เรื่อง วีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง / ภาพ เพจเสน่ห์น่านวันนี้

สถานีขนส่งน่านเปลี่ยวร้าง วันสงกรานต์ในปีที่โลกมีโควิด-๑๙

ภูมิบ้าน – ผู้นำ

ทั่วฟ้าเมืองไทยในตอนนี้มีไม่กี่จังหวัดที่ปลอดโควิด-๑๙ น่านเป็นหนึ่งในนั้น และเป็นจังหวัดเดียวในภาคเหนือตอนบนที่ยังมีตัวเลขผู้ป่วยเป็นศูนย์

เมืองน่านดูแลตัวเองกันมาอย่างไรจึงยังปลอดจากการกล้ำกรายของโควิด-๑๙

พิมลพรรณ สกิดรัมย์ ผู้จัดการมูลนิธิฮักเมืองน่าน และเป็นทีมวิชาการน่านฟอรั่ม พูดถึงบ้านเมืองของตัวเองว่า นอกจากปัจจัยด้านที่ตั้งของน่านที่เป็นเมืองชายแดน และไม่ใช่เมืองผ่านทางเหมือนจังหวัดอื่นๆ แล้ว ต้องยอมรับว่าการตื่นตัวและตื่นรู้ของคนน่านและคนที่อาศัยอยู่ในน่านมีสูงมาก

อีกทั้งความร่วมมือของคนในชุมชนตั้งแต่ผู้นำ อสม. ลูกบ้าน ยังให้ความร่วมมือในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ กันอย่างหนักแน่น

มีการริเริ่มของคนและกลุ่มคนที่ช่วยกันทำหน้ากากทั้งแบบผ้าและแบบแผ่นใสแบ่งปันให้สถานบริการสาธารณสุขต่างๆ

บวกกับการตัดสินใจที่เด็ดขาดของผู้นำท้องถิ่นในจังหวัดน่าน ที่เห็นได้ชัดเจนคือมาตรการของนายกเทศบาลเมืองน่าน นายสุรพล เธียรสูตร ที่มีตั้งแต่บ้านเรือน ชุมชน ตลาดในเขตเทศบาล การสั่งซื้อแอลกอฮอล์เพื่อแจกจ่ายให้ครัวเรือนในเขตเทศบาล โดยไม่ต้องรอจากรัฐส่วนกลาง

ถนนใจกลางเมืองน่าน ในห้วงยามปิดเมืองต้านโควิด

ท้องถิ่นจริงจัง

ระดับท้องถิ่น นายก อบต. บางแห่งใช้ข้อมูลเพื่อการติดตามและเฝ้าระวัง อย่างนายก อบต. เมืองจัง นายสำรวย ผัดผล ใช้ข้อมูลและสื่อสารในรูปแบบ one page ที่เข้าใจง่าย

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่านให้ทั้งความรู้และติดตามสถานการณ์ อย่างกรณีที่อำเภอเวียงสา มีการประสานงานกับ สสจ. พิษณุโลก เพื่อติดตามเส้นทางการเดินทางและปฏิสัมพันธ์ของคนที่ติดเชื้อไวรัส ทำให้จำกัดวงของการแพร่ระบาดได้

ผู้ว่าฯ ตั้งคณะทำงานโควิดและมีการประชุม สรุปสถานการณ์และสื่อสารกับพี่น้องในน่านอย่างต่อเนื่อง รณรงค์ #SAVENAN ยังไม่กลับน่าน

“ถ้าเป็นแล้วเอามาติดคนในครอบครัวนี่ชีวิตที่เหลือไม่รู้จะเป็นยังไง

ปิดน่านต้านโควิด

น่านปิดจังหวัดมาตั้ง ๕ เมษายน ๒๕๖๓

ปิดทางเข้ารอยต่อเขตจังหวัดทุกด้าน รวมทั้งระงับการใช้บางเส้นทางเป็นการชั่วคราว อย่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘๓ สายเด่นชาติ-นาน้อย ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒๑๖ สายขุนสถาน-บ้านส้าน ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒๔๓ สายห้วยไผ่-หาดไร่

ในจังหวัดปิดโรงแรมที่พักทุกแห่งถึงสิ้นเดือนเมษายน หรือจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปรกติ

ผู้ที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดน่านทุกคนต้องกักตัวเองภายในที่พัก หรือสถานที่ที่ราชการจัดให้เป็นเวลา ๑๔ วัน

ห้ามข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ งดหรือเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด

กระทั่งประเพณีปี๋ใหม่เมืองในวันสงกรานต์ ก็มีการระงับทั้งหมดในปีนี้เพื่อนต้านโควิด-๑๙

“#SAVENAN ยังไม่กลับน่าน” ถ้อยคำที่ชาวบ้านสื่อสารถึงกันในยามนี้

 

 

 

 

 

 

นอกจากปัจจัยด้านที่ตั้งของน่าน การตื่นตัวและตื่นรู้ของคนน่านมีสูงมาก

เพื่อน่านที่รัก กักตัวอยู่บ้าน

ชุมชนนอกเขตเมือง ได้เห็นน้ำจิตน้ำใจ ความกระตือรือร้นของคนในหมู่บ้าน ใส่หน้ากากป้องกันตัวเอง เฝ้าระวังเวลามีคนกลับบ้านให้กักตัว ๑๔ วัน ตามมาตรการที่แจ้งมา อย่างที่หมู่บ้านหลับมืนพวน ตำบลตาลชุม อำเภอเวียงสา มีการเตรียมที่พัก เช่นโรงเรียน ไว้สำหรับคนที่กลับมาหมู่บ้านแต่ไม่มีที่กักตัว

ผู้นำให้ความสำคัญกับมาตรการ “รักษาบ้าน” ส่วนน้องที่หลับมืนไตย ในตำบลเดียวกันก็เล่าให้ฟังว่า เห็นแต่ละคนในชุมชนมีความรับผิดชอบในตัวเอง “รัก” คนในบ้านคนในครอบครัว ส่วนคนที่อยู่ชุมชนเขตเมือง มีความรับผิดชอบต่อสังคม ทำตามมาตรการป้องกัน บ้านไหนมีคนกลับมาหรือมาจากพื้นที่เสี่ยงก็มีการสื่อสารแจ้งผู้ใหญ่บ้าน/ผู้นำชุมชน โดยไม่ต้องรอให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือเจ้าหน้าที่เข้ามา ชาวบ้านและผู้นำช่วยกันจัดการเป็นเบื้องต้น

ลภัสรดา ยศฐา เป็นชาวเมืองน่านคนหนึ่ง ที่เดินทางเข้าออกช่วงคาบเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด

“ทำให้เรากลัวเป็นขี้ปากชาวบ้านด้วย ถ้ากลับมาแล้วไม่ระวังตัวเอง ไม่กักตัว ชาวบ้านเขานินทาว่าร้ายเอาได้ ยิ่งถ้าเป็นแล้วเอามาติดคนในครอบครัวนี่ชีวิตที่เหลือไม่รู้จะเป็นยังไง ต้องระวังต้องตื่นตัว ติดโรคอาจไม่เท่าติดเป็นขี้ปากชาวบ้านซึ่งนานกว่าจะหาย”

ความเป็นเมืองในหุบเขาห่างไกลนั้นเพียงปัจจัยทางกายภาพที่ช่วยเอื้ออำนวย แต่ปัจจัยที่ทำให้น่านต้านภัยโควิดได้อย่างสัมฤทธิผลยิ่งกว่า เห็นได้ว่าล้วนมาจากความทุ่มเทจริงจังของคนในน่าน ทั้งเจ้าหน้าที่ราชการและหน่วยงานภาคเอกชน รวมทั้งความร่วมมือของประชาชนในการป้องกันตนเองและบ้านเมืองของเขา