Contact Us
สาระเพื่อนักเดินทาง และการท่องเที่ยว อย่างเข้าใจและรอบรู้
www.Thaitraveler.com
ภูเรือ... ไม่สูง แต่หนาว
เผลอแผล็บเดียวจะเข้าหน้าหนาวอีกปีแล้วสินะ อย่ากระนั้นเลย เราไปตากอากาศ "ก่อนหนาว" ที่ภูเรือกันดีกว่า เป็นการซ้อมไว้ให้พร้อมก่อนเที่ยวในหน้าหนาวจริง ๆ ที่จะมาถึง "นายรอบรู้" จะถือโอกาสนี้ทดสอบเสื้อกันหนาวและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่คุณพี่มิสเตอร์แบ็กแพ็กแนะนำไว้ในหนังสือขายดี ๑๐๘ ไอเดีย camping ด้วย
ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่หนาว แม้ภูเรือจะมีความสูงไม่ติดสิบอันดับภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย หรืออยู่สูงขึ้นไปทางตอนเหนือเท่าเชียงใหม่หรือเชียงราย แต่สำหรับเรื่องความหนาวเย็นแล้ว "นายรอบรู้" รับรองว่าภูเรือไม่แพ้ใครแน่ แถมยังอยู่ในอันดับต้น ๆ เสมอ ในปีที่อากาศหนาวจัด ก็มักพบปรากฏการณ์เกล็ดน้ำแข็งจับบนยอดหญ้า ที่ชาวบ้านเรียกว่า
"แม่คะนิ้ง"
ด้วย ช่วงก่อนหนาวอย่างนี้ ภูเรือจึงหนาวเย็นพอให้เราได้สัมผัสอย่างสบาย ดีเสียอีก เพราะช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะบางตากว่าหน้าหนาวจริง ๆ ซึ่งภูเรือจะละลานตาไปด้วยสีสันจากเสื้อกันหนาว ของนักท่องเที่ยวที่จะพากันมา "อาบ" ความหนาวเย็น
นอกจากความหนาวเย็นตลอดปีแล้ว สิ่งที่ทำให้ภูเรือเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ก็อาจเป็นเพราะจุดเที่ยวชมส่วนใหญ่อยู่ริมถนนลาดยางที่ตัดขึ้นสู่ยอดภู สามารถจอดรถลงไปชมได้สะดวก เริ่มจากจุดชมวิวเดโช ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการฯ ประมาณ ๑.๘ กม. เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสจะสามารถมองเห็นทิวเขาต่างๆ ของเมืองเลยได้ ถัดไปอีกประมาณ ๔๐๐ ม. เป็นผาซำทองซึ่งสามารถใช้เป็นจุดชมวิวทิวเขาของเลยได้อีกจุดหนึ่ง ที่มีชื่อซำทองก็เพราะหน้าผาสูงชันแห่งนี้ เป็นแหล่งน้ำซับ (ซำเป็นภาษาอีสาน แปลว่าแหล่งน้ำซับ) และมีไลเคนสีเหลืองคล้ายสีทองขึ้นเป็นจำนวนมาก ถัดไปประมาณ ๖๐๐ ม. จะถึงหินเต่า ลักษณะเป็นสวนหินพื้นที่ไม่กว้างมากนัก แต่โดดเด่นด้วยหินที่จินตนาการว่าเป็นรูปเต่า ถัดไปประมาณ ๗๐๐ ม. ถึงด่านตรวจจุดที่ ๒ ลงเดินไปตามทางดินด้านขวามือประมาณ ๑๐๐ ม. ก็จะถึงผาโหล่นน้อย ผาโหล่นน้อยเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมาก ณ จุดนี้มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ ๑,๓๒๐ ม. สามารถมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่ง และทะเลภูเขาสลับซับซ้อนสวยงามยิ่ง
จากด่านตรวจจุดที่ ๒ ถ้าเดินไปบนถนนลาดยางอีกประมาณ ๗๐๐ ม. ก็จะถึงไฮไลต์ของอุทยานฯ นั่นก็คือ ยอดภูเรือ แต่ "นายรอบรู้" แนะนำให้เดินตามทางดินที่ทางอุทยานฯ จัดไว้ให้ศึกษาธรรมชาติ จะได้สัมผัสธรรมชาติกันมากกว่าเดินบนถนน จุดเริ่มต้นอยู่ทางด้านขวามือของถนน ตรงข้ามด่านตรวจ เส้นทางเดินจะลัดเลาะไปตามขอบหน้าผา สองข้างทางมีพรรณไม้เล็ก ๆ น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะพืชกินแมลง เช่น จอกบ่วาย ดุสิตา จากนั้นจะผ่านป่าดงดิบเขาที่มีไม้ยืนต้นขึ้นหนาแน่น แม้จะเป็นช่วงสั้น ๆ แต่ก็ช่วยให้สดชื่นจากอากาศที่เย็นชื้นและร่มครึ้ม เดินสบายกว่าบนถนนที่ร้อนจากไอแดดมาก ไม่นานก็ถึงยอดภูเรือ ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดในอุทยานฯ โดยสูง ๑,๓๖๕ ม. จากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามได้รอบด้าน วันไหนอากาศดีท้องฟ้าแจ่มใส จะสามารถมองไปไกลจนเห็นแม่น้ำเหือง และแม่น้ำโขง ซึ่งกั้นพรมแดนไทยกับลาวโน่นเลย ส่วนบริเวณโดยรอบภูนั้น เป็นลานหินธรรมชาติที่แซมด้วยทุ่งหญ้าสลับกับป่าสน ซึ่งมีทั้งสนสองใบที่ขึ้นตามธรรมชาติ และสนสามใบที่เป็นสนปลูก ตามก้อนหินถ้าไม่มีรอยขีดเขียนของคนมือบอน ก็จะมีไลเคนขึ้นประดับเป็นดอกดวงดูสวยงามมาก ยอดภูเรือยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนาวาบรรพต ซึ่งมีประวัติว่า ชาวภูเรืออัญเชิญมาจากวัดพระญาติ จ. พระนครศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๐
จากยอดภูเรือมีเส้นทางเดินผ่านทุ่งหญ้าที่มีต้นไม้เล็กๆ ขึ้นปะปน แต่ที่น่าสนใจเป็นดอกไม้เล็กๆ ที่ฤดูนี้ยังพอมีประดับพื้นให้เดินชมอย่างเพลิดเพลิน เช่น กระดุมเงิน เปราะภู ดาวเรืองภู เป็นต้น ถ้าเป็นช่วงฤดูฝน บริเวณป่าสนที่เรียกว่าทุ่งกวางตาย จะมีดอกกระเจียวบานไปทั้งทุ่ง นอกจากนี้ยังมีลานหินพานขันหมาก ลักษณะเป็นลานหินที่แตกเป็นรอยตื้นๆ เต็มไปด้วยดอกไม้ต่างๆ เช่น เอื้องม้าวิ่ง เอื้องนวลจันทร์ เส้นทางเดินนี้จะวกลงมาสู่ที่กางเต็นท์ และสามารถเดินลงมาถึงที่ทำการฯ ได้ด้วย
ความจริงแล้วอุทยานแห่งชาติภูเรือ ยังมีที่เที่ยวที่ต้องใช้เวลาเดินชมพอสมควร เช่น น้ำตกห้วยไผ่ซึ่งมีความสวยงาม จากสายน้ำที่ไหลลงมาตามผาหินสูงประมาณ ๓๐ เมตร สวนหินพาลีซึ่งเป็นสวนหินขนาดใหญ่ มีก้อนหินรูปร่างแปลกตาตั้งอยู่เรียงราย บางก้อนคล้ายเสาหินสูงตระหง่าน บางก้อนมีส่วนฐานเล็ก แต่ยอดแผ่ออกเป็นครีบ กลายเป็นเพิงหิน ใช้หลบแดดได้เป็นอย่างดี บ้างคล้ายดอกเห็ด เกิดจากหินก้อนใหญ่ทับอยู่บนหินอีกก้อนหนึ่ง บางก้อนก็แหว่งเว้า ชวนให้จินตนาการว่าเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ กลุ่มหินรูปทรงประหลาดเหล่านี้ เป็นส่วนที่เหลือจากการผุพังของชั้นหินทราย ซึ่งเป็นหินที่พบได้ทั่วไปทางภาคอีสาน เป็นต้น
เห็นไหมล่ะ ภูเรือมีอะไรน่าเที่ยว เกินกว่าจะขับรถขึ้นมาสูดอากาศแป๊บเดียวแล้วก็กลับไป เรามากางเต็นท์พักแรมที่นี่สักคืนหนึ่ง จากนั้นจะไปที่ไหนต่อค่อยว่ากันใหม่ดีกว่า ถ้าไม่สะดวกกางเต็นท์ ทางอุทยานฯ ก็มีบ้านพัก แต่ควรติดต่อจองบ้านล่วงหน้าที่ส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ หรือที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ ต. หนองบัว อ. ภูเรือ จ. เลย ๔๒๑๖๐
การเดินทางก็ง่ายดายเหลือเกิน จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑ ผ่าน จ. สระบุรี จนถึงแยกพุแค จึงแยกเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๒๑ ผ่าน จ. ลพบุรีและ จ. เพชรบูรณ์ เมื่อถึง อ. หล่มสักให้เปลี่ยนไปใช้ทางหลวงหมายเลข ๒๐๓ จนถึง อ. ภูเรือ เมื่อถึงที่ว่าการอำเภอภูเรือ มีทางแยกซ้ายมือสู่ที่ทำการอุทยานฯ ระยะทางประมาณ ๔ กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๗ ชม.