เรียบเรียงโดย : ธัชชัย วงศ์กิจรุ่งเรือง
เคยสงสัยกันไหมว่าชื่อกล้องถ่ายรูปที่เราใช้กันอยู่ ทำไมเขาจึงใช้ชื่อแบรนด์เช่นนั้น ? กล้องบางตัวนั้นก็มาจากชื่อผู้ก่อตั้งบริษัท เช่น Hasselblad กล้องขนาดกลางชื่อดังจากสวีเดน ก็มาจากชื่อของ ฟริตซ์ วิคเตอร์ ฮาสเซลบลาด , Mamiya กล้องขนาดกลางจากญี่ปุ่น ก็มาจากชื่อผู้ออกแบบกล้องเซอิจิ มามิยะ(Seiichi Mamiya) แต่กล้องแบรนด์อื่นๆ ล่ะ เขามีวิธีคิดชื่อกล้องเหล่านั้นออกมาอย่างไร ? เหล่านี้คือบางส่วนของชื่อกล้องที่เราคัดสรรที่มาให้ได้ทราบกัน
Kodak บริษัทผู้ผลิตกล้องถ่ายรูปและฟิล์มถ่ายภาพผู้เคยรุ่งโรจน์ในอดีต ก่อตั้งบริษัทโดย จอร์จ อีสต์แมน ในเยอรมัน เมื่อ ปี ค.ศ.1888
ชื่อของบริษัท และกลายเป็นชื่อของกล้องรุ่นต่างๆ มาจากความชื่นชอบตัวอักษร K ของอีสต์แมนที่ในตัวพิมพ์แล้วนั้นเป็นตัวอักษรที่ใหญ่และคมชัด เขาและแม่จึงทำการสลับตัวอักษรขึ้นมาใหม่ให้ชื่อแบรนด์เป็นคำไม่มีความหมายแต่มาจากแนวคิดในการคิดชื่อว่า สั้น / สะกดได้ไม่ยาก / และไม่คล้ายหรือเกี่ยวข้องกับอะไรได้ จึงกลายเป็นคำว่า Kodak
ในปี ค.ศ.1907 โกดักกลายเป็นบริษัทแรกที่รวมชื่อบริษัทร่วมกับสัญลักษณ์ และสัญลักษณ์สีเหลืองแดงอันเป็นเอกลักษณ์ในโลโก้ก็ถูกใช้ในปี ค.ศ. 1930 จนคนคุ้นเคยนับแต่นั้น
ที่มา : https://petapixel.com/2011/08/03/origin-and-evolution-of-kodaks-name-and-logo/
SONY
แม้จะมีชื่อเสียงจากเครื่องใช้ไฟฟ้าสารพัน แต่กล้องโซนี่ก็ได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน
เริ่มต้นจากร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าก่อน อากิโอะ โมริตะ จะร่วมมือกับ มาซารุ อิบุกะ ได้พัฒนาจนก่อตั้งบริษัท โตเกียว สึชิน โคเงียว(Tokyo Telecommunications Engineering Corporation) ในปี ค.ศ.1946 เพื่อผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและเทปบันทึกเสียง
ในปี ค.ศ.1953 พวกเขากำลังมองหาชื่อภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในตลาดต่างประเทศ เดิมทีจะใช้เป็นตัวย่ออย่าง TTK แต่ก็ไปซ้ำกับบริษัทอื่นเสียแล้ว ขณะเดียวกันก็พบว่า Totsuko ชื่อเล่นของบริษัทก็อ่านยากในภาษาอังกฤษ
ชื่อ Sony ถูกเลือกขึ้นมาจากการประสมคำสองคำ ได้แก่ Sonus คำในภาษาละตินที่เป็นรากของคำว่าเสียง และ Sonny คำแสลงที่นิยมใช้ในอเมริกายุค 50s สำหรับเรียกเด็กผู้ชาย ซึ่งในยุคนั้นที่ญี่ปุ่น คำว่า Sonny Boys หมายถึงเด็กหนุ่มที่ดูท่าทางฉลาดอีกด้วย ที่โมริตะ มองว่ามันสื่อถึงสิ่งที่เป็นหัวใจของบริษัทของเขาที่ต้องการพลังและความขบถของคนหนุ่มสาวได้เป็นอย่างดี
ผลิตภัณฑ์แรกที่ใช้ชื่อนี้คือวิทยุทรานซิสเตอร์รุ่น TR-55 ในปี ค.ศ.1955 ก่อนจะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Sony ในปี ค.ศ. 1958 และโซนี่เริ่มวางจำหน่ายกล้องดิจิทัลใน ปี ค.ศ.1988
ที่มา :
Canon
กล้องถ่ายภาพจากญี่ปุ่น ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ไซกิโกงาคุ เคนคิวโช(Seikikōgaku kenkyūsho หรือ Precision Optical Industry Co. Ltd.) ซึ่งเริ่มต้นผลิตกล้องโดยพัฒนาจากดีไซน์ของกล้อง Leica
บริษัทเริ่มวางจำหน่ายกล้องรุ่น The Kwanon ในปี ค.ศ.1934 อันมีที่มาจากชื่อของพระโพธิสัตว์กวนอิมในภาษาญี่ปุ่น ตามที่ ผู้ก่อตั้งซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชนนับถือ ต่อมาภายหลังจากกล้องได้รับความนิยม ปี ค.ศ.1947 บริษัทจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท Canon Camera จำกัดมหาชนในเวลาต่อมา
ที่มา : https://prezi.com/zxqauzpx_kan/logo-presentation/
Leica
กล้องจากเยอรมันที่ได้รับการยอมรับด้านคุณภาพของเลนส์ และความพิถีพิถันจากนักถ่ายภาพจำนวนมาก เริ่มต้นในเมืองเว็ทซ์ลาร์ เมื่อปี ค.ศ.1849 คาร์ล เคลเนอร์ ก่อตั้งบริษัท Optisches Institut เพื่อผลิตเลนส์ และกล้องโทรทรรศน์ ภายหลังเมื่อเคลเนอร์ และภรรยาได้เสียชีวิตลง เอิรน์ส ไลตซ์ หุ้นส่วนได้เข้ามาสานต่อกิจการ และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น The Ernst Leitz – Optische Werke โดยมีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นคือกล้องจุลทัศน์
Leica มาจากคำว่า Leitz camera ชื่อกล้องมาจากนามสกุลของผู้ก่อตั้ง บวกรวมกับพยางค์แรกของคำว่า Camera นั่นเอง เป็นกล้องที่ถูกพัฒนาต้นแบบมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1913 โดย ออสการ์ บาร์แนค ก่อนจะพัฒนาสำเร็จเปิดตัวครั้งแรกที่งาน Leipzig Spring Fair ในปี ค.ศ.1925 ด้วยชื่อกล้องรุ่น Leica I กล้องที่ใช้ฟิล์มขนาด 35 มม.
ที่มา : http://leica.pt/leica-a-history-of-success?lang=en
Polaroid
เอ็ดวิน เฮอร์เบิร์ต แลนด์ นักประดิษฐ์และนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกา ประดิษฐ์กล้องถ่ายรูปที่สามารถล้างอัดรูปถ่ายออกมาได้ในทันที ซึ่งในปัจจุบันเรียกกล้องประเภทนี้ว่า Instant Camera แต่โพลารอยด์ก็กลายเป็นคำที่ใช้เรียกกล้องประเภทนี้สำหรับคนส่วนใหญ่ ที่มาของกล้องนี้มาจากลูกสาววัย 3 ขวบของเขาที่ถามพ่อเมื่อปี ค.ศ.1943 ว่าทำไมถ่ายรูปแล้วยังไม่เห็นภาพที่ถ่ายไป ก่อนจะพัฒนากระบวนการล้างอัดภาพจากแนวคิดนั้น และผลิตกล้องโพลารอยด์ตัวแรกออกจำหน่ายในปี ค.ศ.1948
ชื่อกล้องซึ่งมาจากชื่อบริษัทแท้จริงมาจากชื่อแผ่นกรองแสง ที่เขาจดสิทธิบัตรเพื่อการใช้เทคโนโลยีจากพลาสติกโพลารอยด์ ในปี ค.ศ.1929 ซึ่งกลายเป็นสินค้าทั้งแว่นกันแดด, แว่นสามมิติ อุปกรณ์ดูภาพตอนกลางคืน และผลิตภัณฑ์อีกหลายชนิด ก่อนที่ Land-Wheelwright Laboratories บริษัทของ เอ็ดวินจะใช้ชื่อนี้เป็นชื่อบริษัทในปี ค.ศ.1937 ซึ่งแผ่นดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งของโลโก้อีกด้วย
ที่มา : https://www.polaroid.com/history
Minolta
คาซูโอะ ทาชิมะ ก่อตั้งบริษัทนิจิโดคุ ซาชินกิ โชเท็น( Nichi-Doku Shashinki Shōten หรือหมายถึง Japanese-German photo) ในปี ค.ศ.1928 เพื่อผลิตกล้องถ่ายรูปและผลิตด้านบันทึกภาพ ซึ่งพัฒนามาจากเทคโนโลยีการถ่ายภาพของเยอรมัน
บริษัทมาใช้ชื่อแบรนด์ว่า มินอลต้า ในปี ค.ศ.1933 ทาชิมะซึ่งเป็นผู้ตั้งชื่อนำมาจาก มิโนรุตะ อันหมายถึงทุ่งข้าวเหลืองทองสุกอร่าม ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคำที่ทำให้เขาระลึกถึงคำสอนของแม่ที่มักพูดบ่อยๆ ว่า “รวงข้าวที่สุกปลั่งฉันใด ก็ค้อมหัวของมันต่ำสุดฉันนั้น” ซึ่งหมายความว่ายิ่งประสบความสำเร็จยิ่งต้องอ่อนน้อมถ่อมตนมากขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ยังนำเอาชื่อดังกล่าวไปเป็นคำย่อในภาษาอังกฤษว่า Machinery and Instruments Optical by Tashima(Monolta) อีกด้วย
ที่มา : http://www.fundinguniverse.com/company-histories/minolta-co-ltd-history/
Nikon
กล้องซึ่งได้รับการยอมรับในประสิทธิภาพอีกตัวจากแดนอาทิตย์อุทัย โดยบริษัท นิปปอน โคงาคุ(Nippon Kogaku) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1917 เริ่มต้นด้วยการผลิตสินค้าอย่าง กล้องจุลทัศน์, กล้องโทรทรรศน์ และอุปกรณ์งานช่างต่างๆ
ชื่อ Nikkor คือชื่อแบรนด์ของเลนส์ถ่ายภาพที่บริษัทเริ่มใช้ในปี ค.ศ.1932 เพื่อเผยแพร่กับต่างชาติโดยมาจาก Nikko อันเป็นคำย่อของบริษัทที่เป็นได้
ทั้งคำว่า “แสงอาทิตย์” ในภาษาญี่ปุ่น และชื่อเมืองในญี่ปุ่นอีกด้วย
จนหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเองที่ได้เริ่มผลิตกล้องตัวแรกของบริษัทจากเลนส์ Nikkor ในปี ค.ศ.1946 และตั้งชื่อกล้องว่า Nikon เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น ก่อนจะใช้ชื่อนี้เรื่อยมา
ที่มา : http://www.nipponkogakuklub.com/NKK/Nikon_History.html
Olympus
บริษัทผู้ผลิตกล้องจากญี่ปุ่นที่เดิมมีชื่อบริษัทว่า ทาคะชิโฮ เซอิซาคุโช(Takachiho Seisakusho) โดย ทาเคชิ ยามะชิตะ ซึ่งเริ่มต้นจากการผลิตกล้องจุลทัศน์ และเทอร์โมมิเตอร์ในปี ค.ศ.1919 ก่อนจะพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นอย่างเลนส์ และผลิตกล้องถ่ายรูปในที่สุดในปี ค.ศ.1935
ในตำนานของกรีกโบราณ โอลิมปัส คือชื่อของเทือกเข้าที่เทพเจ้าอาศัยอยู่ ซึ่งพ้องต้องกันความหมายเดิมของชื่อบริษัทในภาษาญี่ปุ่น ตามความเชื่อว่าเทพเจ้าอาศัยอยู่บนยอดเขาทาคามะงาฮาระ ในภูเขาทาคะชิโฮ นั่นเอง
ที่มา : https://esif.world-traveller.org/om-sif/camhistory/camhistory.htm
Yashica
กล้องสัญชาติญี่ปุ่นอีกตัวที่ก่อตั้งในจังหวัดนางาโนะ โดยบริษัท ยาชิมะ เซอิกิ (Yashima Seiki) ซึ่งใครจะเชื่อว่าแรกเริ่มเดิมทีบริษัทที่ก่อตั้งในปี ค.ศ.1949
นี้มีเงินทุนเริ่มต้นเพียง 566 เหรียญฯ และพนักงาน 8 คนเท่านั้น โดยเป็นบริษัทประกอบนาฬิกาไฟฟ้า ก่อนจะเริ่มผลิตกล้องในปี ค.ศ.1953
หลังจากเริ่มผลิตอุปกรณ์ของกล้อง และกล้องถ่ายรูปเป็นอย่างดี บริษัทได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งในปี ค.ศ.1956 เป็น ยาชิมะ โคงาคุ โคเงียว เค.เค. หรือโรงงานออพติคัล
ยาชิมะ ในปีเดียวกันนั้นเองได้จำหน่ายกล้องราคาไม่แพงในชื่อ Yashica Rookie นับเป็นครั้งแรกที่ใช้แบรนด์นี้ ซึ่งชื่อดังกล่าวเป็นการรวมกันระหว่างคำว่า
Yashima และ Camera นั่นเอง
ในปี ค.ศ.1957 บริษัทยาชิมะ เปิดตัวกล้อง Yashica-Mat ก่อนจะไปตั้งบริษัท Yashica ขึ้นที่เมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งนับเป็นสาขาย่อยนอกญี่ปุ่นแห่งแรก เพื่อตีตลาดที่นั่น และเปิดตลาดกล้อง 8 มม.อีกด้วย
ที่มา : http://camerapedia.wikia.com/wiki/Yashica
PENTAX
กล้องจากบริษัท อาซาฮี โคงาคุ โงชิ ไกชา(Asahi Kogaku Goshi Kaisha) ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1919 เพื่อผลิตเลนสสายตา ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Asahi Optical Joint Stock Co.ในปี ค.ศ.1938
ในปี ค.ศ.1952 บริษัทได้เปิดตัวกล้องตัวแรกในชื่อว่า Asahiflex กล้อง SLR ของญี่ปุ่นตัวแรกที่ใช้ฟิล์มขนาด 35 มม. ชื่อ Pentax เดิมเป็นชื่อเครื่องหมายการค้าของบริษัท VEB Zeiss Ikon จากเยอรมันตะวันออก ซึ่งมาจากการผสมคำระหว่าง Pentaprism แท่งแก้วซึ่งเป็นส่วนประกอบในกล้อง และ Contax ผลิตภัณฑ์กล้องรุ่นหนึ่งของบริษัท Zeiss Ikon ก่อนอาซาฮีจะซื้อชื่อนี้มาสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์ถ่ายภาพภายใต้ชื่อ Asahi Pentax
และในปี ค.ศ.2002 ก็ได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อ Pentax Corporation ปัจจุบันบริษัทถูกขายให้อยู่ในเครือเดียวกับบริษัท Ricoh ประเทศญี่ปุ่น ในปี ค.ศ.2011
ที่มา : https://www.cameraquest.com/pentorig.htm