MP3
Soundcloud
Youtube
นี่คงเป็นบทบรรณาธิการที่เขียนยากที่สุดครั้งหนึ่งในระยะเวลา ๖ ปีที่ผมมารับหน้าที่บรรณาธิการบริหาร
ขณะที่นิตยสารสารคดี ฉบับนี้อยู่ในมือคุณผู้อ่าน ทุกท่านคงรับรู้ได้ทันทีว่าเล่มบางลงกว่าปรกติ
และเป็นเช่นนั้นจริง แต่ไม่ใช่เพราะเราพิมพ์หน้าหาย
ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาเราจัดพิมพ์โดยมีจำนวนหน้าเฉลี่ยอยู่ที่ราว ๑๙๒ หน้า แต่ตั้งแต่ฉบับนี้ และฉบับต่อ ๆ ไป นิตยสารสารคดี จำต้องลดจำนวนหน้าลงเหลือราว ๑๓๖-๑๔๔ หน้า หายไป ๔๘-๕๖ หน้า
เพราะไตร่ตรองแล้วว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะยืดอายุนิตยสารสารคดี ให้จัดพิมพ์ต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์ที่โฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์หดหาย…โดยส่งผลกระทบต่อคุณผู้อ่านน้อยที่สุด
คำอธิบายที่อยากขอแบ่งปัน คือความจริงที่ว่าตลอดหลายสิบปีของวงการนิตยสารเมืองไทย นิตยสารส่วนใหญ่ล้วนมีสัดส่วนรายได้สำคัญมาจากค่าโฆษณา และเป็นรายได้ซึ่งทำให้นิตยสารเกือบทุกเล่มสามารถตั้งราคาปกต่ำกว่าราคาจริงที่คิดตามต้นทุนบวกกำไร เพราะรายได้จากโฆษณาได้เข้ามาแบกรับต้นทุน และสำหรับหลายเล่มคือรายได้ส่วนที่สร้างกำไร
โดยทั่วไปนิตยสารสี่สี หนาเกือบ ๒๐๐ หน้า กระดาษอาร์ตเกือบครึ่งเล่ม แค่ต้นทุนค่าพิมพ์ ค่ากระดาษ ค่ากองบรรณาธิการ หากไม่มีรายได้จากโฆษณา คำนวณราคาปกที่ต้องตั้งขายแก่ผู้อ่านอาจพุ่งไปถึง ๓๐๐ บาทหรือมากกว่านั้น เมื่อรายได้จากโฆษณาหนีหาย ข่าวนิตยสารชื่อดังหลายเล่มปิดตัวลงจึงตามมาเป็นดอกเห็ด
เพราะเจ้าของธุรกิจไม่อาจแบกรับความขาดทุนไหว หรือหากคิดจะขึ้นราคาปก คำถามตัวโต ๆ คือจะมีคนยอมซื้อไหม
สำหรับนิตยสารสารคดี หากคุณผู้อ่านสังเกตในฉบับปีที่ผ่านมาก็จะเห็นหน้าโฆษณาที่เหลืออยู่น้อยนิด
ยอมรับตรง ๆ ในปีที่ผ่านมารายได้จากโฆษณาของนิตยสารสารคดีลดลงมาถึงจุดวิกฤตต่อการก้าวเดินขึ้นปีที่ ๓๓ กล่าวคือเราไม่อาจแบกรับต้นทุนในขนาดรูปเล่มเดิม เพื่อจำหน่ายตามราคาปกเดิม ๑๒๐ บาท ซึ่งเป็นราคาปกที่ไม่เคยขึ้นมากว่า ๑๐ ปี
ขณะที่เมื่อเทียบกับสินค้าและบริการอื่นทุกอย่างล้วนปรับราคาขึ้นกันไปหมดแล้วจากเมื่อ ๑๐ ปีก่อน
ถึงกระนั้นเมื่อต้องตัดสินใจเลือก ระหว่างการขึ้นราคาปกใหม่จากต้นทุนเดิม กับการลดต้นทุนลงคงราคาปก ด้วยการลดจำนวนหน้ากระดาษ สารคดีพิจารณาแล้วว่าวิธีหลังน่าจะเป็นทางเลือกที่สมเหตุผล หนึ่ง ขอไม่ผลักภาระราคาให้ผู้อ่าน สอง เลือกลดจำนวนหน้าส่วนหนึ่งเพื่อรักษาส่วนใหญ่ หมายถึงคุณผู้อ่านจะยังได้รับเนื้อหาสาระหลักที่เข้มข้นประจำฉบับตามสูตรของสารคดีที่ทำมากว่า ๓๐ ปี แม้จะมีจำนวนหน้าบางลงก็ตาม
ไม่ว่าการตัดสินใจนี้จะสมเหตุผลแค่ไหน ผมต้องขออภัยสมาชิกทุกท่านที่ได้สนับสนุนเรามาตลอด และคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามเรามาอย่างใกล้ชิด จากความเปลี่ยนแปลงที่อาจกระทบความรู้สึกของท่านไว้ ณ ที่นี้
สุดท้าย กับสถานการณ์ของสื่อสิ่งพิมพ์ที่คาดว่าจะรุนแรงยิ่งขึ้นอีก ผมขอเรียนเชิญคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านสมัครสมาชิกรายปี เพื่อสนับสนุนให้เราก้าวเดินต่อไปด้วยความมั่นใจ โดยท่านจะได้รับนิตยสาร “๘๙ เรื่องราวพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙” เป็นของกำนัลสุดพิเศษ
ขอรับรองว่า สารคดี จะยืนหยัดเป็นนิตยสารกระดาษสำหรับคนรักการอ่านจนกว่าจะไม่เหลือคนอ่านอยู่เลยจริงๆ
สุวัฒน์ อัศวไชยชาญ
บรรณาธิการบริหารนิตยสารสารคดี
suwatasa@gmail.com