เรื่องและภาพ : วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์
สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่เรียกว่า Expo Axis ลักษณะเป็นหลังคาถักทอยาวเหยียดไปตามบริเวณทางเข้างาน
กลายเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของ Expo 2010 Shanghai China
“เย็นวันหนึ่ง หลังเลิกงาน ดิฉันเดินกลับอพาร์ตเมนต์ที่เช่าไว้ในเซี่ยงไฮ้ ปรากฏว่าพอเปิดประตูเข้าไป มีชายฉกรรจ์ชาวจีนคนหนึ่งนั่งรออยู่บนโซฟา ดิฉันตกใจมากว่าเขาบุกรุกเข้ามาในห้องพักส่วนตัวได้อย่างไร
“แต่พอสนทนาไปได้สักครู่ก็รู้ว่า เขาเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ และเขามายื่นข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้ คือต้องการให้พาวิลเลียนของคนไทยเซ็นสัญญาใช้บริการรถเช่าของเขาตลอดงาน เอ็กซ์โปที่กินระยะเวลา ๖ เดือน หากบริษัทของเขาไม่ได้งานจะไม่รับรองความปลอดภัยของคนไทย แน่นอนว่าราคาค่าเช่ารถแพงกว่าปรกติมาก แต่เพื่อสวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่คนไทยทั้งหมดที่มาทำงาน เราไม่มีทางเลี่ยง”
คำสนทนาของพนักงานสาวที่ทำงานให้กับพาวิลเลียนของไทยในงานเซี่ยงไฮ้เวิลด์ เอ็กซ์โป ๒๐๑๐ ทำให้ผมหวนระลึกถึงภาพยนตร์จีนอันโด่งดังเมื่อเกือบ ๓๐ ปีก่อน–เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ นำแสดงโดยโจวเหวินฟะ เป็นเรื่องราวสะท้อนการต่อสู้ระหว่างแก๊งมาเฟียในนครเซี่ยงไฮ้ช่วงก่อนพรรค คอมมิวนิสต์จะยึดประเทศจีนได้สำเร็จ
ย่านถนนริมแม่น้ำหวงผู่ หรือ “เดอะบันด์” ถือเป็นย่านเมืองเก่า
อาคารสถาปัตยกรรมสีเทาขนาดใหญ่รูปทรงคลาสสิคแบบยุโรป
นั้นเคยเป็นที่ตั้งของบริษัทใหญ่ ธนาคารชั้นนำและสถานกงสุลจากทั่วโลก
ปัจจุบันยังคงได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี
เซี่ยงไฮ้ถือเป็นดินแดนที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกมานับร้อยปี
วัฒนธรรมแบบฝรั่งฝังลึกในหมู่ชาวจีนเซี่ยงไฮ้มายาวนาน แตกต่างจากชาวจีนในภูมิภาคอื่นอย่างเห็นได้ชัด
ฝั่งเมืองใหม่ที่เรียกว่า ผู่ตง เป็นย่านทันสมัยของเซี่ยงไฮ้
ด้านซ้ายเป็นหอไข่มุกตะวันออก หรือหอคอยส่งสัญญาณวิทยุ
สูงเป็นอันดับ ๔ ของโลก ความสูง ๔๖๘ เมตร รัฐบาลสร้างเป็นอาคารสูงแห่งแรก
เพื่อดึงความเจริญมาสู่ฝั่งเมืองใหม่แทนฝั่ง เมืองเก่าที่แออัดคับคั่ง
ปัจจุบันเซี่ยงไฮ้มีอาคารระฟ้าสูง ๒๐-๓๐ ชั้น มากกว่า ๕,๐๐๐ แห่ง
ร้านขายของที่ระลึก ร้านค้า และร้านอาหารชื่อดัง
ในบริเวณตลาดเฉิงหวังเมี่ยว หรือตลาดร้อยปี
ตลาดนัดขนาดใหญ่กลางเมืองเซี่ยงไฮ้
๑
เมื่อเครื่องบินเริ่มลดระดับเหลือไม่กี่พันฟุตก่อนจะแล่นลงสู่สนามบินนานาชา ติผู่ตง ผมมองผ่านช่องหน้าต่างลงไปเห็นสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีสีน้ำตาลขุ่นอยู่ เบื้องล่าง เรือขนส่งสินค้าหลายสิบลำกำลังเข้าเทียบท่าดูคึกคักสมกับเป็นท่าเรือขนส่ง สินค้าอันดับ ๑ ของโลก แซงฮ่องกงและสิงคโปร์ไปเรียบร้อยแล้ว บริเวณปากแม่น้ำกินพื้นที่กว้างใหญ่ มีเกาะใหญ่กลางแม่น้ำเรียกว่าเกาะฉงหมิง เป็นส่วนหนึ่งของมหานครเซี่ยงไฮ้หรือชาวจีนเรียกว่า ซ่างไห่
สนามบินเซี่ยงไฮ้น่าจะเป็นสนามบินที่มีการจราจรแน่นขนัดมากที่สุดแห่งหนึ่ง ของโลก สังเกตจากด่านตรวจคนเข้าเมือง ๑๐ กว่าช่องมีผู้คนเข้าคิวยาวเหยียด ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะผ่านด่านนี้เพื่อไปยลโฉมมหานครเซี่ยงไฮ้ เมืองใหญ่ที่สุดในประเทศจีนและเป็นศูนย์กลางการค้าและการเงินของประเทศ ตั้งอยู่ชายฝั่งตะวันออกของปากแม่น้ำแยงซี ได้รับการขนานนามว่า “นครปารีสแห่งตะวันออก” และได้รับเลือกให้อยู่ในกลุ่มมหานครชั้นแนวหน้าหรือระดับไฮโซอันดับ ๕ ของโลก รองจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นิวยอร์ก ลอนดอน และปารีส
มหานครแห่งนี้ไฮโซจริงหรือไม่ เพื่อนคนจีนบอกว่าทุกวันนี้หากจะจีบสาวเซี่ยงไฮ้ไม่ใช่เรื่องง่าย อาตี๋ฝ่ายชายจะต้องมีพร้อมทุกอย่างตั้งแต่ความรู้ความสามารถ ทรัพย์สินเงินทอง บ้าน รถยนต์ เพื่อเป็นหลักประกันความสุข ส่วนรูปร่างหน้าตานั้นมาทีหลัง ถ้าไม่มีทุกอย่างพร้อม สาวเซี่ยงไฮ้รุ่นใหม่ก็ไม่แยแสสนใจเพราะพวกเธอส่วนใหญ่ทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ได้
ดูเหมือนอุดมการณ์สังคมนิยม ทำงานเพื่อส่วนรวม ถูกเก็บใส่ลิ้นชักนานแล้ว เพราะคนเซี่ยงไฮ้ส่วนใหญ่ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน หาเงินอย่างเดียว
เซี่ยงไฮ้มีลักษณะทางกายภาพคล้ายกรุงเทพมหานคร กล่าวคือมีแม่น้ำหวงผู่ไหลผ่านกลางมหานคร ฝั่งตะวันออกหรือผู่ตงถือเป็นย่านทันสมัย เป็นเมืองใหม่ ได้รับการพัฒนา มีอาคารสูงระฟ้า ในยุคเติ้งเสี่ยวผิงประกาศนโยบายสี่ทันสมัยเมื่อ ๓๐ ปีก่อนเพื่อพัฒนาจีนให้เป็นประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยทั้งด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การทหาร วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี โดยเฉพาะเมืองชายฝั่งจะได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษ ส่งผลให้ย่านผู่ตงมีความเจริญมากกว่าฝั่งตะวันตกหรือผู่ซีซึ่งเป็นย่านเก่า แก่ของเซี่ยงไฮ้
ที่แตกต่างคือ การที่ทางการจีนหันมาพัฒนาย่านผู่ตงนั้นเพราะที่ดินย่านเก่าแก่ฝั่งตะวันตก หรือผู่ซีมีราคาแพงและมีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น การขยับขยายเมืองทำได้ไม่สะดวก รัฐบาลจีนจึงหันมาพัฒนาด้านตะวันออกซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นที่นา ราคาที่ดินไม่แพงเท่า และมีประชากรน้อย หากเปรียบเทียบกับเมืองไทย ฝั่งธนบุรี ราคาที่ดินถูกกว่า และมีประชากรน้อยกว่าฝั่งกรุงเทพฯ แทนที่จะได้รับการพัฒนาให้เจริญขึ้น แต่รัฐบาลไทยทุกยุคกลับให้ความสำคัญกับการพัฒนาฝั่งกรุงเทพฯ มากกว่า
สนามบินผู่ตงตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำหวงผู่ ระยะทางจากสนามบินข้ามสะพานมาถึงโรงแรมในย่านผู่ซี ประมาณ ๔๐ กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเกือบ ๒ ชั่วโมง ยิ่งเข้าใกล้ใจกลางเมือง รถยิ่งคืบคลานไปอย่างช้าๆ บนไฮเวย์ที่ขนาบด้วยอาคารสูงเสียดฟ้านับร้อยๆ แห่ง ตามอาคารมีบิลบอร์ดโฆษณารถยนต์หรู ขณะที่ตามท้องถนนรถยอดนิยมคือรถยี่ห้อโฟล์ก และรถสัญชาติจีนผลิตในเซี่ยงไฮ้ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมสำคัญในมหานครแห่งนี้
“ปีหน้าพี่กลับมาเที่ยวเมืองเซี่ยงไฮ้ สภาพก็ไม่เหมือนตอนนี้ เพราะเซี่ยงไฮ้มีตึกเพิ่มขึ้นทุกวัน” ไกด์สาวนั่งคุยกับเราบนรถ
ตึกรามบ้านช่อง อาคารระฟ้าในมหานครเซี่ยงไฮ้ผุดขึ้นตลอดเวลา มีอาคารสูงเทียบเท่าตึก ๒๐-๓๐ ชั้นประมาณ ๕,๐๐๐ แห่ง ทัศนียภาพเมืองเปลี่ยนแปลงทุกวัน การก่อสร้างดำเนินไปไม่หยุดหย่อนทั้งวันทั้งคืน ไม่ว่าถนนตัดใหม่ ท่าเรือ อาคาร ต้องรีบสร้างให้เสร็จทันเวลา รัฐบาลจีนออกข้อบังคับว่าบริษัทรับงานก่อสร้างในมหานครนี้จะต้องสร้างตึกให้ เสร็จไม่เกิน ๓ ปี หรือห้ามเกินเวลาที่กำหนด มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ หลายสิบปีผ่านไป เซี่ยงไฮ้กลายสภาพเป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุด เต็มไปด้วยตึกสูงเสียดฟ้า มีประชากรมากที่สุดในประเทศจีน คือ ๒๐ ล้านคน
สมัยราชวงศ์ชิง กรุงปักกิ่งกำลังเฟื่องฟู เป็นศูนย์กลางความเจริญของประเทศจีนทุกๆ ด้าน เวลานั้นเซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองประมงชายฝั่งเล็กๆ มีคนอาศัยอยู่น้อยมาก จนเมื่อชาติตะวันตกเริ่มเข้ามารุกรานประเทศจีน มีการทำสนธิสัญญาให้ชาวตะวันตกค้าขายฝิ่นได้ เมืองเซี่ยงไฮ้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนีราวกับแบ่งเค้ก กลายเป็นเมืองท่าสำคัญในยุคนั้น มีการก่อสร้างท่าเรือ โรงงานอุตสาหกรรม อาคารบ้านเรือนแบบตะวันตกอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่นั้นมาเซี่ยงไฮ้กลายเป็นดินแดนตะวันออกพบตะวันตก ชาวจีนหลั่งไหลมาหางานทำในเซี่ยงไฮ้ เช่นเดียวกับคลื่นผู้อพยพชาวต่างชาติจากทั่วสารทิศที่พากันเข้ามาตั้งรกราก ทำธุรกิจในเมืองนี้ เงินลงทุนจากต่างประเทศไหลสะพัดเข้ามาตลอดเวลา ทำให้เซี่ยงไฮ้กลายเป็นมหานครติดอันดับท็อปเทนของโลกในกลางศตวรรษที่ ๑๙ เป็นเมืองแห่งศูนย์กลางการเงินและการค้าที่สำคัญที่สุดของประเทศจีน
แต่ฉากหลังของเซี่ยงไฮ้คงหนีไม่พ้นสิ่งผิดกฎหมาย เหล้า โสเภณี ยาเสพติด บ่อนการพนัน ที่อยู่ภายใต้อำนาจเถื่อน มาเฟียหรือ “เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้” ซึ่งมือกฎหมายเอื้อมไม่ถึง จึงไม่น่าแปลกใจที่ในยุคนั้น อีกด้านหนึ่งเซี่ยงไฮ้กลายเป็นเมืองคนบาป เกลื่อนด้วยไนต์คลับ บาร์ ซ่อง โสเภณีจีนและต่างชาติ โรงฝิ่น และการฆาตกรรม ลอบสังหาร กราดปืนกลใส่กันเมื่อระหว่างเจ้าพ่อเกิดขัดผลประโยชน์กัน
เช้าวันรุ่งขึ้น เมฆทะมึนครึ้มฟ้า ฝนเริ่มตกปรอยๆ เราได้เสี่ยวหลงเปา ซาลาเปาร้อนๆ แป้งเนียนนุ่มห่อไส้หมูและน้ำซุปรองท้องจนอิ่ม เราเดินกางร่มมาชมย่านที่เรียกว่า “เดอะบันด์” สัญลักษณ์ของเมืองเซี่ยงไฮ้ยุคเก่าที่ทอดยาวไปตามริมแม่น้ำหวงผู่ฝั่งตะวัน ตก เห็นอาคารสถาปัตยกรรมสีเทาขนาดใหญ่รูปทรงคลาสสิกแบบยุโรปซึ่งเคยเป็นที่ตั้ง ของบริษัทใหญ่ ธนาคารชั้นนำ และสถานกงสุลทั่วโลก ยังคงได้รับการอนุรักษ์ ตั้งเด่นเป็นสง่าเรียงรายไปตามริมแม่น้ำ บริเวณนี้เป็นเพียงไม่กี่แห่งที่เรายังได้กลิ่นอายความเป็นเมืองแห่งโลก ตะวันออกกับโลกตะวันตกผสมผสานกันเมื่อเกือบ ๑๐๐ ปีก่อน และยังเป็นฉากสำคัญในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ อันโด่งดังด้วย
น่าเสียดายที่เราไม่มีเวลาไปเยี่ยมชมบ้านของคณะผู้ก่อการอันเป็นที่ประชุม แกนนำกลุ่มนักเคลื่อนไหวหัวรุนแรงมาร์กซิสต์ผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน หนึ่งในนั้นคืออดีตบรรณารักษ์ห้องสมุด เหมาเจ๋อตง ซึ่งกำลังเคลื่อนไหวปลุกกระแสชาตินิยมขับไล่จักรวรรดิทุนนิยมตะวันตก ปารีส ลอนดอน และวอชิงตัน ออกไปจากเขตพื้นที่สิทธินอกอาณาเขตปกครองของทางการเซี่ยงไฮ้
พอพรรคคอมมิวนิสต์ครอบครองประเทศจีนในปี ค.ศ. ๑๙๔๙ เซี่ยงไฮ้ในฐานะสัญลักษณ์ของทุนนิยมและเมืองคนบาปจึงถูกรัฐบาลคอมมิวนิสต์ จีนสั่งสอน ทุกอย่างหยุดนิ่ง เซี่ยงไฮ้ไม่เหลือสภาพเมืองที่เคยมั่งคั่งมาก่อนเลยเป็นเวลาร่วม ๔๐ ปี กระทั่งช่วงปี ๑๙๘๐ เติ้งเสี่ยวผิง ผู้นำคนสำคัญของจีนกลับมามีอำนาจกุมบังเหียนประเทศจีน เขานำนโยบายสี่ทันสมัยมาใช้ปฏิรูปเศรษฐกิจ พัฒนาประเทศจีนอย่างก้าวกระโดด เซี่ยงไฮ้จึงกลับคืนชีพอีกครั้งหนึ่ง รัฐบาลกลางมีความตั้งใจที่จะพัฒนาให้นครเซี่ยงไฮ้มีความเจริญและเป็นเมือง ทันสมัยเทียบเท่าฮ่องกง โดยกำหนดเป็นเขตปกครองพิเศษ แม้ว่าจะอยู่ในมณฑลเจ้อเจียงแต่ขึ้นตรงกับรัฐบาลกลางในกรุงปักกิ่ง รัฐบาลจีนอัดฉีดเม็ดเงินและการลงทุนในเซี่ยงไฮ้ปีละ ๑ ล้านล้านบาทติดต่อกันหลายสิบปี เซี่ยงไฮ้กลายเป็นศูนย์กลางการเงินและการค้าสำคัญของโลก เป็นเมืองขนาดใหญ่มีพลเมืองมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศจีนคือ ๒๐ ล้านคน มีคนรายได้ดีคือเงินเดือน ๕ หมื่นบาทขึ้นไปประมาณ ๒ ล้านคน ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพีของนครเซี่ยงไฮ้โตปีละประมาณ ๙-๑๐ % ฉุดให้ประเทศจีนกลายเป็นประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจพุ่งแรงที่สุด ในโลกมาหลายปีแล้ว
ราว ๑๐ ปีก่อน เซี่ยงไฮ้ได้โจทย์สำคัญจากรัฐบาลกลาง คือการเป็นเจ้าภาพงานระดับเวิลด์คลาสใหญ่เป็นอันดับ ๓ ของโลกรองจากกีฬาโอลิมปิกและฟุตบอลโลก เพื่อพิสูจน์ความยิ่งใหญ่และความทันสมัยของจีนยุคใหม่
มองข้ามแม่น้ำไปทางฝั่งตะวันออก อาคารรูปทรงแปลกๆ ตั้งเรียงรายอยู่ริมน้ำ ตรงนั้นเองคือที่ตั้งงานนิทรรศการแสดงนวัตกรรมและวัฒนธรรมของชาวโลก “เซี่ยงไฮ้เวิลด์เอ็กซ์โป ๒๐๑๐”