ย้อนกลับไปในอาณาจักรโรมันโบราณ ณ มหานครปอมเปอีที่ยิ่งใหญ่ เรื่องราวชีวิตของทาสหนุ่มนามว่าไมโล ผู้ใฝ่ฝันอยากจะเป็นไท ชีวิตของเขาต้องเผชิญกับความโศกเศร้าเมื่อ แคสเซีย สาวงามจากชนชั้นสูงผู้เป็นที่รัก กำลังจะถูกบังคับให้แต่งงานกับบุตรชายของเศรษฐี และตัวเขาก็กำลังจะถูกขายเป็นทาสให้กับเจ้านายคนใหม่ แต่ทว่าหายนะชีวิตที่เลวร้าย อาจยังเทียบไม่ได้กับมหันตภัยครั้งสำคัญ เมื่อภูเขาไฟวีซูเวียสเกิดปะทุขึ้น พร้อมระเบิดลาวาอุณหภูมิกว่า 1000 องศา เข้าเผาผลาญทำลายทั้งเมือง ไมโลตัดสินใจที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยหญิงสาวที่เขารักท่ามกลางอันตรายที่เกินกว่าใครจะต้านทานได้
ภัยพิบัติครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติที่ได้รับการจดจำ และกล่าวขวัญถึง สู่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่จะถ่ายทอดภาพแห่งมหานครที่สาปสูญจากแผนที่โลกในเวลาเพียง 48 ชั่วโมง
นั่นคือเรื่องราวของ Pompeii ผลงานล่าสุดของผู้กำกับ พอล ดับเบิ้ล.ยูเอส. แอนเดอร์สัน ซึ่งโด่งดังจากการทำหนังแอ็คชั่นไซไฟภาคต่ออย่าง Resident Evil นำแสดงโดย คิท แฮริงตัน(ซีรี่ส์ Game of Thrones), คีเฟอร์ ซุทเธอร์แลนด์(ซีรี่ส์ 24) แครี่ แอนน์ มอสส์(The Matrix) และ เอมิลี่ บราวนิ่ง(Sucker Punch) ผ่านการเขียนบทจาก ไมเคิล โรเบิร์ต จอห์นสัน(Sherlock Holmes-2009), แจเน็ท สก็อตต์ และลี แบต์ชเลอร์(Batman Forever) ก่อนผ่านการเกลาบทโดย จูเลี่ยน เฟลโลวส์ มือเขียนบทเจ้าของรางวัลออสการ์จาก Gosford Park(2001) โดยได้ทีมสเปเชียลเอฟฟคจาก The Incredible Hulk,Total Recall ทีมออกแบบงานสร้างจาก The Twilight Saga: Eclipse และทีมเสื้อผ้า-เครื่องแต่งกายจาก Underworld จัดจำหน่ายโดย โซนี่ พิคเจอร์ส
น่าแปลกไม่น้อยที่ผู้กำกับหนังไซไฟเน้นความสนุกตื่นเต้นอย่างแอนเดอร์สันกลับสนใจร่วมทำหนังที่ว่าเรื่องราวหายนะในสมัยโบราณ สาเหตุก็เพราะความชื่นชอบเรื่องราวของชาวโรมันที่มีประเด็นมากมาย และทำให้เขาอยากสร้างหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2008 แล้ว “ผมหลงใหลในเรื่องของโรมันตั้งแต่ยังเด็กครับ ผมโตที่นิวคาสเซิล ภาคเหนือของอังกฤษ กำแพงแฮเดรียนจะตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของประเทศยาวไปจดทิศตะวันตกซึ่งถูกสร้างและยังคงลักษณะของยุคโบราณเอาไว้ ผมชอบไปวิ่งเล่นผ่านป้อมโรมันหรือกำแพงนี้เสมอความที่ไม่ต้องเสียเงิน ชีวิตผมจึงซึมซับเรื่องโรมันอย่างมากตั้งแต่นั้นและหลงใหลมันเสมอ เหตุการณ์เมืองปอมเปอียังถูกสอนในโรงเรียน และมันก็น่าสนใจกับเรื่องที่มันเป็นโบราณสถานที่มีชื่อในฐานะเมืองที่ถูกฝังทั้งเป็น คุณจะเห็นชีวิตที่ถูกแช่แข็ง พวกเขาเหล่านั้นถูกไหม้จนถึงแก่ความตาย ทั้งคู่รักที่สวมกวดกัน คนกำลังแบกของ สุนัข ทั้งหมดล้วนถูกแช่แข็งเป็นรูปร่างจนถึงปัจจุบัน”
แอนเดอร์สันเผยว่าศูนย์กลางของหนังคือเรื่องราวความรักของคนหนุ่มสาว ซึ่งคล้ายคลึงกับหนังหายนะอันโด่งดังอย่าง Titanic(1997) ของผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน ทั้งในแง่ที่อิงมาจากเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์อีกด้วย อันเป็นความตั้งใจของเขาอยู่แล้ว (บางสื่อถึงกับเรียกเนื้อเรื่องหนังเรื่องนี้ว่า “ไททานิคภาคบนดิน” แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มเรื่องราวการแก่งแย่งชิงดีกันทางการเมืองในเมืองที่เต็มไปด้วยปัญหาการโกงกินอย่างยิ่ง เพราะแอนเดอร์สันมองเมืองปอมเปอี คือ ลาสเวกัสแห่งโรมโบราณ
ขณะที่เจเรมี่ โบลท์ โปรดิวเซอร์ของหนังเรื่องนี้ยังเพิ่มอีกด้วยว่า Gladiator(2000) ภาพยนตร์ย้อนยุคในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นอีกอิทธิพลสำคัญของหนังเรื่อง Pompeii งานสร้างของหนังจึงเน้นให้ดูสมจริงมากกว่าแฟนตาซี รวมถึงการศึกษาในความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ถึงช่วงเวลาขณะเกิดเหตุการณ์ภูเขาไฟถล่มครั้งนี้มากที่สุด
ผู้กำกับเลือก คิท แฮริงตัน นักแสดงหนุ่มผู้โด่งดังจากซีรี่ส์ย้อนยุคยอดฮิต Game of Thrones มารับบทนำเป็นทาสหนุ่มไมโล เพราะเห็นความเป็นดาราที่โดดเด่นยิ่งในซีรี่ส์เรื่องดังกล่าว และแฮริงตันก็ตอบแทนด้วยการทุ่มเทผ่านการฝึกฝนออกกำลังกาย ยกน้ำหนัก และควบคุมอาหารหลายสัปดาห์เพื่อให้ได้ร่างกายที่บึกบึนตรงตามภาพของตัวละครที่ถูกจินตนาการไว้
ขณะที่แม้จะเป็นภาพยนตร์ระบบ 3D เน้นฉากขายเทคนิคด้านภาพสุดอลังการอัดแน่นกว่า 45 นาที แต่ทีมงานก็เลือกที่จะไปถ่ายทำบริเวณภูเขาวิซูเวียส และเมืองปอมเปอีจริงๆ อีกด้วย เพื่อเก็บบรรยากาศอันแสนสะพรึงของเมืองที่เกิดหายนะในอดีตให้ปรากฎรวมในภาพยนตร์
Pompeii หรือในชื่อไทยว่า ไฟนรกถล่ม ปอมเปอี มีกำหนดเข้าฉาย 20 กุมภาพันธ์ 2557 ทุกโรงภาพยนตร์
