วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ : สัมภาษณ์
บันสิทธิ์ บุณยะรัตเวช, บุญกิจ  สุทธิญาณานนท์ : ถ่ายภาพ

เมื่อ ๓๐ ปีก่อน อดีตนิสิตชุมนุมวิชาการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน ๑๐ คน ที่ยังหลงใหลกลิ่นอายหนังสือ ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทเล็ก ๆ แห่งหนึ่งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะ  “ดำเนินธุรกิจที่เอื้ออำนวยต่อการศึกษาหาความรู้ เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถของคนไทยในสาขาที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ โดยเน้นด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และการศึกษา”  ด้วยทุนจดทะเบียนไม่ถึงแสนบาท

บริษัทมีชื่อสั้น ๆ ว่า “ซีเอ็ด” หรือ “SE-ED” ย่อมาจาก Science, Engineering and Education เริ่มต้นจากการผลิตนิตยสารด้านวิทยาศาสตร์ อาทิ เซมิคอนดัคเตอร์อิเล็กทรอนิกส์, ไมโครคอมพิวเตอร์, ทักษะฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, มิติที่ ๔ (ต่อมาสองเล่มหลังนี้ถูกนำมารวมเข้าด้วยกันในชื่อใหม่ คือ รู้รอบตัว  ก่อนจะปรับปรุงเนื้อหาและรูปเล่มให้ทันสมัยขึ้นเป็น UpDATE ในปัจจุบัน)  รวมถึงหนังสือความรู้ทางวิชาการอื่น ๆ อีกจำนวนมาก

จากผู้ผลิตหนังสือ ซีเอ็ดได้ขยับขึ้นมาเป็นผู้จัดจำหน่ายหรือ “สายส่ง” ระดับแนวหน้า  ก่อนจะขยายกิจการเปิดร้านหนังสือเครือข่ายของตนในเวลาต่อมา

สามสิบปีผ่านไป ซีเอ็ดกลายเป็นสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตหนังสือที่มียอดขายสูงระดับต้น ๆ ของเมืองไทย  เป็นผู้จัดจำหน่ายหนังสือรายใหญ่ที่สุด และมีร้านหนังสือในเครือมากที่สุด ภายในสิ้นปี ๒๕๔๗ นี้คาดว่าจะมีเกือบ ๑๙๐ สาขาทั่วประเทศ และยังมีจุดขายย่อยอีกประมาณ ๑๔๐ แห่ง

ซีเอ็ดกลายเป็นบริษัทที่ครองความเป็นเจ้าสิ่งพิมพ์ มีขอบข่ายงานด้านธุรกิจสิ่งพิมพ์กว้างขวางครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คือเป็นทั้งผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และมีร้านหนังสือในเครือของตนเองไว้รองรับ จนกล่าวได้ ซีเอ็ด คือเบอร์หนึ่งในธุรกิจสิ่งพิมพ์ ผู้ชี้ชะตากรรมของตลาดหนังสือในเมืองไทย

จากทุนจดทะเบียนไม่ถึงแสนบาทและยอดขายไม่กี่ล้านบาทในยุคเริ่มต้น  ปัจจุบัน ซีเอ็ดยูเคชั่นเป็นบริษัทมหาชนที่มีทุนจดทะเบียนสูงกว่า ๓๐๐ ล้านบาท และมียอดขายสูงถึง ๓,๐๐๐ ล้านบาท  เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีอัตราการเติบโตของรายได้รวมสูงสุดในกลุ่มการพิมพ์และสิ่งพิมพ์

ปี ๒๕๔๕  ซีเอ็ดได้รับเลือกจากนิตยสาร Forbes  นิตยสารธุรกิจชั้นนำของโลก ให้เป็น ๑ ใน ๒๐๐ บริษัทยอดเยี่ยมนอกประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคัดเลือกจากบริษัทชั้นนำ ๒ หมื่นรายทั่วโลกที่มียอดขายในระดับไม่เกิน ๑,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ

ดูเผิน ๆ  บริษัทที่เน้นผลิตและจัดจำหน่ายหนังสือวิชาการ หนังสือว่าด้วยความรู้ต่าง ๆ ซึ่งคนไทยให้ความสนใจน้อย ไม่น่าจะประสบความสำเร็จได้ถึงขนาดนี้ ดังนั้นจึงมักจะมีคนตั้งคำถามอยู่เสมอว่า “ซีเอ็ดมีอะไรดี ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งกล่อง”

วันนี้ คุณทนง โชติสรยุทธ์  กรรมการผู้จัดการบริษัทซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน)  หนึ่งในผู้ก่อตั้งรุ่นแรก จะมาเล่าให้เราฟังถึงเบื้องหลัง-เบื้องลึกของความสำเร็จบนเส้นทางธุรกิจสิ่งพิมพ์ตลอดเวลาร่วม ๓๐ ปี กว่าที่ซีเอ็ดยูเคชั่นจะก้าวเดินมาถึงวันนี้

คุณทนงเคยเล่าว่า ในชีวิตไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมายึดอาชีพทำหนังสือ
ผมเริ่มต้นทำหนังสือตั้งแต่ปี ๒๕๑๕ ตอนนั้นยังเรียนอยู่ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ  ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาได้ถึงขนาดนี้ เพราะตอนเริ่มต้นแค่อยากจะทำหนังสือวิชาการ  ผมสนใจอิเล็กทรอนิกส์มาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมต้น ตอนนั้นเรียนที่โรงเรียนสหพาณิชย์ แถวศาลาแดง พยายามซื้อตำราอิเล็กทรอนิกส์ภาษาไทยมาอ่าน แต่ไม่ค่อยมี  ก็เริ่มซื้อหนังสือภาษาอังกฤษมาอ่านเอง  ผมเป็นคนจังหวัดพิษณุโลก กลับบ้านต่างจังหวัดตอนปิดเทอม นึกว่ารู้เรื่องนี้ดีแล้ว อยากลองวิชา เดินหาร้านซ่อมวิทยุร้านหนึ่ง ขอฝึกงานเป็นช่างซ่อมวิทยุ  ตอนนั้นเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อหนึ่งของชีวิตที่ทำให้ผมรู้สึกว่า การอ่านหนังสือไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ผมรู้จริงหรือใช้งานได้  มีคนเอาวิทยุมาให้ซ่อมเครื่องหนึ่ง ผมซ่อมไป กางตำราไป  ซ่อมเป็นชั่วโมงก็ไม่เสร็จ  จนกระทั่งมีช่างคนหนึ่ง เขาเรียนจบแค่ชั้นประถม เห็นผมซ่อมไม่เสร็จสักที ก็มาช่วยดูให้ ภายในไม่ถึง ๕ นาทีเขาซ่อมเสร็จ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่มีหนังสืออิเล็กทรอนิกส์อ่าน  เขาแค่เรียนรู้เอาจากคำบอกเล่าของช่างที่เป็นเจ้าของร้าน   ผมเริ่มรู้สึกว่า ผมเรียนรู้ไม่ถูกวิธีแล้ว  ผมต้องเรียนให้มันลึกซึ้ง เข้าใจ นึกภาพออก และประยุกต์ใช้งานได้  ตรงนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้เรารู้สึกว่าเราต้องฝึกวิธีการเรียนรู้เพิ่มขึ้นแล้ว ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีจุดหนึ่งของชีวิต

หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมแล้ว คงตั้งใจจะเป็นช่างอิเล็กทรอนิกส์มากกว่า
พอจบมัธยมต้น ด้วยความที่ชอบอิเล็กทรอนิกส์มาก ๆ  ผมก็อยากเรียนโรงเรียนที่ติดกับหอสมุดแห่งชาติ คือโรงเรียนวัดราชาธิวาส เพราะผมกะว่าผมจะอ่านหนังสือและวารสารอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดทุกเล่มในหอสมุดแห่งชาติ  ฉะนั้นวันที่เพื่อนฝูงไปสอบที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ผมไม่ได้ไปสอบทั้งที่ก็สมัครไว้ ในที่สุดผมก็มาเรียนที่โรงเรียนวัดราชาธิวาส  และทุกเย็น เป็นธรรมเนียมว่าผมต้องอ่านหนังสือจนกว่าหอสมุดแห่งชาติจะปิด  บ้านผมอยู่บางรัก โรงเรียนอยู่ท่าวาสุกรี  ฉะนั้นผมจะกลับบ้านดึกทุกคืน  ผมพบว่าหอสมุดมีแต่วารสารอิเล็กทรอนิกส์เล่มเก่า ๆ ไม่ทันใจ ผมต้องไปสนามหลวงหาซื้อวารสารอิเล็กทรอนิกส์ต่างประเทศตามแผงที่เขาฉีกปก เพราะราคาถูก

เรียนที่วิศวะ จุฬาฯ แต่อยากทำหนังสือ ไม่ทราบว่ามีแรงบันดาลใจอะไร
ตั้งแต่เด็ก รู้สึกว่าการเรียนเรื่องอิเล็กทรอนิกส์ไปได้ช้ามากเพราะไม่มีหนังสือให้อ่าน  ดังนั้นพอเรียนปี ๑ ที่คณะวิศวะ จุฬาฯ รู้สึกว่าเราพอมีความรู้ด้านนี้บ้าง ก็น่าจะเผยแพร่  เลยเริ่มเขียนบทความลงในจุลสารวิศวกรรม ซึ่งจัดทำโดยนิสิตของคณะ  บทความส่วนใหญ่เขียนโดยรุ่นพี่ปี ๓ ปี ๔  ผมเป็นเด็กปี ๑ คนเดียวที่เขียนเรื่องการออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์  จึงมีรุ่นพี่คนหนึ่งไปตามตัวผมขณะที่ผมกำลังว่ายน้ำที่สระจุฬาฯ อยู่  ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมหักเหเข้ามา  รุ่นพี่คนนั้นก็คือ ดร. สุชาย ธนวเสถียร ซึ่งต่อมาก็คือคนก่อตั้งซีเอ็ด  และตอนนั้นเป็นประธานชุมนุมวิชาการคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ  เป็นกลุ่มกิจกรรมของนิสิตแห่งเดียวที่มีเงินลงทุนไปซื้อแท่นพิมพ์เอง มาทำกันเอง  แกเป็นคนสำคัญคนหนึ่งที่ผลักดันนิยายวิทยาศาสตร์ให้คึกคักในเมืองไทย

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เข้ามาทำงานหนังสือเป็นครั้งแรก
ตอนนั้นผมถูกทาบทามให้มาช่วยก่อตั้งชมรมอิเล็กทรอนิกส์ภายในคณะ และให้ผมรับผิดชอบทำวารสารอิเล็กทรอนิกส์ โดยเอาสิ่งที่เคยอ่านสมัยเด็ก ๆ  มอบหมายให้รุ่นพี่แปล  ผมทำตั้งแต่ต้นจนจบ คือวาดรูป เขียนรูปวงจรอิเล็กทรอนิกส์เอง ถ่ายรูป เขียนเรื่อง เขียนบท บ.ก. จนถึงวางแผงขาย ขายได้หมด  ตอนนั้นเราไม่ได้วางขายแค่ในจุฬาฯ เอารถของคุณพ่อวิ่งตระเวนส่งสายส่งทั่วกรุงเทพฯ  ก็รู้จักสายส่ง รู้จักร้านหนังสือตั้งแต่สมัยอยู่ปี ๒ ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับวงการหนังสือเป็นครั้งแรก และก็ได้เห็นภาพชัดว่ามีคนอยากจะอ่านวารสารวิชาการเยอะพอสมควร  เราพิมพ์ ๓,๐๐๐ เล่ม ขายได้หมดเกลี้ยง  ทำให้เรารู้สึกว่า แม้แต่เรื่องอิเล็กทรอนิกส์ก็มีคนสนใจอ่าน  ก็เลยเกิดคำถามว่า ถ้าจบไปแล้วใครจะทำต่อ  พอเหลียวมาดูแล้วเราก็ไม่พบว่าจะมีใครทำต่อ  ดังนั้น ดร. สุชายก็คิดว่าจบมาแล้ว น่าจะเอาพวกที่ทำกิจกรรมด้วยกันมาก่อตั้งบริษัท  ผมก็เป็นรุ่นน้องที่ถูกชวนด้วย  ฉะนั้นซีเอ็ดเองก็เกิดจากรุ่นพี่รุ่นน้องสามรุ่นต่อกัน ที่ทำกิจกรรมวิชาการด้วยกันมาทั้งหมด ๑๐ คน  ก่อตั้งซีเอ็ดขึ้นมาในปี ๒๕๑๗ เราตั้งใจว่าเราจะทำวารสารวิชาการ  และถ้าเป็นไปได้ก็จะทำหนังสือที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และการศึกษา