นักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลียพบว่าเลือดจระเข้อาจมีสรรพคุณต้านทานหรือยับยั้งเชื้อไวรัสเอชไอวีที่ทำให้เกิดโรคเอดส์หรือภูมิคุ้มกันบกพร่องในมนุษย์ได้
สมมุติฐานดังกล่าวเกิดจากการสังเกตความเป็นอยู่ของจระเข้ ที่มักต่อสู้กันจนเป็นแผลเหวอะหวะ บ้างก็ถึงกับขาขาด แต่แผลฉกรรจ์เหล่านั้นกลับไม่เกิดการติดเชื้อ เน่าพุพอง และแผลยังปิดสนิทเร็ว ทั้งๆ ที่จระเข้อาศัยในหนองน้ำและพื้นดินที่เต็มไปด้วยเชื้อไวรัสและแบคทีเรียชนิดต่างๆ
การค้นพบครั้งนี้สอดคล้องกับศาสตร์การแพทย์แผนโบราณ โดยเฉพาะแพทย์แผนจีนที่เชื่อว่าจระเข้มีสรรพคุณทางยา โดยระบุถึงการนำส่วนต่างๆ ของจระเข้มาผสมกับสมุนไพรอื่นๆ เป็นยารักษาโรค เช่น โรคหอบหืด ภูมิแพ้ เบาหวาน บำรุงเลือด กระดูก และเส้นเอ็น ใช้ทำน้ำมันนวดแก้ฟกช้ำ รักษาโรคผิวหนังหรือแผลสด เป็นต้น
รายงานข่าวชิ้นนี้อาจจุดประกายความหวังครั้งใหม่ให้แก่ผู้ป่วยโรคเอดส์ทั่วโลก อย่างไรก็ตามภูมิคุ้มกันของจระเข้แตกต่างจากมนุษย์ และมีฤทธิ์แรงมาก จึงต้องผ่านการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมก่อนนำมาใช้รักษาโรคกับมนุษย์โดยตรง
ผู้เชี่ยวชาญบางท่านได้ออกมาเตือนว่า การดื่มเลือดจระเข้สดๆ ที่ยังไม่ผ่านขั้นตอนและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นสิ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะอาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าผลดี