นดอยเชียงดาวจึงเป็นตัวอย่างของอีโคทัวร์ที่ดีที่สุด หลายครั้งที่ผมยืนอยู่หน้าดอยเชียงดาว และรู้ว่าความก้าวหน้าทางวิศวกรรม คงจะสามารถสร้างกระเช้าลอยฟ้าได้สำเร็จ ถึงจะเป็นการผิดกฎหมาย เพราะดอยเชียงดาวอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาวก็เถอะ แต่นึกถึงการลงเสาเข็มทะลุภูเขาหินปูนนับร้อยต้นเพื่อสร้างเสาเคเบิล การตัดต้นไม้จำนวนมหาศาลเพื่อก่อสร้างบ้านพัก ร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลที่อยากมาพิชิตดอยด้วยกระเช้าไฟฟ้า ไม่นับรวมไปถึงการเหยียบย่ำลงไปบนพืชอัลไพน์จำนวนมาก ที่กว่าจะโตขึ้นมาได้เพียง ๒-๓ เซนติเมตร อาจใช้เวลาถึง ๓๐ ปี หาก ททท. มีจุดยืนเรื่องอีโคทัวร์อย่างชัดเจน ทัศนะของ ททท. ต่อกรณีกระเช้าไฟฟ้าบนดอยเชียงดาวจึงน่าสนใจยิ่ง |
|||
|