เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับชาวแคนาดา ผู้โด่งดังจากหนังทำเงินมหาศาลอย่าง Titanic และ Avatar นอกจากความหลงใหลในโลกภาพยนตร์จนสร้างชื่อในฐานะเป็นผู้กำกับชื่อดังในฐานะเจ้าของภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลแล้ว ความหลงใหลอีกอย่างของคาเมรอนคือการดำดิ่งสู่ใต้มหาสมุทร ในงานภาพยนตร์ทั่วไปเขาสร้างหนังที่เกี่ยวข้องกับทะเลนั่นคือ The Abyss และ Titanic ในเวลาต่อมาการสำรวจภายในของเรือไททานิคได้กลายเป็นงานอย่าง สารคดีช่อง Discovery สำรวจเรือรบเยอรมันที่จมใต้น้ำ Expedition: Bismarck(2002) สารคดีสำรวจเรือไททานิค Ghosts of The Abyss(2003), และ Aliens of the Deep (2005) ที่พาเราไปสำรวจสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดใต้ท้องทะเล แต่นั่นดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอเติมเต็มความหลงใหลของเขา
Deepsea Challenge 3D เป็นสารคดีผลงานการกำกับร่วมกันระหว่าง จอห์น บรูโน่(Virus-1999 และทีมงานแผนกกำกับศิลป์และเทคนิคพิเศษด้านภาพที่ร่วมงานกับ เจมส์ คาเมรอนมายาวนาน, เรย์ ควินท์ และแอนดรูว์ ไวจ์(นักสำรวจใต้น้ำชาวออสเตรเลียที่เป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับ คาเมรอนใน Sanctum-2011) เพื่อถ่ายทอดเบื้องหลังการทำงาน การสร้างยานสำรวจ ความฝันที่มีแต่เด็กของคาเมรอน และการปฏิบัติภารกิจดำลงสู่ชาแลนเจอร์ ดีฟ จุดที่ลึกที่สุดของโลกเท่าที่มนุษย์เคยค้นพบ เจมส์ คาเมรอน อาจจะไม่ได้ร่วมกำกับแต่นั่นเพราะเขาเป็นผู้ร่วมออกแบบยานสำรวจ ผู้นำโครงการ และผู้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนยานลงบริเวณกลางมหาสมุทรแปซิฟิคด้วยตัวเอง เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2555 ได้สร้างสถิติดำน้ำลงไปส่วนที่ลึกที่สุดของโลกได้สำเร็จด้วยความลึกราว 7 ไมล์ หรือ 11 กิโลเมตร จากยานสำรวจ Deepsea Challenger ถูกสร้างอย่างลับๆ ในออสเตรเลีย ด้วยความร่วมมือกับ National Geographic Society และการสนับสนุนจากบริษัท Rolex
นิยามการสำรวจครั้งนี้ สภาพการเดินทางสุดท้าทายครั้งนี้อาจนิยามได้ว่ามันเหมือนเดินทางลัดด้วยการขี่ลิฟต์แคบๆ จากป่าเขตร้อนตะลุยทั้งคืนไปจนถึงขั้วโลกเหนืออย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้เขายังมีประสบการณ์สำรวจทะเลที่หนักหนาสาหัสในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Titanic นั่นส่งผลให้หลังจากนั้นเขาได้เปิดบริษัท Earthship Productions เพื่อผลิตสารคดีเกี่ยวกับการสำรวจทะเล นับจากนั้นทำให้เขาสำรวจทะเลอีกหลายครั้ง พัฒนาเครื่องมือถ่ายทำ และยานสำรวจอีกมากมาย
Deepsea Challenge เป็นการเยือนเพื่อสำรวจท้องทะเลอีกเป็นครั้งที่ 8 ของเขา ทีมวิศวกรของคาเมรอนใช้เวลาถึง 7 ปีในการสร้างยานสำรวจที่มีประสิทธิในการดำดิ่งสู่เบื้องล่างของมหาสมุทรที่สุดด้วยยานสำรวจสีเขียวสดที่ผ่านการพัฒนา และทดสอบมาอย่างดีในชื่อ Deepsea Challenger ซึ่งเป็นการใช้เงินส่วนตัวคาเมรอนเองร่วม 10 ล้านเหรียญฯ
แล้วทำไมถึงจำเป็นต้องดำลงไปเบื้องล่างนั้น ? เพราะไม่ใช่แค่การสร้างสถิติใหม่ เมื่อถึงเบื้องล่างคาเมรอนจะทำการสำรวจโดยใช้คันบังคับขับเคลื่อนยานที่หนักร่วม 12 ตัน(ระวางขับน้ำสูงสุดเมื่อบรรทุกสินค้า) เพื่อค้นหาสัตว์สายพันธ์ใหม่ๆ และบันทึกภาพใต้ทะเลด้วยกล้อง 3 มิติ สารคดีชิ้นนี้จึงพาผู้ชมไปสัมผัสทั้งเรื่องราวความทุ่มเทตามความฝันจนกลายเป็นจริงซึ่งสร้างแรงบันดาลใจ และยังได้พบกับภาพอันสวยงาม ภาพของโลกใต้ทะเลที่ยากจะหาชมได้จากที่ไหน ณ สถานที่และจุดที่ลึกที่สุดของโลกที่มนุษย์ค้นพบได้ในปัจจุบัน
ทำไม และจำเป็นแค่ไหนที่ต้องดำไปยังจุดดังกล่าว ? แน่นอนว่าแม้การไปครั้งนี้อาจเหมือนเป็นการสนองความฝันของผู้กำกับระดับโลก แต่มันก็มีคุณค่ามหาศาลไปพร้อมๆ กัน เพราะว่าความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับพื้นที่ที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรนั้นปัจจุบันมนุษย์มีข้อมูลน้อยยิ่งกว่าการสำรวจพื้นที่บนดาวอังคารเสียอีก การลงไปเพื่อเก็บข้อมูลทางธรณีวิทยาและชีววิทยา จึงไม่ต้องแปลกใจแต่อย่างใดหากผลงานภาพยนตร์เรื่องต่อไปของเขาอย่าง Avatar ภาคต่อ จะมีสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลปรากฎอยู่แน่ๆ
Deepsea Challenge 3D มีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทย 21 สิงหาคม 2557
ตัวอย่างภาพยนตร์