ยัติภังค์
หากไม่ใช่คอหนัง ก็อาจจะเคยชมหนังของเขาผ่านตา โดยเฉพาะภาพยนตร์ไตรภาคแบทแมน(Batman Begins, The Dark Knight, และ The Dark Knight Rises) โดย The Dark Knight ยังทำให้เขากลายเป็นผู้กำกับไม่กี่คนที่สร้างภาพยนตร์ทำรายได้รวมเกิน ๑ พันล้านเหรียญฯ โดยที่ยังถ่ายทำในระดับปกติ ไม่ต้องมีจุดขายเป็นระบบฉายในโรง ๓ มิติ
คริสโตเฟอร์ โนแลน มีชื่อจริงว่า คริสเตอร์ โจนาธาน เจมส์ โนแลน เกิดที่ประเทศอังกฤษในปี ค.ศ.๑๙๗๐ เริ่มต้นจากการทำหนังทุนต่ำใน The Following (๑๙๙๘) ก่อนจะโด่งดังจาก Memento (๒๐๐๐) หนังสืบสวนทุนต่ำที่เล่าเรื่องในลักษณะย้อนกลับ และกลายเป็นโอกาสให้เขาได้ทำหนังที่มีดาราและทุนสร้างสูงขึ้นกับ Batman Begins(๒๐๐๕) โดยยังมีจุดเด่นในการเล่าเรื่องที่ผิดขนบแบบต้นไปจนจบ แต่สลับสองเหตุการณ์ หรือสองช่วงเวลาเสมอ
ไม่ได้มีแค่คนดูติดตามผลงาน และทรงอิทธิพลกับวงการหนัง ในนิตยสาร Xbox magazine ปี ๒๐๑๓ เคยจัดให้เขาติดอันดับ ๑๐๐ คนสำคัญแห่งวงการเกมอีกด้วย (โดยให้เหตุผลว่า หนังของเขาทำให้เนื้อหาในเกมต้องสร้างให้ซับซ้อนขึ้น)
Tenet ภาพยนตร์จินตนาการล้ำ ของ คริสโตเฟอร์ โนแลน กำลังเข้าฉายในเดือนสิงหาคมนี้ และถูกจับตามองว่าจะเป็นความหวังในการเรียกคนดูเข้าโรงภาพยนตร์อีกครั้ง จึงขอนำเกร็ดเรื่องราวที่น่าสนใจของผู้กำกับคนนี้มานำเสนอกัน
ทำหนังแต่เด็ก – เด็กชายโนแลนได้กล้อง Super 8 เป็นของขวัญตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ และทำให้เขารักการถ่ายทำหนังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พอเข้ามหาวิทยาลัยที่แม้จะไม่ได้เรียนด้านภาพยนตร์ เขาก็ถ่ายทำหนังด้วยกล้อง ๑๖ มม.
เรียนจบวรรณกรรมอังกฤษ – โนแลนจบการศึกษาสาขาวรรณกรรมอังกฤษ จาก University College London ซึ่งมีอิทธิพลกับงานของเขาไม่น้อย ดังเช่นอิทธิพลจากวรรณกรรมคลาสสิค ของ ชาร์ลส ดิคเกนส์ อย่าง A Tale of Two Cities ใน The Dark Knight Rises หรือการอ้างอิงถึงงานเขียนของ ฆอร์เก ลุยส์ บอร์เกส, เรย์มอนด์ แชนเลอร์ ซึ่งเขาเปิดเผยว่าเรียนรู้และเพลิดเพลินกับการเล่าเรื่องที่มีอิสระของนักเขียนหลายๆ คน
หนังในดวงใจ – Star Wars มักถูกอ้างถึงในการทำหนังของเขาสมัยเด็ก เช่นเดียวกับหนังชุดเจมส์ บอนด์ ตอน On Her Majesty’s Secret Service ที่โนแลนชื่นชอบ และเป็นแรงบันดาลใจให้เขาใน Inception แต่เขาเป็นนักดูหนังตัวยง มีตั้งแต่หนังพาณิชย์อย่าง Alien และ Superman ไปจนถึงหนังที่ได้รับการยกย่องอย่าง 2001: A Space Odyssey, Blade Runner, 12 Angry Men และ The Thin Red Line ไปจนถึงหนังดีที่หลายคนมองข้ามอย่าง The Hit (1984), Koyaanisqatsi(1982) และ Greed (1924)
ชอบดื่มชา – สมกับเป็นคนอังกฤษที่รักการดื่มชาเป็นชีวิตจิตใจ โนแลนชอบชามากชนิดที่เขาต้องพกขวดใส่ติดตัวไว้ตลอด และทำให้สีฟันเขามีคราบเป็นเหมือนสีลูกเกาลัด ไมเคิล เคน หนึ่งในนักแสดงคู่บุญของเขายังอดถามไม่ได้ในกองถ่ายว่า “ถามจริง คุณไม่ได้ใส่วอดก้าลงในนั้นใช่ไหม ?”
ชีวิตคู่คนทำหนัง – ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ที่ลอสแองเจลีส แต่งงานกับ เอ็มม่า โทมัส ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับหนังของเขาตั้งแต่เรื่องแรก และร่วมกันตั้งบริษัทสร้างหนัง Syncopy
ต้องถ่ายฟิล์ม – ในยุคที่แทบทุกสตูดิโอเลือกถ่ายทำด้วยกล้องดิจิทัล แต่โนแลนก็ยังถ่ายทำด้วยฟิล์มเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นฟิล์ม 35 มม., ฟิล์มสำหรับระบบการฉายไอแม็กซ์ ด้วยความเชื่อว่านี่เป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการถ่ายทอดภาพเคลื่อนไหว
ไม่ทำหนัง 3D – หลายเรื่องและหลายครั้งที่เขาได้ข้อเสนอในการถ่ายทำเป็นระบบ ๓ มิติ แต่ก็มักปฏิเสธทุกครั้งไป โดยให้เหตุผลในช่วงการถ่ายทำ The Dark Knight Risesว่า “ผมพบรายละเอียดที่เล็กมากของภาพในแบบสามมิติและใส่ใจในสิ่งเหล่านั้น หนัง ๓ มิติเป็นการใช้คำที่ผิด เพราะฟิล์มเป็น ๓ มิติอยู่แล้ว จุดภาพทั้งหมดคือภาพ ๓ มิติ”
ชุดเดิม – โนแลนชอบใส่ชุดแบบเดิมทุกๆ วันเป็นประจำ ในช่วงที่อากาศร้อนเขาจะสวมแจ๊คเก็ตสีดำทับเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเปิดคอปก กับกางเกงสีดำ ถ้าในช่วงอากาศหนาวก็จะสวมสูทเสื้อกั๊กทับ
ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ – ใครจะไปเชื่อว่าผู้กำกับหนังระดับโลกไม่มีอุปกรณ์สื่อสารที่ทุกคนมีกัน แต่ในการสัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter เขาไม่มีโทรศัพท์มือถือ โนแลนไม่ได้ตั้งแง่รังเกียจเทคโนโลยีสมัยใหม่ เขาเล่าว่าในช่วงที่เขาเริ่มมาทำงานที่ฮอลลีวู้ด คนก็ไม่ค่อยใช้โทรศัพท์มือถือกันนัก ทำให้เขาเคยชินกับการให้คนมาเรียกเขาไปรับสายกรณีที่จำเป็นเท่านั้น เช่นรับสายในช่วงระหว่างถ่ายทำ เขาอยู่กับคนรอบข้างที่มีโทรศัพท์มือถือตลอดเวลาอยู่แล้ว ทำให้คนไม่พลาดในการติดต่อ และโชคดีที่เขามีงานทำตลอด
ไม่มีอีเมล – นอกจากไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ เครื่องมือรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่ทุกคนมีอย่างอีเมล โนแลนก็ไม่มี ในการสัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter เขาบอกว่ามันไม่ได้มีประโยชน์อะไรสำหรับเขา หากมีจดหมายที่สำคัญเท่านั้น เขาจึงจะให้ผู้ช่วยพิมพ์ออกมาให้ ซึ่งเขายังให้เหตุผลการไม่ใช้โทรศัพท์ ไม่มีอีเมลว่า “จริงๆ ผมชอบที่จะไม่ใช้ของพวกนี้เพราะมันทำให้ผมใช้เวลาในการคิด คือถ้ามีสมาร์ทโฟน และลองอยู่กับมันสัก ๑๐ นาที คุณก็จะใช้มันไปเรื่อยๆ เริ่มมองดูนั่นดูนี่”
นักเก็บความลับ – นับเป็นผู้กำกับอีกคนที่มักเก็บความลับของเรื่องไว้อย่างดี จนกว่าผู้ชมจะได้ไปชม หลายเรื่องโนแลนจึงถ่ายทำโดยใช้ชื่อในกองถ่ายที่ไม่ใช่ชื่อทางการ เช่นใน Dunkirk ใช้ชื่อในกองถ่ายว่า Bodega Bay
ไม่ชอบคอมพิวเตอร์กราฟิก – ในยุคที่หนังส่วนใหญ่มีจุดขายที่ภาพคอมพิวเตอร์กราฟิกสมจริงตระการตา และโนแลนจะกำกับหนังฟอร์มใหญ่จำนวนมาก แต่ก็เป็นเรื่องที่ทราบกันดีว่า เช่น ฉากระเบิดตึกใน The Dark Knight หรือฉากเปิดเรื่องใน The Dark Knight Rises โนแลนก็เลือกจะถ่ายทำในสถานที่จริงแทน และมักเลือกให้ใส่เทคนิคพิเศษด้านภาพให้น้อยที่สุด เพราะเขาเชื่อว่าคนดูจะสัมผัสถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ดีกว่าเห็นมันเป็นแค่ภาพที่สร้างจากคอมพิวเตอร์
ชอบของเก่า – เห็นได้ชัดว่าโนแลนรักเครื่องไม้เครื่องมือรุ่นเก่า ก่อนเขาจะเริ่มทำหนังจะใช้เวลาร่วมสองสัปดาห์ในการพิมพ์แนวคิดเริ่มต้นของเรื่องผ่านเครื่องพิมพ์ดีดรุ่นเก่าของพ่ออีกด้วย
เป๊ะเว่อร์ – คริสโตเฟอร์ โนแลนอ้างว่าเขาไม่เคยเข้าทำงานสายสักครั้ง และแม้งานกองถ่ายจะเป็นงานที่มักทำงานกันไม่เป็นเวลา แต่เขาเผยว่าไม่เคยทำงานในช่วงสุดสัปดาห์เลย
ต้องได้อย่างใจ – แม้จะกำกับหนังฟอร์มใหญ่มาไม่น้อย แต่สิ่งที่เขาทำตลอดคือการไม่ประนีประนอมให้กับการเปลี่ยนแนวคิดของตน โดยพยายามให้หนังของเขาตรงกับภาพในหัวที่ตนจินตนาการไว้ให้มากที่สุด ว่ากันว่าในช่วงที่ทำ Interstellar ภาพยนตร์ไซไฟ โนแลนไม่ยอมดู Gravity หนังไซไฟเรื่องดังที่ฉายไปก่อนหน้า เพราะกลัวจะไปเปลี่ยนภาพในห้วงอวกาศที่เขาคิดไว้
ภาพจาก – Flickr.com / Flickr.com
ข้อมูลจาก
- https://www.uselessdaily.com/movies/dunkirk-trivia-35-fun-facts-you-didnt-know-about-the-film/
- http://www.indiewire.com/gallery/christopher-nolan-favorite-films-stream/
- http://www.businessinsider.com/christopher-nolan-movie-in-3d-2014-11
- http://www.bfi.org.uk/news-opinion/sight-sound-magazine/features/christopher-nolan-escape-artist
- http://www.huhmagazine.co.uk/7997/10-interesting-facts-about-interstellar-director-christopher-nolan