๑๐๐ ปี สมเด็จพระสังฆราชสุวฑฺฒโน–พระผู้เจริญดี

สมเด็จพระญาณสังวรฯ  สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

แต่พระองค์ยังคงเป็นสมณะผู้มักน้อย สันโดษ ดังที่ตรัสว่า “เป็นพระไม่ควรใช้ของหรูหราฟุ่มเฟือย” และ “การใช้ของสวย ๆ งาม ๆ ไม่ใช่ชีวิตของพระ”

พระองค์ยังเสด็จบิณฑบาตสม่ำเสมอ เสวยมื้อเดียว โดยใส่ทุกอย่างรวมลงในบาตร และทรงงานโดยตลอดอย่างไม่ทรงคำนึงถึงพระวรกายของพระองค์ หากทรงไม่ติดภารกิจใดจะทรงรับนิมนต์โดยมิได้ปฏิเสธ ดังที่พระองค์ตรัสว่า “ที่นี่ เป็นพระของประชาชน”

เป็นพระจริยาวัตรที่ทรงถือปฏิบัติมาโดยตลอดนับแต่ดำรงตำแหน่งสังฆราชาแห่งพุทธศาสนจักรไทย เมื่อปี ๒๕๓๒ จนบัดนี้

ซึ่งนับได้ว่าสมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นสมเด็จพระสังฆราชที่เจริญพระชนม์ยืนนานที่สุด และอยู่ในตำแหน่งนี้ยาวนานที่สุดนับแต่ตั้งกรุงรัตนโกสินทร์

ช่วยด้วย ’มันเยิ้มแล้ว

ตั้งแต่วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เมื่อเกิดเหตุน้ำมันรั่วกลางทะเลระหว่างการขนถ่ายน้ำมันของบริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC  ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในเครือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ต่างออกมาให้ข่าวในเชิงว่าสามารถควบคุมอุบัติภัยครั้งนี้ได้และจะไม่เกิดผลกระทบใด ๆ  แต่ฉับพลันในคืนวันที่ ๒๘ กรกฎาคมนั้นเอง อ่าวพร้าวบนเกาะเสม็ดก็ถูกคราบน้ำมันดิบสีดำกลืนกินทั้งอ่าว

คำถามจากสังคมจึงเกิดขึ้นตามมามากมาย

“ตกลงแล้วน้ำมันรั่วเท่าไรกันแน่ เหตุใดบริษัทยักษ์ใหญ่จึงควบคุมไว้ไม่ได้”
“สารเคมีที่ใช้ขจัดคราบน้ำมันเหมาะสมหรือไม่ จะเกิดผลกระทบอะไรต่อใต้ท้องทะเล”

แต่ระหว่างนั้นเองรัฐบาลกลับมอบให้บริษัท PTTGC เป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์เสียเอง สร้างความกังขาในความโปร่งใสและความชอบธรรมของคณะกรรมการชุดนี้  ไม่นับเรื่องของการชดเชยความเสียหายต่อชาวประมงและผู้ได้รับผลกระทบอีกหลายกลุ่ม

ก่อนความจริงจะเลือนหาย สารคดี พยายามบันทึกข้อมูลจากทุกฝ่ายนำเสนอต่อสังคมอย่างรอบด้าน

เพราะบทสรุปของเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะขึ้นอยู่กับ “ความรู้” และ “ความเข้าใจ” ที่ทุกฝ่ายควรมีร่วมกัน