17 พฤษภาคม 2561 – รูโหว่โอโซนที่เคยสบายใจกันว่าหมดปัญหาไปหลายปีแล้วกำลังคืนชีพ !
องค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NOAA) ระหว่างปี พ.ศ.2557-2559 ได้ทำการตรวจวัดระดับ CFC-11 สารประกอบในน้ำยาปรับอากาศ ขวดสเปรย์ต่างๆ ฯลฯ ตัวการร้ายที่ทำให้เกิดการลดลงของโอโซนในชั้นบรรยากาศระดับบน ซึ่งทุกประเทศบนโลกทำข้อตกลงและช่วยกันลดการผลิตและเลิกใช้ไปนานแล้วจนปริมาณในชั้นบรรยากาศของมันค่อยๆ ลงเรื่องๆ นับจากปี พ.ศ.2536 (ตามข้อตกลงในพิธีสารมอนทรีออลว่าด้วยสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน ซึ่งเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2530 และงดการใช้สารดังกล่าวตั้งแต่ปี พ.ศ.2553) ล่าสุดกลับพบว่าตอนนี้มีปริมาณเพิ่มขึ้นในชั้นบรรยากาศเหมือนเมื่อ 20 ปีก่อน !
นอกจากนี้ยังไม่ได้เป็นเพียงแค่ CFC-11 ที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น เมื่อนักวิจัยตรวจสอบการวัดจากบนยอดเขาเมานาโลอาที่ฮาวายพบว่ายังมีการปล่อยสารมลพิษจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพิ่มขึ้น
นั่นหมายความว่า มีคนแอบผลิตและใช้ CFC-11 จำนวนมากมาระยะหนึ่งแล้ว หากยังไม่รู้ว่าประเทศไหน?
จากข่าวของเว็บไซต์ Science Alert มีการสันนิษฐานว่าอาจมาจากประเทศจีน มองโกเลีย หรือเกาหลีใต้ จากการคำนวณที่นักวิจัยพบว่ามีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากประเทศทางเอเชียตะวันออกเพิ่มขึ้นประมาณ 6,500 ถึง 13,000 ตันในแต่ละปี
รูโหว่โอโซน จะทำให้รังสีอัลตราไวโอเล็ตทะลุลงมาถึงพื้นโลก และก่อให้เกิดโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังสูงขึ้นได้
แปลและเรียบเรียงโดย : สุวัฒน์ อัศวไชยชาญ
ข่าวจาก Science Alert