เรื่องและภาพ : พ่อนก  www.doublenature.net

งู สัตว์เลื้อยคลานซึ่งไม่เป็นที่ปรารถนาสำหรับหลายๆ คน ด้วยมีเรื่องเล่าที่ฟังแล้วชวนขนหัวลุกเสมอ อย่างงูยักษ์อสุรกาย อสรพิษหรือซาตานผู้ล่อลวง งูพิษกัดถึงตาย หรืองูไม่มีพิษก็รัดให้ถึงตายได้  โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่นับวันยิ่งมีข่าวเกี่ยวกับงูบ่อยครั้งและถี่ขึ้น คงเพราะมันเหลือที่อยู่ในธรรมชาติน้อยลงไปเรื่อยๆ  เรามักพบเจองูตามซอกหลืบในบ้าน แม้กระทั่งในโถส้วม ด้วยความตื่นตระหนกจึงตีงูให้ตายหรือไม่ก็เรียกหน่วยกู้ภัยจับงู (snake rescue) มาจัดการ ทั้งๆ ที่มีงูอีกหลายชนิดไม่มีพิษ (จากจำนวนชนิดงูทั้งหมดที่มีในโลก ๓,๐๐๐ ชนิด) จึงน่าเสียใจมากหากตีงูทุกครั้งที่เจอ

(ซ้าย) ดลใช้เท้ากดหางงูไว้เพื่อบันทึกภาพงูทางมะพร้าว (ขวาบน) งูทางมะพร้าวขู่ศัตรูด้วยการแผ่ลำตัวด้านยาวเหมือนทางมะพร้าว (ขวาล่าง) งูทางมะพร้าวไม่มีเขี้ยวพิษ ดลอ้าปากงูให้ดู 

(ซ้าย) จุดสังเกตมีเส้นดำคาดส่วนหัวมาที่ตา (ขวาบน) แอมกับงูสิงที่เจ้าตัวบอกว่าน่ารัก (ขวาล่าง) ดลกับงูสายม่านที่ลายสวยงามไปอีกแบบ

ทำความรู้จักงู

สำหรับดลและแดนผู้ชื่นชอบสัตว์ต่างๆ และยังอยากรู้จักสัตว์อีกหลายชนิด รวมถึงอะนาคอนดางูยักษ์ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เปิดประตูรับรู้เรื่องงูตั้งแต่วัยเด็กและถ่ายทอดเป็นภาพวาดงูยักษ์ไว้ นี่ยังไม่นับงูพิษที่เป็นอันตรายร้ายแรง เช่น งูจงอาง งูเห่า งูหางกระดิ่ง ฯลฯ ที่เด็กๆ ก็อยากรู้จักเช่นกัน  ด้วยเหตุนี้เด็กทั้งสองจึงชอบดูหนังสารคดีสัตว์โลกซึ่งเป็นการทำความรู้จักงูชนิดต่างๆ ไปในตัว ถึงคราวพบเจองูจึงใคร่รู้ว่าเป็นชนิดใด มีพิษหรือไม่ หากไม่มีพิษก็อยากจับมาเลี้ยง  พ่อเองจำได้ว่าตอนจับงูเขียวใส่กล่องแมลงไว้ให้ลูกดู ก็ยังกลัวๆ กล้าๆ  ผิดกับลูกๆ ที่จับงูได้โดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด  ความคุ้นเคยกับธรรมชาติทำให้เด็กๆ เรียนรู้สัตว์ต่างๆ อย่างเข้าใจและดูมันสวยงามน่าสนใจไปหมด  แต่ข้อสำคัญคือต้องหาข้อมูลให้มากพอก่อนโดยเฉพาะเกี่ยวกับ “งู”

จากซ้ายไปขวา – ดลกับงูทางมะพร้าวในวันหยุดที่ทุ่งหลังบ้าน
แดนและพี่ดลวัยเด็กชื่นชมงูเขียวพระอินทร์ในกล่องแมลง
ดลชื่นชอบงูเขียวพระอินทร์ ตัวที่ขอร้องให้พ่อจับให้ตอนเด็กๆ
เจองูปากกว้างน้ำเค็มที่บ้านลุงแดง แหลมผักเบี้ย

จากซ้ายไปขวา – งูเหลือมหัวสีเหลืองทองสดเพิ่งลอกคราบ
พี่ รปภ. หมู่บ้านช่วยกันจับงูเหลือมใส่ถุงปุ๋ย
งูเหลือมมุดหัวลงรูฝาท่อระบายน้ำหน้าบ้าน แต่ลำตัวติดคาอยู่

วันหยุดของเด็กนักเรียน

ปัจจุบันดลไปโรงเรียนตามระบบปรกติ มีวันหยุดได้กลับสู่ท้องทุ่งหลังบ้านเกือบทุกเสาร์-อาทิตย์  ช่วงเข้าหน้าฝนก่อนทุ่งพัฒนาการจะกลายเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ เป็นเวลาผลิบานของสรรพชีวิต ต้นไม้ใบหญ้าแตกดอกออกใบเขียวชอุ่ม สัตว์เลื้อยคลานเริ่มแพร่พันธุ์ งูหลายชนิดก็ออกลูก ดลจึงชวนพ่อ “ไปจับงู” ที่ทุ่งหลังบ้านแต่เช้าตรู่  ความรู้สึกกลัวๆ กล้าๆ ยังคงมีอยู่ลึกๆ สำหรับผู้เป็นพ่อ  ดลเริ่มที่พงหญ้าข้างทาง ค่อยๆ ย่างเหยียบเท้าเบาๆ พร้อมกวาดตาอย่างว่องไวและช่างสังเกต เห็นสิ่งเคลื่อนไหวที่หยุดนิ่งพรางตัวกระทั่งคว้าจับเจ้างูตัวเล็กได้  “เฮ้ยระวัง…งูอะไร…ไม่ใช่งูพิษแน่นะ” พ่อตะโกนถาม  ดลจับงูเหมือนจับสัตว์ทั่วๆ ไป แต่พ่อนั้นหัวใจหล่นลงไปที่ตาตุ่ม

งูทางมะพร้าว

ดลจับหัวงูอย่างถนัด สังเกตเห็นเส้นสีดำคาดส่วนหัวซึ่งมีสีน้ำตาลอมส้ม ลำตัวลายสีดำสลับเทาและน้ำตาลเป็นทางยาว พลางบอกพ่ออย่างใจเย็น “งูทางมะพร้าวไม่มีพิษหรอก ดูนี่สิไม่มีเขี้ยวพิษ” พร้อมจับหัวบีบให้มันอ้าปาก ไม่มีเขี้ยวจริงๆ ด้วย มีแต่ฟันเล็กๆ  ดลจับมันวางบนพื้นโดยใช้เท้ากดหางไว้ไม่ให้หนี  เจ้างูขู่ด้วยการแผ่ช่วงคอให้ขยายกว้างในแนวยาว ซึ่งต่างจากงูเห่าแผ่แม่เบี้ยในแนวขวาง  ดลใช้มือโบกหลอกล่อให้มันฉก งูขยับตั้งท่าลำตัวส่วนหน้าให้เป็นลูกคลื่นพร้อมอ้าปากรอจังหวะฉกอย่างมีลีลา  ว่ากันว่างูทางมะพร้าวมักแกล้งตายถ้าหนีศัตรูไม่ทัน โดยพลิกหัวหงายนอนนิ่ง พอศัตรูเผลอมันจะรีบหนีอย่างว่องไว  ดลเล่นกับงูและถ่ายรูปเสร็จก็ปล่อยให้มันเลื้อยไป

ข้อมูลสำคัญ : งูทางมะพร้าว [Elaphe radiata (Schlegel) 1837] นิสัยไม่ดุร้าย ไม่มีต่อมพิษและเขี้ยวพิษ  ออกลูกเป็นไข่ราว ๕-๑๕ ฟองต่อปี  ลูกงูที่ฟักออกมาขนาดลำตัวยาวประมาณ ๒๕-๓๐ เซนติเมตร เมื่อโตเต็มที่ยาวประมาณ ๒๓๐ เซนติเมตร  มีความสำคัญต่อระบบนิเวศคือเป็นผู้ควบคุมปริมาณสัตว์มีกระดูกสันหลังบางชนิด เช่น นก สัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กอย่างหนู

ในทุ่งหญ้าป่ารก

ดลชวนแอมเพื่อนคอธรรมชาติวัยเดียวกันมาสำรวจลูกงูไม่มีพิษอีกหลายชนิด เช่น งูสายม่านซึ่งมีสีลายสวย งูปี่แก้วที่นิสัยค่อนข้างดุและมีพิษอ่อนๆ ดลก็โดนไปบ้างเล็กน้อย  ส่วนแอมจับงูสิงตัวยาวสีน้ำตาลอ่อน  ทั้งสองคนใช้เวลาในทุ่งหญ้าป่ารกตามลำพัง จนพ่อรู้สึกกังวล แม้จะวางใจเรื่องทักษะความชำนาญและความระมัดระวัง โดยเฉพาะความเคารพต่อธรรมชาติของวัยรุ่นสองคนนี้  แต่ก็มิใช่เพราะงูเงี้ยวไม่มีเขี้ยวพิษในทุ่งหญ้ารกร้างหรอกหรือ ตามหมู่บ้านโครงการในละแวกนี้จึงพบเจอปัญหางูในที่อยู่อาศัยมากขึ้น  ล่าสุดก่อนไปโรงเรียนตอนเช้าตรู่ ดลพบงูเหลือมลายสวยสดจดจ้องนิ่งจะฉกแมวริมรั้วหน้าบ้าน แล้วจะขอจับเองเพราะอยากเลี้ยงไว้ จัดแจงไปหาไม้และเชือกทำบ่วง  สังเกตได้ว่ามันคงหิวเพราะท้องแฟบและเคลื่อนตัวว่องไวมาก ทุกคนต้องร้องห้าม “เดี๋ยวไปโรงเรียนไม่ทันนะ” ภารกิจจึงเป็นของพี่ รปภ. หมู่บ้าน  เมื่อช่วยกันจับงูเหลือมใส่ถุงสำเร็จก็ถามว่าจะนำงูไปปล่อยที่ไหน คำตอบคือ “เอาไปปล่อยที่ทุ่งหลังหมู่บ้านครับ”