ผีสางเทวดา เกร็ดเรื่องราวความเชื่อผีสาง เทวดา ในวัฒนธรรมไทยแต่อดีต
ครุฑเป็น “สัตว์หิมพานต์” หรือสัตว์ในจินตนาการของคนอินเดียโบราณ ครึ่งคนครึ่งนก ในศาสนาพราหมณ์ฮินดู ถือเป็นพาหนะของพระนารายณ์ ส่วนในจักรวาลทางพุทธศาสนา ครุฑเป็นสัตว์อย่างหนึ่งที่อาศัยอยู่บนต้นงิ้วใหญ่ หรือ “วิมานฉิมพลี” เชิงเขาพระสุเมรุ แกนกลางของจักรวาล
บ้านเมืองต่างๆ ที่ได้รับอิทธิพลอารยธรรมอินเดียจึงพลอยได้รู้จัก “ครุฑ” ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น หรือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็พบรูปครุฑอยู่ในงานศิลปะมาตั้งแต่โบราณ ถือเป็นพญานกมีฤทธิ์เดช แม้แต่สายการบินแห่งชาติของอินโดนีเซียปัจจุบันก็ยังใช้ชื่อว่าสายการบินพญาครุฑ หรือ Garuda
ส่วนไทยเรารับคติเรื่องครุฑมาทั้งแบบพุทธและแบบพราหมณ์ผสมๆ กัน เราจึงมีรูป “พระนารายณ์ทรงครุฑ” อยู่ตามหน้าบันอุโบสถวัดต่างๆ
เรื่องครุฑยังมาเกี่ยวข้องกับคติทางไทยที่นับถือพระมหากษัตริย์ในสถานะหนึ่ง คือในอวตารของพระนารายณ์
ธงประจำพระองค์ของพระมหากษัตริย์ที่เรียกว่า “ธงมหาราช” นั้น เป็นธงสี่เหลี่ยมจัตุรัส รูปครุฑสีแดงบนพื้นเหลือง ในความหมายว่า พระมหากษัตริย์เปรียบประดุจพระนารายณ์อวตาร เมื่อพบเห็นครุฑที่เป็นเทวพาหนะอยู่ที่ใด ย่อมหมายความว่า องค์พระนารายณ์อวตารย่อมประทับอยู่ ณ ที่แห่งนั้น
คตินี้เองยังต่อเนื่องมาถึงการที่ไทยใช้ “ตราแผ่นดิน” หรือเครื่องหมายราชการเป็นรูปครุฑ ได้ยินมาว่าสมัยก่อน ครุฑที่อยู่บนหัวกระดาษจะเป็นลายเส้นสีแดง ซึ่งเป็นสีกายของครุฑและถือว่าเป็นสีศักดิ์สิทธิ์มาแต่โบราณ แต่พอถึงยุคเกลียดกลัวคอมมิวนิสต์สมัยทศวรรษ 2500 รัฐบาลทหารไม่ชอบอะไร “แดงๆ” จึงต้องเปลี่ยนหัวกระดาษตราครุฑมาเป็นลายเส้นสีดำอย่างที่ใช้กันจนทุกวันนี้
เมื่อมีฐานะเป็นตราแผ่นดิน ครุฑจึงเคยมาปรากฏตัวประดับตามมุมตึก เช่นรูปครุฑยุดแตรที่มุมตึกไปรษณีย์กลาง บางรัก รวมถึงบนเหรียญสตางค์ที่ผลิตออกมาใช้กันด้วย เช่นเหรียญบาทรุ่นปี 2517 ด้านหัวเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ส่วนด้านก้อยทำเป็นภาพครุฑกางปีก เหมือนที่หัวหนังสือราชการ
ต่อมาเมื่อมีเหรียญบาทรุ่นใหม่ๆ ออกมาใช้หมุนเวียนอีกหลายต่อหลายรุ่น เหรียญบาทรุ่น 2517 ที่มีรูปครุฑเริ่มไม่คุ้นตา ก็มีผู้ไปให้ค่าให้ความหมายใหม่ ว่าเหรียญบาทครุฑรุ่นนี้เป็นของขลัง มีฐานะเป็นกึ่งๆ วัตถุมงคล เพราะมีรูปครุฑซึ่งเป็นของสูง ของศักดิ์สิทธิ์
เหรียญบาทรุ่น 2517 จึงเปลี่ยนความหมายจากเงินตรา กลายเป็นเครื่องราง อัดกรอบไว้ห้อยคอ หรือใช้พกติดตัวป้องกันภูตผี ปัดรังควานเสนียดจัญไร โดยเฉพาะนิยมใส่ลงไปในหลุมตอนยกเสาเอกปลูกบ้าน หรือใช้ฝังไปในพิธีวางศิลาฤกษ์
ผู้ที่เชื่อเช่นนั้น ถ้าบังเอิญมีเหรียญบาทครุฑติดบ้านมาแต่เดิม หรือตกค้างอยู่ตามกระปุกออมสินเก่าๆ ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าต้องไปซื้อหามาในราคาสูงๆ ก็อาจเป็นเรื่องเกินกว่าเหตุ เพราะเหรียญรุ่นนี้มีผลิตออกมาใช้หลายสิบล้านเหรียญ ถึงเวลานี้ก็ยังน่าจะมีตกค้างอยู่ตามบ้านเรือนทั่วประเทศเป็นแสนๆ อัน ไม่น่ามีราคาสูงเป็นพันบาทอย่างที่เป็นข่าว