
ไม่แน่ว่าเมื่อครั้งพุทธกาล คามวาสีกับอรัญวาสีมีการแบ่งกันมาเมื่อใด แต่ในสยามช่วงเวลาที่พระป่าเป็นที่รู้จักมากที่สุด คงเป็นยุค “กองทัพธรรม” พระป่ากัมมัฏฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระสงฆ์ธรรมยุติกนิกายสายวิปัสสนาธุระ ที่เคร่งครัดในธุดงควัตรโดยเฉพาะการฉันมื้อเดียว และฉันในบาตรเดียว ปฏิบัติภาวนากัมมัฏฐาน มุ่งการบรรลุธรรม แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าพระป่าสยามมีมาก่อนหน้านั้น นับแต่พุทธศาสนาเข้าสู่ดินแดนที่เป็นประเทศไทยปัจจุบัน ก็ปรากฏร่องรอยหลักฐานว่าอรัญวาสี หรือพระป่า มีมาตั้งแต่ต้น และยังต่อเนื่องสืบมาจนปัจจุบัน เส้นทางพระป่าสยามตลอดสาย ยาวนานและยาวไกล บางยุคสมัยเป็นเพียงเรื่องเล่ามุขปาฐะ ความทรงจำ บันทึกส่วนตัว รวมถึงการเก็บหลักหลักฐานข้อมูลอย่างเป็นวิชาการ บันทึกร่องรอยความเป็นมาของพระป่าสยามที่สารคดีได้อาศัยรวบรวมประมวลความ และตามรอยเส้นทางแห่งการบำเพ็ญสมณธรรมสู่ความพ้นทุกข์ของบูรพาจารย์และพระป่ากัมมัฏฐานร่วมสมัย ไว้เป็นแหล่งความรู้เชิงปริยัติ บันดาลใจสู่การปฏิบัติ เพื่อผลปฏิเวธในท้ายที่สุด พระครูวิเวกพุทธกิจ (เสาร์ กนฺตสีโล) / พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต / พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม / พระราชวุฒาจารย์ (ดูลย์ อตุโล) / พระอาจารย์ทองรัตน์ กนฺตสีโล / พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ลี ธมฺมธโร) / พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร / พระอาจารย์หลุย จนฺทสาโร / พระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสมฺปนฺโน) ฯลฯ