เรื่องและภาพ : สุชาดา ลิมป์

ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อมาว่า เมื่อวันเสาร์ที่ ๒ ของเดือนมกราคมมาเยือน ผู้ใหญ่จะต้องพาเด็ก ๆ ไปท่องเที่ยว  เด็กที่โตหน่อยก็อาจขอพ่อแม่ไปเที่ยวเองกับเพื่อน ๆ

แม้หลายสถานที่จะจัดงานรื่นเริงให้เด็กเล็กเด็กโตเข้าชมฟรี แต่จะมีสักกี่แห่งที่พวกเขาอยากไปจริง ๆ  ยิ่งได้ยินว่าเป็น “พิพิธภัณฑ์” ด้วยแล้ว ดูเหมือนเป็นสถานที่น่าเบื่อมากกว่า ก็พิพิธภัณฑ์สำหรับเด็กในบ้านเรามีสักกี่ที่กัน

แต่อย่างน้อยเด็ก ๆ ชาวจังหวัดแพร่ก็ยิ้มกว้าง โดยเฉพาะเด็กหญิงผู้เต็มไปด้วยความรักต่อตุ๊กตาตัวน้อยและโลกแห่งจินตนาการหวานที่อุปโลกน์ให้มีชีวิตได้

เพราะเมืองอันลือชื่อเรื่องผ้าเมืองนี้มีผู้ใหญ่เห็นความสำคัญของพวกเขา จัดสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งของ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น โกมลผ้าโบราณ ให้เป็นห้องแสดงตุ๊กตุ่นเท่ ๆ ตุ๊กตาสวย ๆ รองรับความสุขสมวัย

โดยเน้นจัดแสดงผ้าพื้นเมืองของชนชาวแพร่สี่กลุ่มหลัก คือ ชุดไทลื้อ ตำบลบ้านถิ่น, ชุดเงี้ยวและชุดไทใหญ่ ตำบลสวรรค์นิเวศ, ชุดหม้อห้อมของชาวไทพวน ตำบลทุ่งโฮ้ง และชุดไทยวน (ไทยล้านนา) ของชาวพื้นเมืองแพร่ ซึ่งแต่ละกลุ่มแบ่งย่อยลักษณะเฉพาะของแต่ละหมู่บ้านอีก

ขณะคุณพ่อชื่นชมผ้าโบราณอายุ ๒๐๐ ปีที่ชั้นบนของพิพิธภัณฑ์

คุณแม่ตาวาวกับผ้าโบราณจำลองที่ชั้นล่าง พลางจินตนาการว่าได้สวมผ้าผืนสวยตรงหน้าแล้วกลายเป็นพระนางจิรประภามหาเทวี (ครองล้านนา) ในภาพยนตร์เรื่องสุริโยไท หรือหลุดเข้าไปเป็นตัวละครบางตัวในละครเรื่อง รอยไหม และ สาปภูษา

ลูก ๆ ก็ใช้ช่วงเวลานี้สนุกสนานอยู่ชั้นล่าง เพลิดเพลินกับผ้าสวยผ่านตุ๊กตาบาร์บี้และตุ๊กตาหน้าตาคล้ายดาราดังได้ที่ “ห้องตุ๊กตา”

เวลานี้ตุ๊กตาแท้-ปลอมไม่สำคัญ

หัวใจหลักคือการถ่ายทอดสารคดีผ่านเครื่องมือที่เด็ก ๆ ยอมรับให้เข้าถึงจิตใจ

“ผมคิดว่าเด็กส่วนใหญ่รู้จัก ‘อวตาร’ ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการพิทักษ์ทรัพยากรอันมีค่าของโลก  ผมจึงจัดให้เขาเชื่อมโยงกับบาร์บี้สาวไทลื้อ  ดังนั้นขณะเด็ก ๆ เรียนรู้วิธีนุ่งผ้าของสตรีไทลื้อ ก็จะได้เกร็ดความรู้แฝงด้วยว่าชาวไทลื้อเป็นกลุ่มชนที่มีวิถีอนุรักษ์ธรรมชาตินะ

หรืออย่าง ‘ซูเปอร์แมน’ ฮีโร่ของคนทั้งโลกที่ปรากฏตัวด้วยชุดสีน้ำเงิน แดง เหลือง จนเด็ก ๆ จำติดตา  ผมก็จัดให้เขาเชื่อมโยงกับบาร์บี้สาวไทใหญ่ที่มีวัฒนธรรมการแต่งกายโดดเด่น รู้จักจับคู่ผ้าโทนสีพาสเทลมาสวมใส่อย่างมีเอกลักษณ์”

โกมล พานิชพันธ์ เจ้าของพิพิธภัณฑ์และนักสะสมผ้าโบราณ พาชมตู้จัดแสดงตุ๊กตาหน้าเหมือนดาราดังทั้งไทยและเทศกว่า ๑๐ ตู้ซึ่งตั้งเรียงรอบห้อง เช่น เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ สวมชุดหนุ่มชาวโยนก (ไทยวน) นำเสนอผ้าซิ่นตีนจกอย่างที่บาร์บี้สาวโยนกนุ่ง, เอลวิส เพรสลีย์ นำเสนอชุดล้านนา ฯลฯ

“ตุ๊กตาบาร์บี้พวกนี้เคยเป็นของหลาน ๆ ที่สะสม พอเยอะจนไม่มีที่เก็บก็เอามาให้  ผมเลยคิดว่าน่าจะนำมาทำประโยชน์อะไรสักอย่าง ส่วนตัวที่หน้าตาคล้ายดาราผมซื้อเพิ่มทีหลัง”

ชายผู้ให้ความสำคัญแก่ผ้าทอทรงคุณค่าให้เหตุผล ที่เลือกตัวละครตะวันตกและดาราดังทั้งหลายมามิกซ์แอนด์แมตช์นั้นเพื่อดึงดูดความสนใจเด็ก อย่างน้อยที่สุดก็หวังให้พวกเขาจดจำชื่อผ้าไทยได้มากขึ้น

“เราใส่ใจกระทั่งเครื่องนุ่งห่มที่ตุ๊กตาเหล่านี้สวมใส่ ย่อส่วนในสเกลถูกต้อง  ถ้าลองนำไปขยาย ๑๐ เท่าจะได้ผ้านุ่งจริงหนึ่งผืนพอดี  พอเด็ก ๆ ได้ยินเราพูดแบบนี้จะตื่นเต้นมาก พลอยดึงดูดให้พวกเขาอยากรู้จักผ้าโบราณด้วย”

หากอายที่จะถามเจ้าของ ในพิพิธภัณฑ์ยังมีประวัติข้อมูลผ้าโบราณไว้ให้นักเรียนอ่าน-จำอย่างอิสระ

“ผมคิดว่าเด็กเยาวชนวันนี้คือผู้ถ่ายทอดเรื่องราวในอนาคต จึงอยากเน้นให้ความรู้ว่าผ้าไทยแท้เป็นเช่นไร วิธีนุ่งที่ถูกต้องคือแบบไหน เพื่อให้พวกเขารับข้อมูลไปบอกต่ออย่างถูกต้อง”

จากจุดเริ่มต้นที่เด็กชายคนหนึ่งติดตามพ่อซึ่งเป็นช่างภาพไปทำงานถ่ายรูปตามท้องถิ่นต่าง ๆ แล้วพบเห็นกี่ทอผ้าตั้งอยู่ตามใต้ถุนบ้านเหล่านั้นเสมอ ก็ค่อย ๆ ซึมซับเป็นความรักความชอบ  เมื่อโตจึงสะสมผ้าเก่าที่มีคนมอบให้บ้าง ซื้อเก็บไว้เองบ้าง กระทั่งเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ เก็บรักษาผ้าโบราณให้มีอายุยืนยาวพร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจให้เด็กรุ่นใหม่มีโอกาสใกล้ชิด รู้รักษ์รากเหง้า ผ่านสถานที่เที่ยวน่ารักอีกแห่งในวันหยุด

บ่อยครั้งห้องตุ๊กตาไม่ได้มีแต่นักท่องเที่ยวตัวเล็กมาตักตวงความสุข ยังมีผู้ใหญ่ที่ผ่านวัยเด็กมาแล้ว หรือผู้ใหญ่หัวใจเด็กอยู่ร่วมห้องด้วย

ที่นี่จึงน่าจะเป็นสถานที่อีกแห่งซึ่งคนสองวัยเที่ยวร่วมกันได้อย่างลงตัว

ที่สำคัญคือ…ชมฟรีทุกวัน ไม่ต้องรอวันเด็ก

พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น โกมลผ้าโบราณ

๑๕๗/๒ หมู่ ๖ ตำบลห้วยอ้อ
อำเภอลอง จังหวัดแพร่
เปิดทุกวัน เวลา ๐๙.๓๐-๑๗.๐๐ น.
โทร. ๐-๕๔๕๘-๑๕๓๒, ๐๘-๑๘๐๗-๙๙๖๐