ฐิติพันธ์ พัฒนมงคล : รายงาน
เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๗ สำนักงานใหญ่แห่งสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก จัดการประชุม UN Climate Summit 2014 โดยมีผู้นำชาติต่างๆ ทั้งมหาอำนาจและประเทศโลกที่ ๓ เข้าร่วมกว่า ๑๒๐ ประเทศ
แม้ ๑ วันก่อนเริ่มงานจะมีฝูงชนนับร้อยถูกควบคุมตัวเพราะปักหลักประท้วงการจัดการประชุม ด้วยมองว่าบรรดาผู้นำไม่มีความจริงใจแก้ไขปัญหาโลกร้อน ดูจากการประชุมครั้งก่อนหน้าที่ประสบความล้มเหลว แต่เมื่อถึงเวลาพิธีเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการก็ดำเนินไป
เพียง ๑ วันที่ผู้นำจากทุกสารทิศมารวมตัวกันก็ถูกจับตามองว่าทิศทางของงานอนุรักษ์ รวมทั้งการรักษาสภาพภูมิอากาศของโลกนี้จะเป็นไปในทิศทางใด
ทั้งนี้มีหัวข้อการประชุมที่น่าสนใจ เช่น กำหนดกรอบการเจรจาสนธิสัญญาว่าด้วยการป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ-อากาศ การปรับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปลายปีนี้ที่ประเทศเปรูและในปีหน้าที่ประเทศฝรั่งเศส แทนสนธิสัญญาเกียวโตที่จะหมดอายุ
มติที่ประชุมเห็นพ้องให้เพิ่มการใช้พลังงานทดแทนและเพิ่มเงินทุนสนับสนุนแก่ประเทศกำลังพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน ตั้งเป้าลดการสูญเสียพื้นที่ป่าเขตร้อน ส่งเสริมการผลิตอาหาร รวมทั้งให้รถที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามีส่วนแบ่งการตลาดของรถใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๐ ภายในปี ๒๕๗๓
ในโอกาสนี้ บารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้พบปะหารือกับ จางเกาหลี รองนายกรัฐมนตรีจีน ผู้เข้าร่วมประชุมแทนประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าสหรัฐฯ และจีนเป็นสองประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด รวมกันราวร้อยละ ๔๕ จะต้องรับผิดชอบโดยผลักดันเพื่อลดการปล่อยก๊าซ
อย่างไรก็ตามเมื่อการประชุมสิ้นสุดลงก็เป็นที่เฝ้ามองว่าแนวทางดังกล่าวจะนำไปปฏิบัติได้จริงจังเพียงใด ด้วยเนื้อหาส่วนใหญ่ยังคลุมเครือและเป็นการให้สัญญาอย่างกว้างๆ •
ที่มารูป – http://www.nbcnews.com/storyline/isis-terror/u-n-general-assembly-obama-aims-rally-support-isis-fight-n209961