เรื่อง : จักรพันธ์ กังวาฬ
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เปิดเผยผลการตรวจสอบอาหารในท้องตลาด พบปัญหาอาหารใช้น้ำมันทอดซ้ำเพิ่มสูงขึ้นทั้งในตลาดสด ซูเปอร์มาร์เกตและฟาสต์ฟูด หลังน้ำมันพืชราคาแพงขึ้น
นพ. นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ผลการเก็บตัวอย่างตรวจน้ำมันทอดอาหารตามสถานที่จำหน่ายอาหารในเขต กทม. ปี ๒๕๕๐ พบน้ำมันทอดอาหารที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานถึง ๑๗-๒๐ % ถือว่าเป็นอัตราที่สูงมาก
จำแนกตามสถานที่จำหน่ายอาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ ได้แก่ ตลาดสด ๑๙.๐๔ % ตลาดนัด ๓๖.๓๗ % ร้านอาหารฟาสต์ฟูดและซูเปอร์มาร์เกต ๑๗.๕๘ %
คิด เป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น ๓-๔ เท่าจากปี ๒๕๔๘ ซึ่งพบน้ำมันทอดซ้ำในตลาดนัด ๒.๒๙ % ร้านอาหารฟาสต์ฟูดและซูเปอร์มาร์เกต ๘.๘๒ % ขณะที่ในปี ๒๕๔๙ พบน้ำมันทอดซ้ำในตลาดสด ๓.๘๐ % ตลาดนัด ๑.๓๓ % ร้านอาหารฟาสต์ฟูดและซูเปอร์มาร์เกต ๔.๔๓ %
จากผลการตรวจเฝ้าระวังของ อย. ระหว่างปี ๒๔๔๙-๒๕๕๐ พบอาหารที่ใช้น้ำมันทอดไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อทอด หมูทอด ปลาทอด ไก่ทอด และอาหารประเภทแป้ง เช่น พาย พัฟฟ์ กล้วยแขก เฟรนช์ฟราย และปาท่องโก๋ คาดว่าน่าจะมีผู้ประกอบการใช้น้ำมันทอดซ้ำเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากน้ำมันพืชราคาแพงในช่วงที่ผ่านมา
หากเป็นไปได้ผู้บริโภคควร สังเกตน้ำมันที่ร้านหรือแผงที่เราไปซื้ออาหารหากมีกลิ่นเหม็นหืน เหนียวข้น สีดำ เกิดฟอง ควันเหม็นไหม้ แสดงว่าน้ำมันนั้นผ่านการทอดซ้ำมาเป็นเวลานาน ควรหลีกเลี่ยงเพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง