สัมภาษณ์ เจมส์ คาเมรอน ในการดำดิ่งกับยาน Deepsea Challenger 3D
หลายคนคงรู้จัก เจมส์ คาเมรอน ดีในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Titanic หรือ Avatar แต่การกลายเป็นผู้ดำเนินเรื่องหลักในสารคดี Deepsea Challenge 3D ที่ต้องเป็นผู้ดำลงไปในจุดที่ลึกที่สุดใต้มหาสมุทรด้วยวัยที่ก็ไม่น้อยแล้ว ทำให้ชวนสงสัยว่าอะไรดลใจให้เขาทำภารกิจครั้งนี้ และลงทุนลงแรงกับโครงการดังกล่าว บทสัมภาษณ์จาก USA Weekend จึงไขข้อข้องใจครั้งนี้
คุณหลงใหลทะเลตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ?
ผมหมกมุ่นคลั่งไคล้การสำรวจตั้งแต่เด็กแล้วล่ะครับ แต่ไม่ได้คิดว่าจะได้เป็นนักสำรวจจริงๆ หรอกนะ จากนั้นพอเข้ามหาวิทยาลัยก็สนใจทั้งด้านศิลปะและวิทยาศาสตร์ ผมมีโลกอีกด้านที่เรียนฟิสิกส์กับดาราศาสตร์ ความอยากรู้อยากเห็นเป็นแรงผลักดันทุกอย่างครับ แต่สุดท้ายก็เลือกเรียนทางศิลปะและทิ้งมันไป พอปี 1995 ที่พาให้ผมได้เจอเรือไททานิค งานที่สำรวจผลคือการพัฒนากลไกระบบกล้องใต้น้ำ และอีกมากมาย
ในสารคดี ภรรยาของคุณ(นักแสดงหญิง ซูซี่ เอมิส) ถามว่าคุณเป็นคนทำหนังที่ชอบสำรวจ หรือเป็นนักสำรวจที่ชอบทำหนัง แล้วมันเป็นอย่างไหนกันแน่ ?
คำตอบนี้ไม่ง่ายเลยนะ ตอนผมทำหนัง และกำลังทำภาคต่อของ Avatar อยู่ ผมว่าผมเป็นคนทำหนังนะ 100% เลยล่ะ และผมทิ้งเรื่องสำรวจไว้ข้างหลัง เอาล่ะไม่มีอะไรต้องมาป้องกันผมระหว่างทำงานนานๆ กับยานที่พัฒนาใหม่ๆ อะไรแบบนั้น แต่พอผมเริ่มออกสำรวจก็รู้สึกโลกฮอลลีวู้ดนี่ห่างไกลเหลือเกิน จะเริ่มคิดไปคนละทางตั้งแต่ว่าเรากำลังทำเรื่องที่จริงจังและสำคัญนะ เป็นเรื่องที่ไม่ใช่แค่รอฟังเสียงนักวิจารณ์ เช่น เราต้องทำตามหลักฟิสิกส์และกลศาสตร์อะไรแบบนั้น ต้องสร้างตัวต้นแบบที่ดียิ่งขึ้น ผมระลึกว่านี่เป็นงานที่สำคัญมากๆ มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์น่ะครับ
การดำน้ำลึกขนาดนี้ทำให้คุณกลัวบ้างไหม ?
โจทย์ของโครงการนี้ดึงดูดผู้คนในแง่ความอยากรู้ที่สร้างแรงบันดาลใจแต่มันก็ยังอันตรายกว่าที่พวกคุณคิดอีกด้วย มันเหมือนกับลักษณะของเป็ด ภายนอกคุณดูสุขุมเยือกเย็นแต่คุณพุ้ยขาเอาเป็นเอาตายใต้น้ำ ใต้น้ำคุณกำลังทำงานหนักเพื่อมั่นใจว่าดีและเยี่ยมที่สุด โครงการนี้ใช้เวลา 7 ปีสร้างยานสำรวจ เราใช้เวลานับพันชั่วโมงในห้องทดสอบแรงดัน ทดสอบทุกส่วนประกอบ ทุกวงจร ทุกอย่างก่อนที่มันจะประกอบกลายเป็นยานลำนี้ แต่มันก็ยังมีปัจจัยภายนอกเพราะหลังจากประกอบเสร็จแล้ว ไม่มีห้องทดสอบที่ใหญ่พอสำหรับมัน หนทางเดียวเท่านั้นส่งมันลงไปในที่ๆ มันถูกออกแบบใช้งาน และเห็นการทำงานตามคาดหมายไว้ ความจริงก็คือ ใช่ครับ คุณวิตกกังวลก่อนการดำน้ำแต่พอมันเริ่มจริงๆ ผมอยู่ในยาน ทำงานทุกอย่างแบบคนขับ ยานค่อยๆ จมลงไป ผมตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า เป็นความรู้สึกกลับไปเหมือนเด็กที่อยากรู้อยากเห็นกับเรื่องดวงดาว หรือนักบินเจ็ตที่ได้งานทำ ไม่เหลือที่ของความกลัว หรือวิตกจริตกับที่คับแคบเมื่อดำลงไปจริงๆ
ทุ่มเทขนาดนี้คุณจะมีโครงการที่คุณจะทำอีกไหม ?
โครงการเหรอ ? ไปดาวอังคารไง
ดาวอังคาร ?
ผมอยากไปดาวอังคารมาก ไม่ได้คิดว่ามันดูเจ๋งอะไรหรอกนะ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเอาเข้าจริงจะสละเวลาและพลังานจากไหนเหมือนกัน ดูอย่าง เอลอน มัสค์ สิ(อดีตนักธุรกิจและนักประดิษฐ์ชาวแคนาดา-อเมริกาผู้ก่อตั้งเว็บชำระเงินและทำธุรกรรม Paypal) ที่ทำงานเพื่อให้มนุษย์ได้ไปดาวอังคาร นั่นแหละความตั้งใจที่เขาสร้าง SpaceX(บริษัทที่ก่อตั้งเพื่อพัฒนากระสวยอวกาศให้มนุษย์สามารถเดินสู่อวกาศได้สะดวกขึ้น) มาจากความคิดนี้เลย
แล้วคุณจะนั่ง หรือขับเอง ?
ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ ผมทำเรื่อง Avatar เสร็จก็คิดได้ว่าควรจะเอาจริงได้แล้วกับเรื่องทะเลเพราะเห็นมนุษย์เราพลาดที่มัวแต่คิดแค่จดวัดสถิติความลึก สร้างแต่เทคโนโลยีเหมือนๆ เดิมมาสำรวจสถานที่บริเวณนี้ ผมเปรียบการเดินทางครั้งนี้ว่าเหมือนการดิ่งพสุธายามค่ำคืน สำรวจทุ่งข้าวสาลีในเนบราสก้าด้วยแสงไฟ เดินเป็นระยะทางสองไมล์ในทิศเดียวก่อนจะกลับเพื่อบอกว่าผมได้สำรวจอเมริกาแล้ว คืออยากจะบอกว่าคุณแทบไม่ได้รู้จักมันเลยนะ คุณเห็นเพียงจุดเล็กๆ จากภาพขนาดใหญ่เท่านั้น มันควรจะให้คนได้รู้ว่าบนโลกใบนี้มีเขตแดนอันกว้างใหญ่มหาศาลอยู่เบื้องล่าง กล้าพูดได้เลยว่าเรารู้จักพื้นผิวของดวงจันทร์ ของดาวอังคารมากกว่าที่เรารู้จักใต้ทะเลลึกเสียอีก ถ้ามองจากหลักฐานทางภาพถ่ายจะเห็นชัดว่าเราไม่เคยเห็นภาพที่ตรงนั้นเลย ถ้ารวมพื้นที่บริเวณร่องลึกก้นสมุทรด้วยมันจะมีขนาดใหญ่เท่ากับทวีปอเมริกาเหนือเลย ดั้งนั้นเราควรจะหาทางเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ด้วยการคิดถึงการสำรวจดาวเคราะห์ทั้งดวงจากที่เคยสำรวจพื้นทวีปกันจนปรุ
อะไรที่เราเรียนรู้จากการดำสำรวจครั้งนี้ ?
เราไม่รู้ในสิ่งที่เราไม่รู้ครับ คุณดำลงสู่ความมืดมิดและถึงใต้ทะเลลึกที่ไม่มีใครเคยรู้จักเบื้องล่างนั้นจริงๆ พวกเขาคิดว่ามันเป็นแค่ปลักโคลนแล้วก็ได้ค้นพบปล่องน้ำพุร้อน และวิถีทางที่สิ่งมีชีวิตดำเนินอยู่บนโลกไม่ต่างกับทุกชีวิตที่อยู่เหนือน้ำ และพื้นดิน นี่คือการเปิดเผยครั้งยิ่งใหญ่ นักวิทยาศาสตร์ไม่เคยคิดถึงคำถามเรื่องนี้ด้วยซ้ำ หนึ่งในพื้นที่ที่น่าจะเกี่ยวพันกับต้นกำเนิดชีวิต มีข้อถกเถียงมากมายว่าสิ่งมีชีวิตขึ้นไปอยู่บนพื้นโลกได้อย่างไร เราอาจจะได้เห็นส่วนเสี้ยวของสิ่งมีชีวิตยุคโบราณเมื่อ 3.5 พันล้านปีก่อน คุณละเลยเรื่องพื้นที่ของผืนทวีปบนโลกของเราไม่ได้นะ บทเรียนจากการเดินทางผ่านมุมมองของผมคือ เราควรจะพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลงไปที่นั่นและพิจารณาอย่างจริงจัง ตั้งพิกัดมัน สำรวจมัน ค้นหาสสารใหม่ๆ ค้นหารูปแบบชีวิตที่แตกต่าง และทำความเข้าใจทะเลให้มากขึ้น
ภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบกับทะเลของเรายังไงครับ ?
ทะเลถูกกระทำจากหลายๆ อย่าง คุณไปจับปลาก็มีส่วนกับภาวะโลกร้อน และมีส่วนกระทบกับแนวปะการังและแพลงตอนอย่างมากด้วย สิ่งมีชีวิตทางทะเลกำลังถูกทำร้ายเพราะน้ำมือของเราที่อยู่บนโลก แล้วคุณทำอะไรบ้างเหรอ ? คนส่วนใหญ่ไม่คิดถึงผลกระทบพวกนี้ไง ยิ่งพวกเขาเห็นภาพถ่ายชีวิตสัตว์สวยๆ ไม่ว่าจะฉลาม หรือปลากระเบนทางช่อง Discovery Channel เรายิ่งต้องเก็บภาพของพวกมันในใต้ทะเลลึกให้ได้ เพื่อคุณจะได้เคารพ และอยากปกป้องมัน
คุณเกิดข้อผิดพลาดอะไรบ้างไหมระหว่างการทำงานครั้งนี้ ?
มีข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เป็นร้อยครับ ศิลปะของอะไรต่างๆ ในโครงการนี้คือเรียนรู้จากความผิดพลาดของคุณตั้งแต่มันเริ่มเกิดขึ้น ทำการทดสอบ สร้างและปรับปรุงวิธีการต่างๆ ให้ดีขึ้นมากๆ เราทำการปล่อยและนำยานกลับขึ้นมาในจุดที่เราพบปัญหา ในจุดที่เห็นว่าเป็นอันตราย เราจะจัดการแก้ไขปัญหาเท่าที่เราจะทำได้ ทุ่มเทขนาดนี้จนทำให้คิดว่าโครงการทั้งหมดนี้จะต้องทำเป็นซีรี่ส์ชุดใหญ่เกี่ยวกับการค้นหาทางทะเล ผมจะเข้าไปในยานราว 3 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นก่อนที่ยานจะเริ่มดำลงไป ทำการตรวจสอบทุกอย่างทั้งหมดให้ถี่ถ้วน ไล่ตั้งแต่เปิดทั้งระบบจนปิดเครื่อง ตรวจระบบฉุกเฉิน เช็คทุกอย่างว่าทำงานถูกต้องแล้ว ผมจะออกมายืดเส้นยืดสายเล็กน้อยเสียก่อนจะเข้าไป เพราะการดำลงไปนับจากเวลาที่ทีมงานปิดประตูไปจนถึงตอนที่เปิดก็น่าจะราว 10-11 ชั่วโมงเลยครับ
คุณมีวิธีเตรียมร่างกายอะไรบ้าง ?
ผมพยายามจะทำฟิตเนสแบบคาร์ดิโอ(การออกกำลังที่เน้นให้หัวใจสูบฉีดโลหิต)ให้อยู่ระดับดีเพราะต้องอยู่ในที่ๆ แคบกับสภาพที่ต้องงอคู้เข่าซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดอาการเส้นเลือดขอดได้ ผมเองก็อายุไม่ใช่น้อยแล้ว ก็ต้องทำการวิ่งทั้งในสนามและลู่วิ่ง ทำโยคะให้มากๆ เพื่อให้สมดุลกับการฟิตเนส และก็ต้องเตรียมสภาพจิตใจให้มุ่งมั่นเข้าไว้ เพราะในยานนี่จะไม่ได้สบายอะไรเลย
อะไรที่ทรมานที่สุดตอนอยู่ในยาน ?
ตอนคุณนั่งเก้าอี้นานหลายชั่วโมง น้ำหนักตัวที่มันกระจายไปบนต้นขาล่าง แต่พอคุณอยู่ในยานคุณจะต้องนั่งบนจุดเล็กๆ สองจุดที่ขนาดแค่เหรียญ 2 เหรียญดอลลาร์มาทิ่มก้นคุณ ผ่านไป 3 ชั่วโมงก็แย่แล้ว ผมเคยจินตนาการจะสร้างที่นั่งที่สบายนุ่มๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างแต่ก็หายไปจากรายการทีหลัง นักบินอวกาศน่ะจะมีที่นั่งที่สร้างมาให้พอดีสำหรับในยานเดินทางของพวกเขา ผมเองก็อยากได้อะไรแบบนั้นบ้างนะแต่ไม่สำเร็จ ก็ต้องใช้การเล่นโยคะช่วยไป
คุณดำไปลึกที่สุดแค่ไหนครับ ?
35,787 ฟุต นี่ก็ลึกที่สุดเท่าที่มนุษย์สักคนจะไปถึงแล้วล่ะ
กลับมาสู่โลกของหนังบ้าง Avatar ภาคใหม่จะถ่ายทำนานแค่ไหนครับ ?
น่าจะประมาณ 5 ปีครับเพราะเรากำลังทำหนัง 3 ภาคเลย แต่ส่วนตัวแล้วอย่างภาคแรกเราใช้เวลาสร้างเกือบ 4 ปี การทำ 3 ภาคเป็นเรื่องที่ทะเยอทะยานล่ะครับ
วางกำหนดวันฉายไว้แล้วหรือครับ ?
ยังอยู่ในช่วงกำหนดครับ เราร่างบทสามภาคไว้เรียบร้อยแล้วแต่ยาวมากเพราะแค่มันมีไอเดียดีโคตรๆ มากเกินไป เราอยากจะสร้างจักรวาลของเรื่องที่สมบูรณ์ให้ได้มันจึงต้องมาแก้บทกันอยู่ในตอนนี้ ในขณะเดียวกันเรากำลังออกแบบโลก ภูมิทัศน์ สิ่งมีชีวิต ตัวละคร วัฒนธรรม และข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดกันอย่างเต็มที่ ผมแทบรอเวลาเปิดกล้องไม่ไหวแล้ว