ณ ดอย
เรื่องเล่าคัดสรรโดยเหล่าคนภูเขาตัวเล็ก-ฝันใหญ่ที่จะมาทำให้ใครๆ ตกหลุมรักบ้านนอก


เรื่อง : พญ. ศรัณยา ศรีวราสาสน์
ภาพ : พญ. ศรัณยา ศรีวราสาสน์ และอานุภาพ วรหาญ

เมษายน ๒๕๖๒ กาญจนบุรีอุณหภูมิสูง ๔๓ องศาเซลเซียส

แต่อุณหภูมิภายในหัวใจของชาวชุมชนทองผาภูมิกลับเย็นชื่น

วินิจฉัยว่าน่าจะเกิดจากความสุขที่ได้ร่วมกิจกรรมวิ่งปาดเหงื่อใน “โครงการล้านก้าวปีที่ ๒” ของ “ครูณัฐ” (ณัฐวัฒน์ โรจน์สุธี) ครูสอนวิชาศิลปะประจำโรงเรียนโยธินบูรณะ

ก้าวแรก…เริ่มจากเขาเคยมาออกค่ายอาสาที่เทือกเขาตะนาวศรีแถบนี้

เห็นถึงความยากลำบากของคนไข้เมื่อต้องเดินทางมาโรงพยาบาลทองผาภูมิ ยังไม่รวมกรณีจำเป็นที่ผู้ป่วยต้องได้รับการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลประจำจังหวัดซึ่งอยู่ห่างจากชุมชนไปอีกเกือบ ๒๐๐ กิโลเมตร ส่งผลบางอย่างต่อหัวใจครูหนุ่มให้ริเริ่มทำอะไรบางอย่างเพื่อชาวบ้านทองผาภูมิ

ปีที่แล้วสังคมไทยเกิดกระแสผู้คนตื่นตัวกับการวิ่ง จึงเกิดเป็นก้าวต่อมาให้ครูณัฐออกวิ่งจากทองผาภูมิไปกรุงเทพฯ หมุดหมายเพื่อขอระดมทุนจากชาวบ้าน

ระหว่างเส้นทางนำไปซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลทองผาภูมิและโรงพยาบาลสังขละบุรีในจังหวัดกาญจนบุรี และนั่นทำให้โรงพยาบาลทองผาภูมิได้ต้อนรับ “อุปกรณ์ล้างไต” เครื่องแรก

วันนี้คนไข้ไตวายเรื้อรังไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลเพื่อไปฟอกไตแล้ว

ปีนี้ครูจึงสานต่อจุดประสงค์การวิ่งอีก เริ่มจากโรงเรียนโยธินบูรณะในกรุงเทพฯ กลับสู่อ้อมกอดแห่งขุนเขาทองผาภูมิ ฉันรับรู้พร้อมชาวบ้านว่าครูมาถึงตำบลลิ่นถิ่นซึ่งเป็นเขตพื้นที่แรกของอำเภอทองผาภูมิในวันที่แปดของการวิ่ง และเช้าตรู่ในวันต่อมาจะมีกิจกรรมให้ชาวชุมชนได้มีส่วนร่วมในการวิ่งระดมทุน

แม้จะเหนื่อยล้าจากการอยู่เวรและไม่เคยสัมผัสบรรยากาศงานวิ่งมาก่อน แต่ในเช้าตรู่ของวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๒ ก็ตัดสินใจมารวมตัวกับชาวบ้านนับร้อยชีวิตที่ปั๊มน้ำมันริมถนนใหญ่เพื่อร่วมวิ่งในระยะสุดท้ายก่อนเข้าสู่เขตรั้วโรงพยาบาลทองผาภูมิ

เนินแรกก่อนโค้งสู่สะพานข้ามแม่น้ำแควน้อย ยังไม่มีใครยอมหยุดวิ่ง

กระทั่งเห็นนักวิ่งแถวหน้าส่งสัญญาณมือให้คนข้างหลังชะลอฝีเท้าลง

ภาพที่อยู่ข้างหน้าคือชาวบ้านมาดักรอบริจาคเงิน และเป็นเช่นนั้นอีกหลายครั้งตามรายทาง ครั้นตีโค้งเข้าสู่ซุ้มประตูของอำเภอทองผาภูมิ เห็นชาวตลาดทองผาภูมิยืนรอต้อนรับคณะวิ่งอย่างเนืองแน่น มีน้ำดื่มแจกจ่ายเป็นน้ำใจจากชาวตลาด มีเสียงโห่ร้องให้กำลังใจดังขึ้นเป็นระยะชวนให้รู้สึกคึกคักฮึกเหิม บางคนขอถ่าย
รูปกับขบวนวิ่งก็มี สามเณรน้อยที่กำลังบวชภาคฤดูร้อนยืนรับบิณฑบาตอยู่ยังส่งยิ้มมาให้

เมื่อหัวขบวนเลี้ยวเข้าตลาดสดทองผาภูมิก็มีมัดขนม ข้าวต้มมัด ยื่นให้คณะวิ่งไม่ขาดสาย

ทันเห็นคุณป้าแม่ค้าสวมเสื้อลายดอกสีชมพูยืนจดๆ จ้องๆ คล้ายรอจังหวะเหมาะสม ก่อนควักธนบัตร ๑๐๐ บาท ส่งให้สาวนักวิ่งข้างหน้าฉัน

“ทำไมไม่ให้กับมือครูณัฐเองล่ะ”

เธอรับเงินมาทั้งสงสัย ขณะที่เจ้าของเงินกลับไม่กังวลกับการให้

“ไม่เอาหรอก ไม่อยากให้ครูต้องคอยหยุดวิ่ง ฝากให้ครูด้วยนะ”

ลึกซึ้งกว่าเรื่องน้ำใจของชาวบ้าน คือสำนึกที่พวกเขามีต่อโรงพยาบาลของชุมชน การบริจาคจึงไม่ได้สำคัญว่าให้แล้วต้องได้อะไรเดี๋ยวนั้น อย่างไรชาวบ้านก็ได้มีส่วนร่วมในสาธารณะประโยชน์ระยะยาว

ไม่ถึงชั่วโมงขบวนวิ่งก็ลอดสู่ซุ้มประตูโรงพยาบาลทองผาภูมิ

ล้านก้าวของครูณัฐและทีมผู้นำแถวหน้าตลอดระยะทางกว่า ๔๐๐ กิโลเมตร เมื่อรวมกับก้าวเล็กๆ ของนักวิ่งสมัครเล่นในชุมชน และกลุ่มเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ข้างหลังขบวนอย่างฉันก็เกิดเป็นยอดเงินบริจาคเกินคาดหมาย ยังไม่แน่ว่าครั้งนี้จะได้แปรเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ใด

อาจเป็น “เครื่องตรวจจอประสาทตา” ให้ชาวชุมชนในหุบเขาห่างไกลเมืองได้มีโอกาสตรวจหาความผิดปรกติเพื่อให้แพทย์ช่วยวางแผนการรักษาต่อ จะได้มีดวงตาไว้มองเห็นสิ่งต่างๆ ชัดเจน

วันหนึ่งภาพงานวิ่งอาจจะเลือนลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่น้ำใจของกลุ่มคนธรรมดาที่เสียสละทำประโยชน์เพื่อคนต่างถิ่นที่ไม่เคยรู้จักกัน จะยังตราตรึงอยู่ในหัวใจชาวภูเขาแห่งนี้


แพทย์หญิงศรัณยา ศรีวราสาสน์
หลังจบการศึกษาจากแพทยศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับสอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากสวมเสื้อกาวน์ประกอบอาชีพที่รักในโรงพยาบาลทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ยังสนุกกับการเขียนหนังสือ เคยมีผลงาน “โอ้วเอ๋ว…อดีต ปัจจุบัน อนาคต” เผยแพร่กับนิตยสาร สารคดี เมื่อปี ๒๕๕๙ และบทความ “เสียงเพรียกแห่งพงไพร” เคยได้รับรางวัลกำลังใจ จากแพทยสภา ในปี ๒๕๖๑

…….

สุชาดา ลิมป์
นักเขียนกองบรรณาธิการนิตยสาร สารคดี ผู้เสพติดการเดินทางพอกับหลงใหลธรรมชาติ-วิถีชาติพันธุ์ ทดลองขยับเป็นบรรณาธิการปรุงฝันให้ทุกอาชีพในชนบทได้แปลงประสบการณ์หลากรสออกมาเป็นงานเขียน