เรื่องและภาพ : สุริยะ มงคลละ

นกกระติ๊ดตะโพกขาวลอยตัวกลางอากาศตรวจสอบความเรียบร้อยของรัง ก่อนจะบินเข้าจัดแจงตกแต่งรังรักให้เสร็จทันรองรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวในเร็ววัน

ใบไม้ ใบหญ้า ฟางเส้นแล้วเส้นเล่า ถูกถักทอสานเป็นรังรักของสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ไม่นานบ้านหลังน้อยก็เสร็จสิ้นซึ่งนับจากนี้จะเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวเหล่าชีวิตติดปีก  สายตาอันเป็นประกายหันมองสบกันก่อนวิหคน้อยสัญลักษณ์แห่งอิสรภาพนามว่ากระติ๊ดตะโพกขาวจะโบยบินสู่โลกกว้างชีวิตสรรพสัตว์น้อยใหญ่บนโลกนี้ต่างมีหน้าที่ที่ธรรมชาติมอบให้  ทุกชีวิตมีความสำคัญมีความรู้สึก เฉกเช่นมนุษย์เราที่มีความต้องการ มีความรู้สึกโกรธ โลภ หลง อิ่ม หิว เสียใจ และมีความรัก  ส่ำสัตว์อาจไม่มีระบบความคิดซับซ้อนเท่ามนุษย์ แต่ที่แน่ ๆ คือ มันมีความรัก ความห่วงหาอาทรพวกพ้องและครอบครัวไม่ต่างจากมนุษย์…

นกกระติ๊ดตะโพกขาวก็ทำหน้าที่ของมัน หนึ่งในนั้นคือดำรงเผ่าพันธุ์ตามสัญชาตญาณสัตว์ป่าที่ถ่ายทอดพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่น ดิ้นรนต่อสู้เอาชีวิตรอดในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปทุกขณะ

ความรัก

เจ้านกน้อยกำลังมีความรัก… ร้องเรียกหากันด้วยการเปล่งเสียงเป็นรหัสซึ่งอาจแปลได้ว่า “เธอหิวหรือยัง วันนี้เราจะบินไปเที่ยวที่ไหนดี” “บ้านของเราใกล้เสร็จแล้วนะ เราจะสร้างครอบครัวด้วยกัน ช่วยกันเลี้ยงลูกของเราให้เป็นปักษาที่สง่างามและแข็งแรง…” (แต่แท้จริงยังไม่มีใครสามารถแปลได้ว่านกเหล่านี้สื่อสารกันเรื่องอะไร  สิ่งที่แน่นอนคือพวกมันกำลังมีความรักและต้องการจะสร้างครอบครัวสืบทอดเผ่าพันธุ์)

ผมเฝ้าติดตามตามติดชีวิตของเจ้าวิหคน้อยอย่างสนใจใคร่รู้ ได้เห็นการเจริญเติบโตและการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว  แม่และพ่อนกกระติ๊ดตะโพกขาวช่วยกันดูแลลูกนกกระติ๊ดตะโพกขาวจากรังอื่นอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจแม้ไม่ใช่ลูกของตัวเอง แบ่งปันสายใยแห่งรักแก่กันและกันในพวกพ้องอย่างน่าชื่นชม…


นกกระติ๊ดเป็นสัตว์สังคม หากินร่วมกัน  บางครั้งพ่อและแม่นกยังทำหน้าที่ดูแลลูกนกกระติ๊ดตะโพกขาวจากรังอื่นทั้งที่ไม่ใช่ลูกของตัวเอง แบ่งปันช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างน่าเอ็นดู

๑๙ กุมภาพันธ์ เริ่มต้นบ้านหลังใหม่

นกคู่นี้ตกลงปลงใจอยู่ด้วยกัน ดูแล ทะนุถนอม ช่วยกันเติมเต็มรังรักหลังน้อย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอีกไม่กี่วันข้างหน้าซึ่งจะมีสมาชิกใหม่ในครอบครัว…

การบินไปและกลับแต่ละครั้งทั้งสองตัวจะคาบเศษใบไม้เศษหญ้ามาถักทอร้อยเรียงเส้นต่อเส้นจนเป็นบ้านอันสวยงาม ซึ่งจะเป็นที่อยู่อาศัยและฟูมฟักลูกน้อยที่ใกล้จะลืมตาดูโลกใบนี้…


บ้านใหม่ที่สร้างขึ้นอย่างประณีตด้วยความมานะอดทน  สายตามุ่งมั่นของเจ้ากระติ๊ดตะโพกขาวมองสบกัน ก่อนจะออกบินหาเส้นฟางมาต่อเติมรังรักให้สมบูรณ์

๒๒ กุมภาพันธ์ ตกสู่โลก

เสียงฟ้าร้องและพายุฝนกระหน่ำทำให้พ่อนกและแม่นกในรังนอนเบียดแนบชิดกว่าทุกที  ฟ้าคำรามอีกครั้ง แม่นกขยับตัวเพราะตกใจ เผยให้เห็นสิ่งที่ต้องดูแลอย่างสุดชีวิตไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม  สิ่งนั้นมีสีขาวนวลสะอาดตา–ไข่ใบแรก…นี่คือเหตุผลว่าทำไมวันนี้พ่อนกและแม่นกจึงเบียดกันยิ่งกว่าทุกครั้ง เป็นวันแรกที่แม่นกตกฟอง  ด้วยเกิดเดือนแห่งความรักในวันที่มีพายุ ทั้งพ่อแม่ก็ดูแลให้ความอบอุ่นเพื่อต่อสู้กับสายฝนที่เทลงมาไม่ขาดสายพร้อมเสียงฟ้าคำรามครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อเจ้านกน้อย (ที่ผมแอบตั้งชื่อให้) นามว่าพายุ…

วันต่อ ๆ มามีเรื่องน่ายินดีเนื่องจากแม่นกไข่ออกมาอีกสามฟอง รวมเป็นสี่ฟอง  แต่ละวันพ่อนกและแม่นกต่างดูแลไข่ใบงามอย่างทะนุถนอม  บางช่วงตัวหนึ่งออกไปหาอาหาร อีกตัวจะทำหน้าที่กกไข่ ให้ความอบอุ่น ดูแลฟูมฟักอย่างใส่ใจห่วงใย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทุกวัน กระทั่งถึงเวลาอันสมควรที่เจ้านกน้อยพร้อมจะกะเทาะเปลือกไข่ออกมาสู่โลกภายนอก


“พายุ” เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ร้องขออาหารจากพ่อและแม่นกที่ออกไปทำหน้าที่อย่างขันแข็งเพื่อเลี้ยงดูลูกให้เติบใหญ่เป็นวิหคสง่างาม

มีนาคม นับวันรอจะโบยบิน

เจ้าตัวน้อยพร้อมจะผจญภัยในโลกกว้าง “พายุ” จากไข่ใบแรกกะเทาะเปลือกออกมา นับแต่วินาทีนี้พ่อและแม่ของมันต้องทำหน้าที่หนักขึ้นเพื่อหาอาหารมาเลี้ยงดูลูกรักให้เติบใหญ่  วันแล้ววันเล่าเสียงเจ้าพายุร้อง…ขออาหารอย่างต่อเนื่อง พ่อและแม่สลับสับเปลี่ยนกันไปหาอาหาร เวลาผ่านไปเจ้าพายุค่อย ๆ เติบโต ขนอันอ่อนนุ่มเติมเต็มบนร่างกายมากขึ้นทุกที  จากวันแรกจนถึงวันนี้พายุโตขึ้นมาก เริ่มขยับปีกอยู่ในรัง ดิ้นไปดิ้นมาเหมือนเด็กน้อยออกอาการซุกซน…กระหายจะทะยานสู่โลกกว้าง…

ด้วยความมานะเลี้ยงดูอย่างเอาใจใส่ของพ่อและแม่ เจ้าพายุเติบโตขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์  ทว่าเป็นที่น่าเสียใจที่ไข่อีกสามฟองไม่ฟัก นั่นหมายความว่าเจ้าพายุเป็นลูกโทนทันที  ไม่นานนักเจ้าพายุก็พร้อมโบยบินสู่โลกกว้าง ชะโงกตัวมาเกาะที่ปากรัง  เสียงพ่อและแม่ร้องเรียกให้ลูกรักออกจากรังเพื่อโผบิน ครั้งนี้ดูท่าพร้อมกว่าทุกทีด้วยสายตามุ่งมั่น  ทันทีที่พร้อมเจ้าพายุก็ขยับปีกและบินกลางอากาศ เป็นการสยายปีกเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังไม่ชำนาญนัก ต้องหยุดพักเกาะบนต้นไม้ใกล้ ๆ รัง  แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ อย่างน้อยเจ้าพายุก็มีพัฒนาการอีกขั้น  มันยังต้องเรียนรู้อีกมาก ประสบการณ์จะสอนให้เติบโตอย่างเข้มแข็งเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์สืบต่อไป  ชีวิตเล็ก ๆ หนึ่งชีวิตที่รอดมาได้ในหมู่พี่น้องสี่ใบนั้นนับว่าแข็งแกร่งมาก  ในโลกกลม ๆ อันแสนวุ่นวายมีเรื่องราวมากมายให้ “พายุ” นกน้อยหัวใจใหญ่ ได้เรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด…

“พายุ” กินอาหารที่พ่อและแม่สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันนำมาเลี้ยงดู  เพียงไม่กี่สัปดาห์มันก็โตขึ้นมาก จากลูกนกน้อยตัวแดง ตอนนี้ขนอ่อนนุ่มค่อยๆ ขึ้นปกคลุมร่างกาย รอวันพร้อมจะโบยบินสู่โลกกว้าง

หลังลูกน้อยกินอิ่มนอนหลับอยู่ในรัง พ่อและแม่นกจะดูแลซึ่งกันและกันโดยผลัดกันทำความสะอาดตกแต่งขนก่อนเข้ารัง

พายุยังไม่ชำนาญการขยับปีกบินนัก ต้องหยุดพักเกาะกิ่งไม้ข้างๆ รัง ก่อนจะสยายปีกอีกครั้งด้วยสายตามุ่งมั่น พร้อมโบยบิน