ฉบับหน้า : เมื่อโลกร้อนมาเยือนไทย

เป็นเวลากว่า ๑๐ ปีแล้ว นับแต่ก่อนเกิดเหตุการณ์พฤษภาวิปโยคปี ๒๕๓๕ ที่ผมมีเหตุให้ต้องเข้าเขตทหารทุกสัปดาห์

ไม่ได้ไปซ่องสุมกำลังอะไรหรอกครับ แค่ไปตีแบดเท่านั้น

โดยทุกคืนวันจันทร์หากไม่ติดขัดอะไร ผมกับพรรคพวกจะนัดเจอกันในมณฑลทหารบกที่ ๑๑ ใกล้ ๆ กับสะพานเกษะโกมล แถวราชวัตร

เป็นที่ทราบกันดีในวงการนักตีแบดว่า สนามแบดมินตันที่นั่นจัดเป็นสนามขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ มีคอร์ตแบดถึง ๑๒ สนามอยู่ภายในอาคารขนาดใหญ่

สนามแบดมินตันทั่วไปมักมีปัญหาเรื่องการถ่ายเทอากาศ เล่นไปนาน ๆ จะร้อนและอับ แต่ที่นี่อากาศถ่ายเทเป็นเยี่ยม เพราะตัวอาคารสูงโปร่งและมีพื้นที่กว้างขวาง

ผมชอบออกกำลังกายด้วยการตีแบดมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่เล่น ๆ เลิก ๆ เพิ่งหันมาตีแบดอย่างสม่ำเสมอก็ตอนทำงานแล้ว

จำได้ว่าตอนมาตีแบดที่สนามแห่งนี้ในช่วงแรก ผมมีก๊วนตีแบดเกือบ ๒๐ คน ไม่นับเพื่อนใหม่ที่รู้จักกันในสนามภายหลัง เราตีแบดกันด้วยความสนุกสนานจนเรียกได้ว่าติดพอสมควร สัปดาห์ไหนไม่ได้ตีจะรู้สึกไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัว

แต่ตีไปตีมาสมาชิกก็ค่อย ๆ หายหน้าไปทีละคน ส่วนใหญ่อ้างว่ามีภารกิจอื่นที่สำคัญกว่า อาทิ เลี้ยงลูก ไปเรียนต่อ บ้านไกลขึ้น มีงานเลี้ยงบ่อย ฯลฯ จนปัจจุบันเหลือสมาชิกเพียง ๔-๕ คนที่ยังยืนหยัดตีแบดกันอยู่ครั้งละ ๒ ชั่วโมง

แต่ขณะที่เพื่อนร่วมก๊วนของผมทยอยหายหน้าไป ผมกลับสังเกตเห็นว่า ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ที่เล่นแบดอยู่ที่คอร์ตแห่งนี้มาตั้งแต่สมัยผมเข้ามาตีแบดใหม่ ๆ ปัจจุบันก็ยังเล่นกันอยู่ หลายคนอายุ ๖๐-๗๐ แล้ว แต่ก็ยังเล่นแบดด้วยความแคล่วคล่อง

หันมาดูบรรดาพรรคพวกอายุรุ่นราวคราวเดียวกันที่ร้างราวงการไปบ้าง หลายคนที่ไม่ได้เจอกันในสนามแบด ไปเจออีกทีตามงานก็รู้สึกว่าร่วงโรยไปผิดตา เพื่อนคนหนึ่งเป็นนักธุรกิจใหญ่ เลิกตีแบดไปเพราะอ้างว่างานหนัก ไม่มีเวลา ถึงตอนนี้ทั้งอ้วนทั้งลงพุง แถมยังมีโรคประจำตัวพ่วงมาอีกหลายโรค

เจอเพื่อนแล้วรู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่หันมาให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย เพราะก่อนหน้านั้นผมเองก็ใช่ย่อย หักโหมทั้งงาน ทั้งการกินดื่มมาตลอด จนเมื่ออายุมากเข้าจึงรู้สึกว่าควรจะออกกำลังกายอย่างจริงจังเสียที ก่อนที่ร่างกายจะทรุดโทรมไปจนเกินเยียวยา

ที่ผ่านมา หลายครั้งที่ผมเอ่ยชวนเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันมาตีแบด คำตอบที่ได้คือ อยากไปแต่ไปไม่ได้ เหตุผลหลัก ๆ คือติดงาน หรือมีภารกิจอื่นที่สำคัญกว่า ที่หนักกว่านั้นคืออ้างว่า แก่แล้ว เล่นไม่ไหว

คงไม่ผิดถ้าจะพูดว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย หรือแม้จะรู้ว่าสำคัญ แต่ก็มักผัดผ่อนกับตัวเองว่า รอให้ว่างเสียก่อน ครั้นพอล่วงเลยวัยหนุ่มสาว ก็มักรู้สึกว่าตัวเองแก่เกินไป ไม่มีเรี่ยวแรงจะไปออกกำลังกาย

ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ยิ่งแก่ตัวไปก็ยิ่งควรหันมาดูแลตัวเอง ซึ่งวิธีง่าย ๆ ก็คือ การออกกำลังกาย

ผมเองก็เช่นเดียวกับสมาชิกตีแบดรุ่นอาวุโสหลายคนซึ่งออกกำลังกายต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี ที่มีความเชื่อว่าการออกกำลังกายเป็นภารกิจสำคัญอันดับต้น ๆ ในชีวิตที่จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอไปตลอด ยิ่งเลยวัยหนุ่มสาวมาแล้ว การออกกำลังกายก็ยิ่งจำเป็นมากขึ้น เพียงแต่อาจต้องเลือกวิธีการออกกำลังให้เหมาะสมกับวัยเท่านั้น

เพื่อนใหม่คนหนึ่งของผม เคยอ้วน ขี้โรค ทั้งชีวิตไม่เคยออกกำลังกายมาเลย แต่เปลี่ยนใจยอมมาตีแบดตามคำสั่งของภรรยาทั้งที่อายุก็ไม่น้อยแล้ว ตอนนี้หุ่นดี ผอมเพรียว ร่างกายแข็งแรง ดูหนุ่มขึ้นมาผิดหูผิดตา ถูกใจภรรยายิ่งนัก

ดังนั้นการออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬาจึงไม่ใช่เรื่องของคนหนุ่มสาว แต่เป็นเรื่องของคนทุกเพศทุกวัยที่ใส่ใจดูแลตัวเอง บางคนเตะบอล ตีแบด บางคนเล่นโยคะ บางคนก็เลือกออกกำลังกายด้วยการเต้นรำ ฯลฯ

วิธีการอาจแตกต่าง แต่ล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน คือทำให้ร่างกายแข็งแรง เหนือกว่านั้นคือช่วยฝึกสมาธิ ทำให้มีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ และสำหรับบางคน อาจจะพัฒนาไปถึงระดับจิตวิญญาณ

คนแต่ละคนมีวิธีคิดและมุมมองในการใช้ชีวิตแตกต่างกัน แต่วันนี้หากคุณลองเปิดทางให้การออกกำลังกายก้าวเข้ามาเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ของชีวิตดูบ้าง

คุณอาจค้นพบโลกใหม่อีกโลกหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ

วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์
บรรณาธิการบริหาร
(vanchaitan@yahoo.com)