เรื่องและภาพ : ณัฐพล ศิลปชัย
เกาะโอลคอนคือเกาะโดดเดี่ยวขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในทะเลสาบไบคาล การเดินทางขนส่งสู่เกาะแห่งนี้จึงอาศัยเรือเป็นพาหนะหลัก แต่เมื่อย่างเข้าปลายเดือนพฤศจิกายน ความหนาวเย็นจะเข้าปกคลุมไซบีเรียจนอาจติดลบถึง ๔๐ องศาเซลเซียส ทะเลสาบไบคาลจะกลายเป็นน้ำแข็งที่มีความหนาขนาด ๑-๒ เมตร ซึ่งรถยนต์แล่นข้ามได้สบาย ๆ ส่วนท่าเรือจะถูกปิดชั่วคราวรอวันที่น้ำแข็งละลายจึงเปิดให้บริการอีกครั้ง
ผมเดินทางมาเยือนเกาะโอลคอนช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะของเรานั่งรถยนต์จากเมือง Irkutsk ไปยังเกาะโอลคอน ระยะทางกว่า ๓๐๐ กิโลเมตร ช่วงที่รถต้องข้ามทะเลสาบน้ำแข็งเป็นจังหวะที่น่าตื่นเต้นมาก เพราะนี่เป็นการเดินทางข้ามทะเลสาบน้ำแข็งและกลางอุณหภูมิที่ต่ำกว่า ๐ องศาครั้งแรกในชีวิตของผม
สิ่งแรกที่สัมผัสได้เมื่อรถแล่นเข้าสู่หมู่บ้าน Khuzhir ซึ่งเปรียบเสมือนเมืองหลวงของเกาะโอลคอนคือความเงียบ ถนนทุกสายแทบไร้ผู้คน มีรถสวนมาบ้างเป็นบางครั้ง เนื่องจากความโหดร้ายของฤดูหนาวผู้คนส่วนใหญ่จึงอยู่แต่ในบ้าน จะออกมาจับจ่ายซื้อของเมื่อจำเป็นเท่านั้น
ในฤดูอื่นที่ไม่ใช่ฤดูหนาว ชาวบ้านที่นี่มีอาชีพประมง เพราะความสมบูรณ์ของทะเลสาบไบคาลทำให้มีปลาและสัตว์น้ำมากมาย ในอดีตอุตสาหกรรมปลาที่นี่รุ่งเรืองอย่างมากจนมีโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์จากปลา แต่การทำประมงหนักหน่วงจนปริมาณปลาลดลงอย่างน่าใจหาย ทำให้รัฐบาลรัสเซียสั่งหยุดอุตสาหกรรมปลาในทะเลสาบไบคาล เหลือไว้แค่ประมงพื้นบ้าน เพื่อให้ปลาได้เติบโตและอนุรักษ์พันธุ์ปลาท้องถิ่นซึ่งจะพบได้ที่ทะเลสาบไบคาลแห่งเดียวในโลก
หลังจากโรงงานปลาปิดตัว อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับเป็นที่นิยมมากขึ้น ผู้คนหันมาทำธุรกิจท่องเที่ยวกันอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นทัวร์นำเที่ยวรอบเกาะหรือโฮมสเตย์
หากถามถึงทะเลสาบที่ลึกที่สุดในโลก หลายคนคงรู้จักทะเลสาบไบคาล (Baikal) ทะเลสาบเก่าแก่อายุร่วม ๒๕ ล้านปี ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย โดยจุดลึกที่สุดมีความลึกถึง ๑,๖๔๐ เมตร แต่ถ้าถามถึงเกาะโอลคอน (OlkhonIsland) หลายคนคงไม่รู้จัก
ฤดูหนาวบนเกาะแห่งนี้ซึ่งน่าจะเรียกว่าฤดูน้ำแข็งด้วยซ้ำเพราะมันช่างเยียบเย็นเกินคำว่าหนาวจริง ๆ ทุกแห่งจะขาวโพลนเต็ม
ไปด้วยหิมะ จากใจกลางหมู่บ้านถ้ามองไปทางทิศเหนือจะเห็นวิวหมู่บ้านมีฉากหลังเป็นทะเลสาบน้ำแข็งและทิวเขายาวเหยียด
ส่วนด้านทิศใต้เป็นแนวของป่าสนไทกา
บ้านเกือบทุกหลังทำจากไม้สนซึ่งเราจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นไม้สนหอมอบอวลในบ้าน ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย ขัดกับหน้าตาของชาวรัสเซียที่ดูบึ้งตึงอยู่เสมอ แม้ว่าภาพลักษณ์คนรัสเซียจะเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อถึงงานเทศกาลผู้คนที่นี่จะแต่งตัวด้วยชุดเสื้อผ้าท้องถิ่นสีสดใสดูแปลกตา ยิ้มแย้มแจ่มใสดูร่าเริงผิดกับช่วงเวลาอื่นมาก
นอกจากกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นสกีน้ำแข็งของเจ้าถิ่น ขับรถเล่น ปั่นจักรยาน หรือแม้แต่นั่งเลื่อนลากด้วยสุนัข นักเดินทางส่วนใหญ่ยังนิยมซื้อทัวร์เพื่อไปดูภูมิทัศน์ต่าง ๆ บนเกาะซึ่งจะเผยความงามในช่วงที่หนาวที่สุดของปี ตามโขดหินจะเต็มไปด้วยแท่งน้ำแข็งที่สวยงามดูเหมือนหินย้อย จะเรียกว่าน้ำแข็งย้อยก็คงไม่ผิดนัก มันเกิดขึ้นในโพรงหินที่มีอยู่ทั่วเกาะคล้ายกับถ้ำ เราจึงเรียกโพรงที่มีน้ำแข็งย้อยว่าถ้ำน้ำแข็งไปด้วย
รอบเกาะยังมีสิ่งสวยงามที่เกิดจากพลังของธรรมชาติคือทุ่งน้ำแข็ง ลักษณะเป็นแผ่นน้ำแข็งแตก ๆ หัก ๆ เรียงตัวกันระเกะระกะ เกิดจากแรงลมที่ปะทะกับแผ่นน้ำแข็งอันราบเรียบของทะเลสาบ ใครเดินผ่านทุ่งน้ำแข็งแบบไม่ระวังมีโอกาสเลือดตกยางออกได้แน่ ๆ
ภูมิทัศน์ต่าง ๆ นี้จะดำรงอยู่ในช่วงกลางเดือนมกราคมถึงต้นเดือนเมษายนเท่านั้น พอล่วงเข้าต้นเดือนเมษายนน้ำแข็งจะเริ่มละลาย ความงามของน้ำแข็งฤดูหนาวจะถูกแทนที่ด้วยแสงแดดอันอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิ และการสัญจรระหว่างเกาะกับแผ่นดินใหญ่จะเปลี่ยนจากรถยนต์มาเป็นเรือข้ามฟาก
เมื่อน้ำแข็งก้อนสุดท้ายละลายหายไปจากกลางทะเลสาบ ถนนในหมู่บ้านจะกลับมาคึกคักด้วยผู้คน ฤดูหนาวโบกมือลาเกาะโอลคอนโดยให้สัญญาว่าอีก ๘ เดือนข้างหน้าจะกลับมาสร้างเสน่ห์แสนพิเศษให้กับที่นี่อีกครั้ง