1
วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี ตรงกับวันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day) ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะระลึกถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ เพราะการดูแลสิ่งแวดล้อมคือการดูแลมนุษยชาติ และสุขภาพของเราแยกไม่ออกจากสุขภาพของสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าอาหารที่เรารับประทาน น้ำที่เราดื่ม อากาศที่เราหายใจ บรรยากาศของโลกที่เรามีชีวิตอยู่ล้วนสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
2
คำขวัญหรือสโลแกน (slogan) ประจำวันสิ่งแวดล้อมโลกปีนี้ คือ Time for Nature และมีหัวข้อรณรงค์หรือธีม (theme) คือ Biodiversity ชี้ให้เห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาสำหรับธรรมชาติ เพื่อเรียกร้องให้พลเมืองโลกหันมาตระหนักถึงอันตรายจากการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ให้ช่วยเร่งฟื้นฟูธรรมชาติที่เสื่อมโทรม หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์
โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP : United Nations Environment Programme) ประเมินว่ารอบทศวรรษที่ผ่านมา พืชและสัตว์ราวหนึ่งล้านชนิดอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ โดยมีสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์
3
วันสิ่งแวดล้อมโลกประจำปี พ.ศ.2563 มีประเทศโคลอมเบียซึ่งตั้งอยู่ในแถบละตินอเมริกาเป็นเจ้าภาพ โดยร่วมกับประเทศเยอรมนีในทวีปยุโรป
โคลอมเบียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดของโลก เฉพาะกล้วยไม้มีมากกว่า ๓,๕๐๐ สายพันธุ์ และมีนกมากถึงร้อยละ ๑๙ ของชนิดพันธุ์นกทั้งหมดในโลก รัฐบาลโคลอมเบียกำหนดให้การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นของประเทศ
4
ความหลากหลายทางชีวภาพ คือ ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตนับตั้งแต่พืชและสัตว์ไปจนถึงเชื้อราและแบคทีเรีย ประเมินว่าบนโลกใบนี้มีจำนวนสิ่งมีชีวิตมากกว่า ๘ ล้านชนิดพันธุ์ ขณะที่ระบบนิเวศที่ถือเป็น “บ้าน” ของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ มีตั้งแต่มหาสมุทร ป่าไม้ ภูเขา แนวปะการัง ฯลฯ ผลการศึกษาหลายชิ้นยืนยันว่าระบบนิเวศที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีของสิ่งมีชีวิตคือระบบนิเวศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง และเป็นพื้นฐานการดำรงอยู่ของมนุษย์
ระบบนิเวศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพเกื้อกูลชีวิตมนุษย์หลายทาง ทั้งช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ปรับปรุงคุณภาพน้ำให้สะอาด ผลิตเป็นอาหารและสารปรุงแต่งต่างๆ ที่นำมาบริโภค เป็นวัตถุดิบตั้งต้นของยารักษาโรค ระบบนิเวศที่มีความสมดุลยังช่วยลดทอนความรุนแรงของภัยพิบัติ
5
ความหลากหลายทางชีวภาพกำลังลดลงในทั่วทุกภูมิภาคของโลก สิ่งนี้บั่นทอนนิเวศบริการ (ecosystem services) หรือความช่วยเหลือจากธรรมชาติให้เรามีชีวิตได้อย่างปกติ แล้วความผิดปกติที่ว่านั้นคืออะไร ?
รอบปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์หลายอย่างบ่งชี้ว่าเรากำลังปล่อยให้ธรรมชาติถูกทำลายทั้งทางตรงและทางอ้อม นับตั้งแต่การเกิดไฟป่าครั้งใหญ่ในบราซิล สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย การรุกรานพืชผลทางการเกษตรและชุมชนเมืองของฝูงตั๊กแตนในแอฟริกา การสูญเสียแนวปะการังใต้ท้องสมุทร
แม้แต่การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-๑๙ ก็สันนิษฐานว่ามีที่มาจากการระบาดของเชื้อไวรัสจากสัตว์ป่ามาสู่คน นอกจากจะส่งสัญญาณว่ามนุษย์เข้าไปแทรกแซงการดำรงชีวิตของสัตว์ป่าผ่านการลักลอบค้าสัตว์ป่า การบุกรุกป่า ยังแสดงให้เห็นว่าสุขภาพของโลกเชื่อมโยงกับสุขภาพของเรา
รายงานล่าสุดของ Intergovernmental Science-Policy Platform on Biodiversity and Ecosystem Services (IPBES) ระบุว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศและสุขภาพ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและถิ่นอาศัยดั้งเดิมจะเพิ่มการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อและไวรัส ประเมินว่าการเจ็บป่วยประมาณ ๑ พันล้านกรณี และความตายนับล้านกรณีในปัจจุบันเกิดจาก zoonoses หรือโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน (เช่น โรคพิษสุนัขบ้าติดจากสุนัข กาฬโรคติดจากหนู แอนแทรกซ์ติดจากวัว) ประมาณร้อยละ ๖๐ ของโรคติดเชื้อในมนุษย์ทั้งหมดเป็น zoonoses และมีสัดส่วนถึงร้อยละ ๗๕ ของโรคติดเชื้อที่เกิดขึ้นใหม่
6
เศรษฐกิจโลกเชื่อมโยงกับความหลากหลายทางชีวภาพ นิเวศบริการที่เกิดจากความหลากหลายทางชีวภาพประเมินว่ามีมูลค่าสูงถึง ๑๒๕-๑๔๐ ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี มากกว่า ๑.๕ เท่าของขนาดจีดีพีทั่วโลก
หากเราคำนึงถึงอาหารที่เราบริโภค น้ำที่เราดื่มกิน อากาศที่เราสูดลมหายใจ สิ่งเหล่านี้ล้วนมาจากธรรมชาติและธรรมชาติรอบกาย
ขณะที่พลเมืองโลกกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นถึงหลัก ๑ หมื่นล้านคน เราจำเป็นต้องตระหนักถึงคุณค่าที่สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติมอบให้ และไม่ทำร้ายธรรมชาติ
นักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์ว่าถ้าเราไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราให้เอื้อต่อการก่อเกิดความหลากหลายทางชีวภาพ เราจะตกอยู่ในอันตรายจากไวรัส การระบาดของโรคต่างๆ มากขึ้น เพื่อป้องกันโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต เราต้องจัดการกับภัยคุกคามธรรมชาติหลายอย่างจากกิจกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น การบุกรุกป่า การค้าสัตว์ป่า การปล่อยมลภาวะ
7
ในสถานการณ์ที่โรคโควิด-๑๙ กำลังแพร่ระบาด ผู้คนทั้งโลกจะกำลังเผชิญความยากลำบาก การเวียนมาถึงของวันสิ่งแวดล้อมโลกทำให้เราฉุกคิดถึงระบบเศรษฐกิจที่ผ่านมา การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ในสถานการณ์ที่นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ บุคคลากรทางการแพทย์ กำลังระดมสรรพกำลังเพื่อก้าวข้ามโรคระบาดจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ภาวะเช่นนี้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภาวะโลกร้อน การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพยังเป็นสิ่งที่เราไม่อาจมองข้าม
ยังไม่สายเกินไปที่จะยับยั้งการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเราต้องเริ่มคิดถึงผลกระทบของพฤติกรรมเราต่อธรรมชาติรอบๆตัว แล้วเพิ่มความมุ่งมั่น และตระหนักถึงความรับผิดชอบที่จะปกป้องสิ่งแวดล้อม
ถึงเวลาแล้วที่เราต้องอนุรักษ์และฟื้นฟูสัตว์ป่า เพิ่มพื้นที่ป่า ลดระบบเกษตรกรรมและการบริโภคที่มีส่วนรุกรานป่าไม้ นอกจากนี้ยังต้องส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปรับระบบเศรษฐกิจให้คำนึงถึงความยั่งยืนร่วมกัน
8
นอกเหนือจากเหตุผลที่กล่าวมา วันสิ่งแวดล้อมโลกมีจุดหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้พลเมืองโลกเรียกร้องต่อรัฐบาลของตนดำเนินนโยบายที่คำนึงถึงการปกป้องธรรมชาติ หยุดสร้างมลพิษ และช่วยกันตรวจสอบให้แน่ใจว่ากฎหมายสิ่งแวดล้อมไม่ได้อยู่ในภาวะอ่อนระโหยโรงแรง
ภาคเอกชน บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องพัฒนาห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน ทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และการผลิตอื่นๆ จำเป็นต้องคำนึงถึงการผลิตที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
ประชาชน และภาคประชาสังคมควรศึกษาวิธีการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศที่เสื่อมโทรม
ผู้บริโภคควรคิดใหม่ในสิ่งที่พวกเขาซื้อ
เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เราต้องรวมกลุ่มกันเพื่อค้นหารูปแบบการดำเนินชีวิตที่ไม่เพียงแต่จะสอดคล้องกลมกลืนกับมนุษย์ด้วยกัน แต่รวมทั้งสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ
การตอบสนองของพลเมืองโลกต่อการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-๑๙ แสดงให้เห็นว่าเพื่อจัดการปัญหาเร่งด่วนที่คุกคามสังคมของเรา เรายังมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แนวทางฟื้นฟูเพื่อกลับไปเริ่มต้นการดำรงชีวิตอีกครั้งควรรับเรื่องสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นประเด็นหลัก เพราะคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเราคือคุณภาพชีวิต
วันสิ่งแวดล้อมโลกปีนี้ ได้เวลาทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างเรากับธรรมชาติ ได้เวลาที่จะทำให้ธรรมชาติเป็นหัวใจของการตัดสินใจทั้งหมดของเราแล้ว
เอกสารประกอบการเขียน :
- World Environment Day 2020 : a Practical Guide for individuals, faith groups, businesses, cities, governments, schools & universities, youth groups and civil society