ยุ่งเหลือเกิน ชีวิตช่างยุ่งอะไรอย่างนี้ ตอนเรียนก็ต้องปั่นเปเปอร์ ทำงานงานก็เข้ามาไม่หยุดหย่อน ไหนจะเรียนต่ออีก เขียนวิทยานิพนธ์วนไป รู้ตัวอีกที ชีวิตก็แทบไม่ได้เงยหน้าออกจากหน้าจอคอมเลย
ถ้าถามว่า ครั้งสุดท้ายที่แหงนหน้ามองฟ้าเมื่อไร นานจนนึกไม่ออกเชียว เหน็ดเหนื่อยจนไม่มีเวลาขนาดนั้น เวลาออกไปสัมผัสธรรมชาติยิ่งไม่ต้องถามถึง ใช้ชีวิตให้ทันเดดไลน์ไปวันๆ ก็แทบแย่แล้ว
ชีวิตเป็นอย่างนี้ หมุนติ้วไปพร้อมกับโลกและคนที่เหวี่ยงเข้ามา ความเครียดก็ตามมา อยากหาเวลาออกไปพักใจ ใช้ชีวิตช้าๆ ให้ธรรมชาติช่วยเยียวยาจิตใจอันห่อเหี่ยว แต่ก็หายาก
จริงหรือ? อาจจะไม่ ถ้าเราสละเวลาให้กับมันสักนิด และถ้าได้ค้นพบว่ามีวิธีง่ายๆ ที่ไม่ต้องไปไหนไกล ไม่ต้องเตรียมตัวมากก็ทำได้
เริ่มต้นจาก เปลี่ยนพื้นหลังหน้าจอคอมฯ
แค่เปลี่ยนหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นรูปวิวธรรมชาติ สัตว์น่ารักๆ ก็มีส่วนช่วยลดความเครียดในสมองได้แล้ว จากงานวิจัย พบว่า มนุษย์จะรู้สึกถูกดึงดูดและรู้สึกฟื้นฟู เมื่อมองไปที่ภาพของธรรมชาติ โดยเฉพาะทุ่งหญ้าสะวันน่า รวมถึงภาพน้ำไหลเอื่อย รูปใบไม้ นก และรูปสัตว์น่ารักๆ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการวิวัฒนาการของมนุษย์ ที่สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติดึงปฏิกิริยาบวกทางอารมณ์ เพราะการสังเกตธรรมชาติเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเอาตัวรอดของมนุษย์
รู้อย่างนี้แล้ว อยากให้ธรรมชาติเยียวยา ก็ลองเปลี่ยน wallpaper desktop ของเราดู
ปิดคอม วางมือถือลง แล้วออกไปสวนสาธารณะ
การออกไปข้างนอก ไปเดินในสวน เป็นการออกไปสัมผัสกับธรรมชาติเบื้องต้นที่ต้นทุนต่ำที่สุดแล้ว ถ้าสวนสาธารณะอยู่ไกลบ้าน หรือถ้าแถวบ้านไม่มีเลย ลองหาพื้นที่สีเขียวใกล้บ้านไว้เป็นจุดผ่อนคลายก็ยังได้
พร้อมแล้ว ออกจากบ้าน ทิ้งโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋า และไม่ต้องหยิบออกมา แล้วออกไปพักกาย พักใจ สัมผัสธรรมชาติกัน
ไปทำอะไรในสวน?
ไม่ยาก เป็นกิจกรรมที่เน้นการอยู่กับตัวเอง ซึมซับธรรมชาติ
อย่างเช่น เมื่อไปถึงสวนสาธารณะใกล้บ้าน หาจุดที่เราพอใจ ผ่อนคลายจิตใจ และนั่งนิ่งๆ อย่างน้อย 20 นาที สัปดาห์ละครั้ง นั่งที่เดิมในทุกครั้ง ในจุดที่เราสัมผัสได้ว่าเป็นของเรา เป็นส่วนหนึ่ง จะด้วยเซนส์หรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วคุณจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของมันในท้ายที่สุด
หรือจะใช้เวลา 10 นาที ลองเดินไปในพื้นที่ที่ชอบ เดินช้าๆ ก้าวเบาๆ อย่าง fox walk ก็ได้ และคุณจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่าง เมื่อตัวคุณเล็กลง ช้าลง และคุณจะสังเกตถึงสิ่งรอบข้างในดีขึ้น หรือเผลอๆ ความคิดมุมมองบางอย่างก็คุณก็อาจจะเปลี่ยนไป และเกิดไอเดียใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้
ดิน หิน ใบไม้ใบหญ้า สัมผัสครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?
ถ้าการเดินหรือนั่งนิ่งๆ ยังไม่ช่วย ลองหยิบดินร่วนชื้นๆ ขึ้นมาในอุ้งมือ ถือไว้สัก 20 นาที แบคทีเรียในดินจะออกฤทธิ์ทำให้อารมณ์แจ่มใสขึ้น มีงานวิจัยออกมาแล้วว่า แบคทีเรียในดิน ที่เรียกว่า Mycobacterium vaccae ช่วยเพิ่มสารเซโรโทนิน (สารสื่อประสาทที่มีส่วนสำคัญในการควบคุมอารมณ์ความรู้สึก หากร่างกายมีเซโรโทนินสูง ก็จะรู้สึกแฮปปี้) ในสมองของหนู ซึงมีคุณสมบัติเช่นเดียวกันกับยาเพิ่มสารเซโรโทนิน ดินจึงมีคุณสมบัติในการเยียวยาและช่วยในการป้องกันอาการซึมเศร้า
ถ้าไปเป็นคู่ ก็ลองจับมือกัน ฝ่ายหนึ่งหลับตา อีกฝ่ายลืมตา จับมือคนที่หลับตา พาเดินเข้าไปในสวนด้วยกันอย่างช้าๆ ไปสัมผัสสิ่งแวดล้อมในสวน ฟังและรู้สึกถึงธรรมชาติที่เคลื่อนไปรอบด้าน พาไปจับก้อนหินลักษณะต่างๆ ยกขึ้นลง กะน้ำหนัก และสัมผัสถึงเนื้อหิน
หยิบใบไม้แห้งขึ้นมา ให้เพื่อนกำ ฟังเสียงสัมผัสกรอบแกรบของใบไม้ ฟังและรู้สึกไปกับมัน
เท่านี้ ก็ได้ผ่อนคลายจิตใจแล้ว ขอแค่ให้เวลาสักนิด ออกไปสวนสาธารณะอย่างน้อย 20 นาทีต่อสัปดาห์ และทำอย่างสม่ำเสมอ แค่นี้ก็ได้พักใจ ฟื้นฟู ออกจากตัวเอง เชื่อมโยงกับธรรมชาติมากขึ้น ทั้งยังมีส่วนช่วยลดความเครียดและความกังวล โดยไม่ต้องไปไหนไกลเลย
แหล่งข้อมูล
https://www.theatlantic.com/magazine/archive/2015/10/the
https://www.nicetofit.com/ธรรมชาติบำบัด/
https://mindfulecotherapy.org/wp-content/uploads/2017/10/FIVE-EXPERIENTIAL-ECOTHERAPY-EXERCISES.pdf
บทความโดย : #ทีมParkใจ วรรณิดา อาทิตยพงศ์
.
มาร่วมกับเป็นส่วนหนึ่งในการสานสัมพันธ์กับธรรมชาติด้วยกันใน
เฟซบุ๊กกรุ๊ป Park ใจ > https://www.facebook.com/groups/765076470517412/
.
ชวน Park ใจ โดย นิตยสารสารคดี นายรอบรู้ นักเดินทาง
สนับสนุนโดย เพจความสุขประเทศไทย และ ธนาคารจิตอาสา