นิตยสาร สารคดี: ฉบับที่ ๒๒๑ เดือนกรกฎาคม ๒๕๔๖ | ISSN 0857-1538 |
|
ฉบับหน้า วันนี้ของ นกแต้วแล้วท้องดำ |
แม่ลาน้อย เป็นอำเภอเล็ก ๆ อำเภอหนึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอน |
||
ถ้ำแห่งนี้อยู่บนเขาหินปูนละแวกเดียวกับบริเวณโรงโม่หิน เรียกว่า ถ้ำแก้วโกมล อยู่ในวนอุทยานแก้วโกมล เราเดินไปตามทางเดินที่ทอดลงสู่ด้านล่าง ผนังและเพดานถ้ำเป็นผลึกแร่แคลไซต์มีรูปร่างหลากหลาย คล้ายปะการัง ดอกกะหล่ำ และเกล็ดน้ำแข็ง ยามต้องแสงไฟจะสะท้อนแสงระยิบระยับ เป็นสีขาวและสีเหลืองสวยงามยิ่ง เจ้าหน้าที่วนอุทยานฯ ที่พาเราชมถ้ำ บรรยายว่า ถ้ำแก้วโกมลมีลักษณะเฉพาะตัว เกิดจากกระบวนการกลั่นตัวของไอน้ำร้อน ที่อิ่มตัวด้วยสารละลายแคลเซียมไบคาร์บอเนต จนเกิดเป็นผลึกแร่แคลไซต์ที่เกาะอยู่ตามผนังรอบถ้ำ เราไต่ลงไปตามทางแคบ ๆ ที่นำไปสู่ห้องต่าง ๆ ที่งดงามไปด้วยผลึกทางธรรมชาติ และไต่ลึกลงไปเรื่อย ๆ ไม่ต่ำกว่า ๕๐ เมตรจากปากถ้ำ ใจอดชื่นชมผู้ที่ค้นพบถ้ำแห่งนี้ไม่ได้ ถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบโดยบังเอิญเมื่อ ๑๐ กว่าปีก่อน ขณะที่วิศวกรเหมืองแร่ของบริษัทที่ได้รับสัมปทานทำแร่ฟลูออไรต์ในเขาลูกนี้ ออกสำรวจหาสายแร่ เมื่อวิศวกรท่านนี้ได้พบถ้ำอันงามวิจิตร ก็นำความไปแจ้งกับทางกรมทรัพยากรธรณี เพื่อที่ทางกรมทรัพย์ฯ จะได้ส่งนักธรณีวิทยามาสำรวจและอนุรักษ์ไว้ ในเวลาต่อมาพื้นที่บริเวณถ้ำนี้ถูกถอนประทานบัตร พื้นที่ประมาณ ๕๑ ไร่ถูกกันออกมาเพื่อประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานแก้วโกมล หากวิศวกรนิรนามท่านนี้ไม่ใส่ใจ ป่านนี้ถ้ำแห่งนี้คงถูกขุดพังพินาศ หรือถูกระเบิดป่นปี้เป็นสะเก็ดหินไปหมดแล้ว แต่ผลกรรมของการเป็นพลเมืองดี ทำหน้าที่ดูแลทรัพยากรของชาติ ก็คือ เขาถูกบริษัทไล่ออกทันที เพราะทำให้บริษัทเสียผลประโยชน์ จากการที่พื้นที่บางส่วนถูกถอนประทานบัตร ไม่มีใครรู้ว่าวิศวกรคนนี้คือใคร และปัจจุบันทำงานอะไร เจ้าหน้าที่เล่าว่า วิศวกรท่านนี้สำรวจถ้ำอย่างยากลำบาก ต้องไต่เชือกจากด้านล่างขึ้นไปทีละขั้น ๆ กว่าจะพบปากถ้ำที่เราเดินลงมา ตลอดเวลาที่อยู่ในถ้ำ ทุกคนได้รับคำเตือนไม่ให้แตะต้องผนังถ้ำใด ๆ เพราะอาจสร้างความขุ่นมัวกับผลึกแร่ และที่สำคัญคือ ผลึกแร่ที่มีอายุเก่าแก่ใช้เวลาหลายแสนปีในการตกผลึกนั้น มีความเปราะบางมากกว่าที่เราคิดนัก อายุที่ยาวนานขึ้นก็ใช่ว่าจะทำให้จิตใจของมนุษย์เปราะบางน้อยลง |
|||
|