จอห์น เลนนอน (John Winston Ono Lennon) นักร้อง นักดนตรี นักประพันธ์เพลง อดีตสมาชิกผู้ก่อตั้ง “เดอะ บีทเทิลส์” (The Beatles) เกิดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2483 เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ชื่อเดิมคือ จอห์น วินสตัน เลนนอน (John Winston Lennon) พ่อแม่ของเขาชอบเล่นเบนโจและร้องเพลง ทั้งคู่แยกทางกันตอนที่จอห์นอายุได้ 4 ขวบ ป้าและลุงจึงรับไปอุปการะเลี้ยงดูอย่างดี
จอห์นชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็ก ๆ ในที่สุดก็ได้เข้าเรียนที่วิทยาลัยศิลปะแห่งเมืองลิเวอร์พูล (Liverpool College of Art) แต่เรียนไม่ทันจบก็ออกไปเล่นดนตรี ตอนอายุ 17 ปีแม่ซื้อกีตาร์ตัวแรกให้เป็นของขวัญ แล้วเขาก็เริ่มเล่นกีตาร์อย่างจริงจังมาตั้งแต่นั้น ในปีเดียวกันนี้แม่ของเขาก็ถูกรถชนเสียชีวิต สร้างความเศร้าโศกให้จอห์นเป็นอย่างมาก
ในระหว่างนี้ จอห์นได้พบกับ พอล แม็คคาร์ทนีย์ (Paul McCartney) จึงชวนกันก่อตั้งวงดนตรีแนว “สกิฟเฟิล” (Skiffle—ดนตรีป็อปอังกฤษในทศวรรษที่ 50) ชื่อว่า “เดอะ ควอรีเมน” (The Quarrymen) จากนั้นพอลก็ชวน จอร์จ แฮริสัน (George Harrison) เข้ามาร่วมวง ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น “จอห์นนี แอนด์ เดอะ มูนด็อก” (Johnny And The Moondog) เมื่ออิทธิพลดนตรีร็อกแอนด์โรลมาถึงอังกฤษ จอห์นก็ชวนพอลและจอร์จแยกออกมาตั้งวง “เดอะ ซิลเวอร์ บีทเทิลส์” (The Silver Beetles) ก่อนจะตัดและเปลี่ยนตัว e ที่สองเป็น a กลายเป็น “เดอะ บีทเทิลส์” (The Beatles) โดยมีสมาชิกร่วมก่อตั้งคือจอห์นและพอลเล่นกีตาร์ริทึม จอร์จเล่นลีดกีตาร์ สจ๊วต ซัตคลิฟฟ์ (Stuart Sutcliffe) เล่นเบส และ พีท เบสต์ (Peat Best) ตีกลอง ตระเวนเล่นตามคลับ ผับ และเบียร์เฮาส์หลายแห่งในเมืองลิเวอร์พูล
จากนั้นก็ไปเล่นที่เมืองฮัมบูร์ก เยอรมนี โดยนำเพลงร็อกแอนด์โรลของอเมริกัน อย่าง ชัค เบอร์รี (Chuck Burry), ลิตเติล ริชาร์ด (Little Richard), บัดดี ฮอลลี (Buddy Holly) และ คาร์ล เพอร์กินส์ (Carl Perkins) เดอะ บีทเทิลส์เริ่มมีชื่อเสียงที่นั่น ก่อนที่จอร์จจะถูกจับข้อหาอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ทำงาน ทั้งหมดจึงต้องกลับมาเล่นที่เมืองลิเวอร์พูลอีกสองปี และกลับไปฮัมบูร์กอีกครั้ง ภายหลังสจ๊วตขอลาออกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา พอลเปลี่ยนมาเล่นเบสแทน ทั้งวงหอบประสบการณ์กลับมาที่เมืองลิเวอร์พูล ไบรอัน เอ็ปสไตน์ (Brian Epstein) ได้เสนอตัวมาเป็นผู้จัดการวง ในที่สุดเดอะ บีทเทิลส์ก็ได้เซ็นสัญญากับบริษัทแผ่นเสียงสังกัด “พาร์โลโฟน” (Parlophone) ในปี 2505 และเปลี่ยนมือกลองเป็น ริงโก สตาร์ (Ringo Star)
ไบรอันจัดการเปลี่ยนรูปลักษ์เดอะ บีทเทิลส์จากเสื้อหนัง บลูยีนส์ฟิตเปรี๊ยเป็นสูทปิแอร์ การ์แดง ตัดผมทุกคนเป็นทรงบ็อบเหมือนกัน จอห์นกับพอลก็จับมือกันเขียนเพลง และออกซิงเกิลแรกในวันที่ 5 ตุลาคม 2503 คือ “Love Me do / P.S. I Love You” กลายเป็นซิงเกิลฮิตติดท็อป เทวนตีของอังกฤษแผ่นแรกในอังกฤษ ต้นปีต่อมาก็ออกซิงเกิล “Please Please Me” ขึ้นถึงอันดับที่ 2 ก่อนที่ซิงเกิลที่ 3 คือ “From Me To You” จะขึ้นอันดับหนึ่งได้สำเร็จ ส่งผลให้เดอะ บีทเทิลดังเป็นพลุแตกไปทั่วเกาะอังกฤษ กระแส “บีทเทิลมาเนีย” ก็เริ่มต้นนับแต่นั้น
จากนั้นไบรอันก็พาเดอะ บีทเทิลไปโด่งดังในอเมริกาด้วยซิงเกิลแรก “I Want To Hold Your Hand” ซึ่งขึ้นอันดับหนึ่งเขี่ยเพลงฮิตของเจ้าบ้านทันที จากนั้นเดอะ บีทเทิลก็กลายเป็นวงป็อปอังกฤษที่โด่งดังไปทั่วโลก ต่อมาดนตรีของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปด้วยอิทธิพลของยาเสพติดและแนวคิด “บุปผาชน” หรือ “ฮิปปี” (Hippie) กลายเป็นดนตรี “ไซคีเดลิก” (Psychedelic) และมีกลิ่นอายของดนตรีตะวันออกซึ่งจอร์จนำเข้ามาผสมผสาน นับตั้งแต่อัลบัม “Sgt Pepper’s Lonely Hearts Club Band” เป็นต้นมา
เมื่อขึ้นถึงจุดสูงสุดสมาชิกแต่ละคนเริ่มเติบโตค้นพบแนวทางของตนเอง จอห์นหย่ากับซินเธียและคบหาอย่างเปิดเผยกับ โยโกะ โอโน (Yoko Ono) ศิลปินอวองการ์ดชาวญี่ปุ่น จนสมาชิกในวงต่างหมดศรัทธา ในที่สุดเดอะ บีทเทิลก็วงแตกในปี 2513 หลังจากออกอัลบัมสุดท้ายคือ “Let It Be”
จอห์นออกมาเป็นศิลปินเดียวและตั้งวงร่วมกับโยโกะชื่อว่า “เดอะ พลาสติก โอโนะ แบนด์” (The Plastic Ono Band) ออกอัลบัมหลายชุด เช่น “Two Virgins” (ซึ่งจอห์นกับโยโกะเปลือยกายเป็นภาพปก), “Imagine” (ซึ่งมีเนื้อหาต่อต้านสงคราม), “Mind Games” และ “Double Fantasy” ในบั้นปลายชีวิตเขาหันมาทำงานศิลปะและเป็นนักรณรงค์ต่อต้านสงครามคนสำคัญ หลังจากออกอัลบัม Double Fantasy ไม่นานจอห์นก็ถูกแฟนเพลงดักยิงเสียชีวิตในวันที่ 8 ธันวาคม 2523 เพลงของเลนนอนมีลักษณะที่เต็มไปด้วยความหวัง ความงดงามและความเจ็บปวดของชีวิต และสันติภาพสากล