putscienceพุธ-ไซแอนซ์

ติดปีกความรู้ทางวิทยาศาสตร์ทุกวันพุธ เพราะเทพเจ้าประจำดาวพุธคือ Mercury บุรุษเทพแห่งการสื่อสารที่ไปได้เร็วเท่าความคิด


ช้างแอฟริกา งางอน

ทบทวนความรู้เดิมๆ กันก่อน

บนโลกของเรายุคปัจจุบันนี้ มีช้างเอเชีย (ช้างไทย) กับช้างแอฟริกา เป็นช้างสองชนิดที่รู้จักกันทั่วไป

ช้างแอฟริกาตัวใหญ่กว่า หูกางใหญ่กว่าช้างเอเชีย (ความจริงยังมีอีกหลายลักษณะที่ต่างกัน)

แต่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์คอนเฟิร์มแน่นอนแล้วว่า มีช้างชนิดที่ 3 ด้วย!

มันไม่ใช่ช้างลึกลับที่เพิ่งค้นพบว่าแอบซ่อนตัวอยู่ในป่าไหน

แต่เป็นช้างแอฟริกาที่เคยๆ เห็นกันเป็นปรกติอยู่นี่ละ

สังเกตกันมานานแล้วว่า ช้างแอฟริกามีกลุ่มงางอน อาศัยในทุ่งหญ้าสะวันนา กับกลุ่มงาตรง ที่ชอบอาศัยในป่ารก

ช้างแอฟริกางาตรงยังตัวเล็กกว่า ใบหูกลมกว่าช้างแอฟริกางางอน

ก็เลยเป็นที่ถกเถียงกันมานานว่า ช้างสองกลุ่มนี้จัดเป็นช้างชนิดเดียวกัน หรือจะน่าจะแยกเป็นสองชนิดดี

ซึ่งความจริงเมื่อ 7-8 ปีก่อน หลายสำนักก็ออกมาบอกว่าน่าจะแยกเป็นสองชนิด

ช้างป่าแอฟริกา งาตรง

ล่าสุด จากการศึกษาพันธุกรรม นักวิทยาศาสตร์ลงความเห็นว่าช้างสองกลุ่มนี้ได้แยกพันธุกรรมจากกันตั้งแต่เมื่อ 5 แสนปีก่อน (ซึ่งหมายถึงว่าในอดีตนั้น ช้างได้แยกกลุ่มจากกันไปอยู่ห่างไกลกันจริงๆ ด้วย แม้ปัจจุบันจะกลับมาพบอยู่ใกล้กัน)

และที่สำคัญ คือการยืนยันความแตกต่างด้วยเชื้อสายบรรพบุรุษของช้างสองชนิดนี้

นักวิทยาศาสตร์พบว่า ช้างชนิดที่ 3 คือช้างแอฟริกางาตรง หรือช้างป่าแอฟริกา มีเชื้อสายใกล้ชิดมากกับ ช้างแมมมอทขนยาวๆ และกับช้างมาสโตดอน รวมทั้งช้างโบราณงาตรงที่เป็นบรรพบุรุษของช้างปัจจุบัน

หมายความว่า ในอดีต ช้างต่างกลุ่มต่างลักษณะเหล่านี้ เคยผสมข้ามสายพันธุ์กันแบบมั่วซั่วมาก่อน

และทิ้งพันธุกรรมเป็นหลักฐานมาถึงสายพันธุ์ช้างแอฟริกางาตรงปัจจุบัน

ส่วนช้างแอฟริกางางอนนั้น มีพันธุกรรมแยกห่างออกไปไกลจากช้างแอฟริกางาตรง

นักวิทยาศาสตร์หวังว่าการแยกชนิดชัดเจนเช่นนี้ จะมีส่วนช่วยอนุรักษ์ช้างแอฟริกางาตรง ให้ได้รับความใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ เพราะมันมีจำนวนน้อยกว่าช้างแอฟริกางางอนมาก แทนที่แต่ก่อนจะเหมารวมว่ามันเป็นชนิดเดียวกัน

ส่วน “งาช้าง” ที่พบที่บ้านใครคนหนึ่งในข่าวล่าเสือดาว จะเป็นงาของช้างชนิดที่ 3 นี้หรือไม่ ต้องตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์กันดู

อ้างอิง


dumสุวัฒน์ อัศวไชยชาญ :

บก. ดำ ผู้ชอบจับแพะมาชนกับแกะ จับแมวโยนไปให้ถึงดวงดาว เพราะหลงเชื่อว่าจักรวาลนี้ไม่มีอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกัน