เรื่อง ธัชชัย วงศ์กิจรุ่งเรือง

ปัจจุบันมองไปทางไหน วิกฤตโลกร้อนก็กำลังเป็นปัญหาที่ทุกคนตื่นตัวกันอย่างยิ่ง ไม่เว้นแม้แต่โลกเสมือนอย่างอินเทอร์เน็ตที่มีเว็บไซต์มากมายเปิดขึ้นเพื่อนำเสนอเรื่องโลกร้อนโดยเฉพาะ ดูได้จากเว็บท่ายักษ์ใหญ่อย่าง Google, Yahoo หรือ MSN ยังตอบรับกระแสด้วยการตั้งเว็บไซต์ ใหม่เป็นกลุ่มเฉพาะ อาทิ http://green. yahoo.com ส่วนใครจะเอาจริง หรือสุดท้ายจะเป็นเพียงกลยุทธ์ทางธุรกิจเท่านั้น คงต้องดูกันยาวๆ

สำหรับเว็บไซต์ที่บอกสิ่งดีๆ ในวิธีการลดโลกร้อนสำหรับคนทั่วไปอย่างง่ายๆ ที่เราขอแนะนำคือ TreeHugger.com เว็บล็อกภาษาอังกฤษซึ่งก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.๒๐๐๒ โดย เกรแฮม ฮิลล์ ดีไซเนอร์และสถาปนิกหนุ่มชาวแคนาดา ปัจจุบันมีผู้เข้าชมเว็บไซต์แห่งนี้ครึ่งล้านคนต่อเดือน ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย แม้แต่พิธีกรชื่อดังอย่าง โอปราห์ วินฟรีย์ นอกจากนี้ฮิลล์ยังเปิดบล็อกเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่าง Hugg.com และ เว็บไซต์ขายถ้วยเซรามิก WeAreHappyToServeYou.com อีกด้วย

แม้จะมีทีมงานเพียง ๑๐ คน แต่เว็บนี้ไม่ธรรมดาตรงความตั้งใจเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับวิธีลดโลกร้อนในหลายรูปแบบ ทั้งการเป็นเว็บศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดโลกร้อนแบบครบวงจร (One Stop Shop) การเปิดช่องทางเผยแพร่ทั้งรูปแบบบล็อก จดหมายข่าว สถานีวิทยุรายสัปดาห์
(TreeHugger Radio) วิดีโอรายสัปดาห์(TreeHugger TV) การจัดประกวดผลงานโฆษณารณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม แบ่งหัวข้อข่าวตามความสนใจของผู้ชม ตั้งแต่การจัดงานแต่งงาน โภชนาการ ความงาม การออกแบบ หรือแม้แต่การเปิดขายผลิตภัณฑ์เซรามิกที่ออกแบบโดยบริษัทของฮิลล์ก็ยังโยงกับการรักษาสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน

ทีเด็ดที่น่าสนใจคือหมวด How to Go Green ซึ่งรวบรวมวิธีการใช้ชีวิตเพื่อลดโลกร้อนในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ลดการซื้อเสื้อผ้าด้วยการเก็บมาใส่ใหม่ให้เข้ากับโอกาสโดยไม่ต้องกลัวตกยุค ไปจนถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่ดีด้วยการเลือกซื้อถุงยางอนามัยซึ่งทำจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม !

ปัจจุบันทีมงานเว็บไซต์ยังคงไม่หยุดนิ่ง พยายามผลักดันให้แนวคิดเชิงอนุรักษ์พลังงานเป็นแนวคิดกระแสหลักอย่างยั่งยืน พร้อมๆ กับขายผลิตภัณฑ์ที่เว็บนี้ได้ด้วย

เท่าที่ลองไปทำความรู้จักกับนักกอดต้นไม้กลุ่มนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าความนิยมของ TreeHugger.com มาจากจุดเด่นที่สามารถทำให้เรื่องโลกร้อนซึ่งดูเป็นเรื่องไกลตัว และเข้าใจยากกลายเป็นเรื่องใกล้ตัว การออกแบบและคำโฆษณาที่ทันสมัย ไม่ดูเก่าเก็บ รวมทั้งการนำเสนอข้อมูลตั้งแต่ เนื้อหาเชิงวิชาการอย่างเรื่องน้ำแข็งขั้วโลกละลาย ไปจนถึงข่าวน่ารักๆ อย่างการที่ดาราสาว อิซาเบลลา รอสเซลลินี ลุกขึ้นมาทำหนังสั้นเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ของแมลง ที่ขาดไม่ได้คือส่งผลให้เกิดคนเขียนข่าวและเรื่องราวจากทั่วโลก จนเว็บนี้กลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ในโลกเสมือน

หากเปรียบเทียบกับเว็บของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ (IPPC-เว็บไซต์ ipcc.ch) ซึ่งเต็มไปด้วยเนื้อหาทางวิชาการยาวเหยียด TreeHugger ย่อมเข้าถึงผู้ใช้ง่ายกว่าเป็นไหนๆ ขณะที่เมื่อเทียบกับเว็บไซต์ที่เสนอแนวทางการประหยัดพลังงานคล้ายๆ กันอย่าง Green Daily (greendaily.com) เว็บไซต์นักกอดต้นไม้ก็ยังดูเข้มข้นกว่าในส่วนของข่าวสาร

จุดเริ่มต้นของชื่อ TreeHugger เกิดขึ้นโดยบังเอิญขณะที่ฮิลล์กำลังค้นข้อมูลเพื่อทำงานส่งในคอร์สเรียนโปรแกรมแต่งภาพ เขาบังเอิญเหลือบไปเห็นข้อความ “treehugger, damn hippie and bleeding heart” คำโฆษณาซึ่งตีพิมพ์ในนิตยสารสำหรับคนเมือง เป็นข้อความที่แสดงให้เห็นทัศนคติการมองนักอนุรักษ์ธรรมชาติแบบเหมารวมว่าเป็นพวกล้าสมัย

ฮิลล์จึงตั้งคำถามขึ้นมาในใจว่า “แล้วทำไมเราจะเป็นคนเมืองสมัยใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมไม่ได้ ?” ก่อนจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้สร้างสรรค์เว็บไซต์ชื่อนี้ในที่สุด

TreeHugger จึงมุ่งให้ผู้อ่านเกิดความคิดในแง่บวกต่อสิ่งแวดล้อม ฮิลล์ยินดีทำให้คนสนใจมันเหมือนแฟชั่น ดีกว่าหยุดคิด หรือปล่อยชีวิตให้เปล่าประโยชน์

“สิ่งที่ผมต้องการสื่อก็คือ การนิ่งดูดายเป็นปัญหา ความสะดวกสบายคือเพชฌฆาตตัวจริง หากคุณต้องการให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นมันไม่ยากหรอก ผมหวังให้คนที่เข้าเว็บไซต์นี้แล้วเกิดความรู้สึกว่า ‘ว้าว ! การดูแลโลกอยู่ที่นี่แล้ว และฉันเปลี่ยนชีวิตไปในทิศทางนั้นได้ ตั้งแต่การเดินทาง แฟชั่น จัดบ้าน ฯลฯ’ มีแนวคิดต่อเรื่องโลกร้อนมากมายครับที่มืดมนหมดหวังก่อให้เกิดความหวาดกลัว เราจึง
พยายามเน้นให้เนื้อหา ๘๐ เปอร์เซ็นต์เป็นแง่บวกด้วยวิธีการแก้ไขและข่าวดีๆ ผมอยากจะสร้างความหวังให้ใครหลายๆ คนมากกว่า”

ใครที่คิดว่าการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องยาก ลองคลิกไปเยี่ยมเว็บนี้ดูแล้วจะพบว่า บางเรื่องก็เป็นเหมือนเส้นผมบังต้นไม้เขียวๆ ตรงหน้าแท้ๆ

ท่องไซเบอร์แบบไม่ทำร้ายโลก

ไม่จำเป็นต้องคิดว่านั่งเล่นอินเทอร์เน็ตเปล่าๆ ปลี้ๆ แล้วจะช่วยลดโลกร้อนไม่ได้ เราขอนำเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ในการประหยัดพลังงานสำหรับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์มาฝากกัน

  • เปลี่ยนมาใช้จอ LCD (จอแบน) แทนจอแบบ CRT เพราะประหยัดไฟมากกว่าถึง ๖๐ %รวมถึงสะดวกในการขนส่งเพราะมีน้ำหนักเบากว่าแถมยังถนอมสายตาอีกด้วย
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ที่ประหยัดไฟ (มีเครื่องหมาย Energy Star หรือฉลากเบอร์ ๕) และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ลองเข้าไปดูข้อมูลได้ที่ www.climatesaverscomputing.org
  • หากต้องซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ เลือกแลปทอปหรือคอมพิวเตอร์แบบพกพา จะช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะถึง ๑/๔ เท่า
  • เลือกใช้โปรแกรม GreenPrint (ดาวน์โหลดฟรีที่ www.printgreener.com) เพื่อช่วยลดความสิ้นเปลืองของกระดาษเมื่อพิมพ์หน้างานจากเว็บไซต์ หรือหากต้องการพิมพ์เอกสารจากโปรแกรมเวิร์ด ก็มีวิธีลดความสิ้นเปลืองได้ง่ายๆ ด้วยการตั้งขอบกระดาษก่อนสั่งพิมพ์เพื่อให้ใช้กระดาษเต็มพื้นที่และคุ้มค่าที่สุด
  • จัดไฟล์เอกสารในเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นระเบียบสามารถเข้าเปิดค้นได้ง่ายเพื่อไม่ให้เสียเวลาเปิดหน้าจอนานเพียงเพราะการค้นหาไฟล์ข้อมูล
  • ศึกษาการใช้คำสั่ง Power Management ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ เช่นตั้งค่าให้เป็นโหมด Standby หรือโหมด Hibernate เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าเมื่อเครื่องไม่ได้ถูกใช้งาน (ไม่แนะนำให้ใช้โหมด Screensaver เพราะนั่นไม่ได้ช่วยประหยัดพลังงานเลย)
  • หากคุณจะเลือกซื้อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เหล่านี้ แต่อยากรู้ว่าแต่ละบริษัทมีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างไร สามารถเข้าดูได้ที่เว็บไซต์ Green Peace (greenpeace.co.th คลิกเลือกที่คู่มือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สีเขียว)เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจของคุณ
  • บอกต่อเคล็ดลับดีๆ ในการประหยัดพลังงานเหล่านี้กับเพื่อนของคุณ
  • จะให้ดีที่สุด ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั้งหลายควรปิดเครื่อง ถอดปลั๊กเมื่อเลิกใช้งาน เพราะอุปกรณ์ไอทีทั้งหลายเป็นตัวปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณ ๓๕ ล้านตันต่อปีเลยทีเดียว
  • ว่าแล้วก็ควรหันไปทำกิจกรรมอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงบ้างแถมยังเป็นการพักสายตาไปในตัวอีกด้วย
  • ทุกๆ ปีมีขยะอิเล็กทรอนิกส์เกิดขึ้นเป็นจำนวนหลายล้านตัน ปัจจุบันบริษัทต่างๆ จึงเริ่มมีการรณรงค์เรื่องนี้กันอย่างจริงจังมากขึ้น ฉะนั้นก่อนจะเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ไอทีของคุณ ลองติดต่อสอบถามบริษัทดังกล่าวถึงโครงการรีไซเคิลที่คุณสามารถร่วมด้วยช่วยกันได้ไม่ยาก เช่น โครงการรีไซเคิลฮาร์ดแวร์และส่งเสริมให้ลูกค้าคืนตลับหมึกพิมพ์ของ HP หรือการรับรีไซเคิลฟรีถึงบ้านของ Dell รวมถึงการทิ้งขยะเหล่านี้อย่างถูกต้องและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม