เฟย์ (www.faylicity.com)

เมื่อพูดถึงหนังสือสารคดี (Non-fiction) บางคนคงทำท่าเบื่อหน่ายด้วยคิดว่างานเขียนชนิดนี้มีสาระสูงและไม่สนุกเร้าใจเอาเสียเลยหลายคนนึกถึงตำราเรียนไปโน่น พานให้ไม่อยากหยิบจับหนังสือสารคดีมาอ่านแม้แต่น้อยแต่ใครที่คิดอย่างนี้และอยากทันกระแสแฟชั่นการอ่านคงต้องกลับใจเสียใหม่ด้วยการอ่านในฤดูกาลปัจจุบันสารคดีกำลังมาแรงอย่างยิ่ง

อย่าลืมว่าไดอารีที่ขายดีและอ่านกันมากที่สุดในโลกไม่ใช่ไดอารีของ บริดเจ็ต โจนส์ แต่เป็นไดอารีของ แอนน์ แฟรงก์ เด็กสาวชาวยิวที่หลบซ่อนตัวจากนาซี

ไดอารีของ แอนน์ แฟรงก์ (The Diary of a Young Girl) เป็นไดอารีขายดีที่สุดในโลก กินเนสบันทึกว่าขายได้มากกว่า ๒๕ ล้านเล่มและได้รับการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากกว่า ๕๕ ภาษา แฟรงก์เขียนบันทึกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ ขณะหลบซ่อนตัวจากนาซีในที่พักลับ ณ กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในที่สุดทางการพบที่ซ่อนนี้และส่งตัวเธอพร้อมครอบครัวไปยังค่ายกักกัน แฟรงก์เสียชีวิตที่ค่ายด้วยโรคไข้รากสาดใหญ่ก่อนสงครามสิ้นสุดเพียงไม่กี่เดือน ไดอารีเล่มนี้แสดงว่าในช่วงเวลามืดมนนั้น แฟรงก์ไม่เคยสูญเสียความหวังเลย “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันยังเชื่อว่าคนเรามีจิตใจดี ฉันไม่อาจสร้างชีวิตบนรากฐานของความวุ่นวาย ความทุกข์ทน และความตายได้ ฉันเห็นโลกค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความป่าเถื่อน ฉันได้ยินเสียงฟ้าร้องที่ใกล้เข้ามา ที่สักวันจะทำลายตัวเราลงไปด้วย ฉันรู้สึกถึงความทุกข์ของคนนับล้าน แต่เวลามองไปบนฟ้า ฉันยังรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้น ว่าความโหดร้ายจะจบสิ้นว่าสันติภาพและความสงบจะกลับคืนมา ในตอนนี้ ฉันต้องยึดอุดมคติเอาไว้ เผื่อว่าจะมีวันที่อุดมคตินั้นเป็นจริงขึ้นมาได้”

ใคร ๆ ก็รักสารคดี
สารคดีคืองานเขียนที่เป็นเรื่องจริงหรือประกอบขึ้นด้วยข้อเท็จจริง จึงมีหลากหลายได้ตั้งแต่ ความเรียง บันทึก รายงานวิชาการ ชีวประวัติ ตำราเรียน ประวัติศาสตร์ บทวิจารณ์ หนังสือท่องเที่ยว

ปัจจุบันนี้ หนังสือสารคดีขายดี ขายง่ายกว่า และกำลังเป็นที่สนอกสนใจอย่างสูงของคนในวงการหนังสือถึงขนาดที่ทำให้แฟนนิยายพากันน้อยอกน้อยใจไปตาม ๆ กัน

ก่อนอื่นจำเป็นต้องบอกว่า “วงการหนังสือ” ในที่นี้คือวงการหนังสืออเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหนังสือภาษาอังกฤษใหญ่ที่สุดของโลกแม้ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นภาพตัวแทนของหนังสือโลกแต่น่าจะให้ภาพวงการหนังสือโดยรวมได้ระดับหนึ่ง

ตลาดหนังสืออเมริกันกำลังนิยมงานเขียนสารคดีอย่างยิ่งเห็นได้จากสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่ทั้งหลายที่ให้ความสำคัญกับหนังสือสารคดีมากขึ้น ตัวอย่างเช่นหนังสือพิมพ์ นิวยอร์กไทมส์ ผู้พิมพ์บทความวิจารณ์หนังสือที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอเมริกาที่หันมาให้เนื้อที่วิจารณ์งานสารคดีมากขึ้น

ข่าวฮือฮาที่สุดข่าวหนึ่งในวงการหนังสือปีที่แล้วมาจากคำของบรรณาธิการบริหารของ นิวยอร์กไทมส์ ที่ว่าจะเน้นบทวิจารณ์หนังสือสารคดีให้มากขึ้นซึ่งเรียกเสียงร้องแบบเจ็บปวดจากคอนิยายทั่วสารทิศ เดือดร้อนให้บุคลากรของหนังสือพิมพ์ต้องออกมาแก้ข่าวยกใหญ่ ว่ามิได้หมายความว่าจะให้ความสำคัญของสารคดีไปเบียดเบียนเนื้อที่ของนิยาย

แต่รอยร้าวฉานเกิดขึ้นแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่ปีที่แล้วจะมีบทความทำนอง “นวนิยายตายแล้ว” จำนวนมาก(ซึ่งไม่จริง) ความเคลื่อนไหวของ นิวยอร์กไทมส์ เป็นไปในทางเดียวกับสื่อสิ่งพิมพ์สำคัญอื่น ๆ เช่น นิวยอร์กรีวิวออฟบุ๊กส์

แนวโน้มของจริงจะเป็นอย่างไร คนอ่านย่อมเป็นผู้ตัดสินที่แท้จริง

สารคดีขายดี
ผลตอบรับด้านการขายในปีที่ผ่านมาออกมาว่างานสารคดีขายง่ายกว่า ขายดีกว่า ซึ่งไม่น่าแปลกใจ ด้วยนวนิยายสมัยนี้ออกใหม่ในปริมาณมหาศาล (ประมาณ ๑๗,๐๐๐ เรื่องต่อปี) การเลือกซื้อนิยายสักเล่มจึงเป็นเรื่องยากมาก หากไม่ได้คำแนะนำหรือไม่รู้จักนักเขียนมาก่อน นักอ่านต้องประสบความมึนงง ด้วยคาดเดายากว่าเราจะถูกใจนิยายสักเล่มหรือไม่

เมื่อเปรียบเทียบกับหนังสือสารคดีแล้ว เราหยิบหนังสือสักเล่มมาดู ก็รู้ได้ทันทีว่าเราสนใจหนังสือเล่มนั้นๆ หรือไม่ เช่น หนังสือเกี่ยวกับโภชนาการของสุกรรึ วางลงได้เลย หนังสือเรื่องกุ้งมังกรรึ อร่อย เอ๊ย น่าอ่าน

หนังสือขายดีในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาล้วนแต่เป็นสารคดี เช่น America (The Book) ของ จอน สจ็วต ที่เสียดสีการเมืองอเมริกาให้อ่านได้ฮากลิ้ง และ The Five People You Meet in Heaven ของ มิตช์ อัลบอม ผู้เขียนหนังสือ วันอังคารกับครูมอรี ที่ขายดีมาแล้วก่อนหน้านี้

ตัวอย่างหนังสือสารคดีขายดีระเบิดในปีที่แล้วคือ My Life ของ บิลล์ คลินตัน ที่ขายดีแม้จะได้คำวิจารณ์ทางลบจำนวนมาก และ The 9/11 Commission Report รายงานจากคณะกรรมาธิการสอบสวนเหตุการณ์ก่อการร้ายในอเมริกาที่เขียนดีจนได้เสนอชื่อเข้าชิงชัยรางวัลหนังสือแห่งชาติ

The 9/11 Commission Report
รายงานจากคณะกรรมาธิการอิสระเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อการร้ายในสหรัฐอเมริกา วันที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๔ เล่มนี้ นอกจากจะเป็นเอกสารชิ้นสำคัญทางประวัติศาสตร์ยุคใหม่แล้วยังเป็นรายงานที่เขียนดีอย่างน่าทึ่ง (ปรกติรายงานชนิดนี้น่าเบื่อมาก) ด้วยภาษากระชับ ชัดเจน เล่าความโดยไม่ใส่อารมณ์แต่ปล่อยให้เหตุการณ์สำแดงพลังกับผู้อ่านเอง หากเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริง รายงานนี้จะเป็นนิยายระทึกขวัญที่เขียนดีที่สุดเล่มหนึ่ง คำชมใดย่อมไม่เท่ากับให้ผู้อ่านได้สัมผัสเอง รายงานเล่มนี้เริ่มต้นว่า “รุ่งเช้าวันอังคารที่ ๑๑ กันยายน ค.ศ. ๒๐๐๑ ในอเมริกาตะวันออก เป็นเช้าที่อุณหภูมิปานกลางและเกือบไร้เมฆหมอก หญิงชายนับล้านคนเตรียมตัวไปทำงาน บ้างก็มุ่งหน้าไปตึกแฝด อันเป็นโครงสร้างสำคัญของเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนครนิวยอร์กบ้างก็ไปที่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย เพื่อไปเพนตากอน สภากลับสู่สมัยประชุมอีกครั้งที่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโปโตแม็ก และ ณ อีกฟากของเพนซิลเวเนีย อเวนิว ผู้คนกำลังเข้าแถวรอทัวร์ทำเนียบขาว ที่เมืองซาราโซตา รัฐฟลอริดา ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ออกไปวิ่งตอนเช้า สำหรับผู้ที่มุ่งหน้าไปสนามบินแล้ว สภาพอากาศในวันนี้แจ่มใสอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางที่เป็นสุขและปลอดภัยในหมู่นักเดินทาง มี โมฮัมเม็ด อัตตา และ อับดุล อซิส อัล โอมารี ที่เดินทางมาถึงสนามบินเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐเมน” บางตอนจากเหตุการณ์จี้เครื่องบินสายการบินอเมริกา เที่ยวบิน ๑๑ ที่พุ่งชนตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เป็นลำแรก “ในตอนแรก ผู้จี้เครื่องบินบางคนซึ่งน่าจะเป็น เวล อัล เชรี และ วาลีด อัล เชรี ที่นั่งแถว ๒ ของชั้นเฟิสต์คลาสแทงพนักงานต้อนรับที่ปราศจากอาวุธ ๒ คน พนักงานต้อนรับน่าจะอยู่ระหว่างเตรียมให้บริการผู้โดยสาร

เราไม่ทราบแน่ชัดว่าผู้จี้เครื่องบินเข้าห้องนักบินได้อย่างไร กฎเอฟเอเอกำหนดว่าประตูห้องนักบินต้องปิดและล็อกตลอดเที่ยวบิน ออง (พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน – ผู้แปล) คาดว่าคนร้าย “งัดแงะ” เข้าไปหรือผู้ก่อการร้ายอาจแทงพนักงานต้อนรับเพื่อให้ได้กุญแจห้องนักบิน และบังคับให้พนักงานอีกคนเปิดประตูหรือผู้จี้เครื่องบินอาจล่อนักบินหรือผู้ช่วยนักบินให้ออกมาหรือพนักงานต้อนรับอาจพยายามขัดขวางผู้จี้เครื่องบิน

ในขณะเดียวกันหรือหลังจากนั้นไม่นาน อัตตา ผู้ก่อการร้ายเพียงคนเดียวบนเครื่องบินที่ได้รับการฝึกฝนการขับเครื่องบินได้ย้ายไปที่ห้องนักบิน เป็นไปได้ว่าอัตตาจะมาพร้อมกับโอมารี ในขณะนั้นผู้โดยสารนาม แดเนียล เลวิน ผู้นั่งแถวหลังจากอัตตาและโอมารี ถูกผู้จี้เครื่องบินคนหนึ่งแทง คาดว่าผู้แทงอาจเป็น ซาตาม อัล ซูกามี ที่นั่งอยู่หลังเลวิน เลวินเคยเป็นทหารในกองทัพอิสราเอลนาน ๔ ปี เขาน่าจะพยายามขัดขวางนักจี้เครื่องบินที่นั่งข้างหน้าเขา โดยไม่รู้ว่ามีคนร้ายอีกคนนั่งข้างหลัง” ผู้สนใจดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มได้จาก www.911commission.gov/report/index.htm

สารคดีแนวใหม่
หนังสือสารคดีสมัยนี้ไม่ได้น่าเบื่อหรือเชยอย่างที่คิด มีงานเขียนสารคดีแนวใหม่ที่เรียกกันว่า สารคดีสร้างสรรค์ (Creative Nonfiction) ทั้งนี้มิใช่ว่าสารคดีของเดิมไม่สร้างสรรค์ แต่คำนี้ใช้เรียกสารคดีที่เขียนด้วยลีลาวรรณศิลป์ดุจเดียวกับนิยาย สารคดีชนิดนี้มีชื่อเรียกอื่นจำนวนมาก เช่น วารสารศาสตร์แนวใหม่ (New Journalism) วารสารศาสตร์เชิงวรรณกรรม (Literary Journalism)

หากจะถกว่าใครเป็นผู้ริเริ่มสารคดีสร้างสรรค์นี้ ก็คงมีการวางมวยกันหลายยก แต่หนังสือที่เป็นจุดเปลี่ยนและริเริ่มงานเขียนแนวนี้ที่โด่งดังคือ In Cold Blood ของ ทรูแมน คาโพที ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ.๑๙๖๕

In Cold Blood
เล่าเรื่องจริงของเหตุฆาตกรรมล้างครอบครัวในเมืองเล็ก ๆ ของรัฐแคนซัส คาโพทีเล่าความโดยใช้เทคนิคการเขียนแบบใหม่ ดังตัวอย่างนี้ “ก่อนหน้าเช้าวันหนึ่งในกลางเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. ๑๙๕๙ มีอเมริกันชนน้อยคนนักหรือจะว่าไปแล้ว มีชาวแคนซัสน้อยคนนัก ที่เคยได้ยินชื่อเมืองฮอลโคมบ์ ดังเช่นสายน้ำในแม่น้ำ เหมือนกับผู้ขับขี่ยวดยานบนไฮเวย์และดุจเดียวกับรถไฟสีเหลืองที่แล่นตามรางของซานตาเฟ ซึ่งเหล่านี้ไม่เคยหยุดที่เมืองฮอลโคมบ์ นาฏกรรมในรูปของเหตุการณ์พิเศษสำคัญไม่เคยเกิดขึ้นที่เมืองนี้เช่นกัน”

งานเขียนทำนองเดียวกันที่ดีเด่นอีกเรื่องคือ The Executioner’s Song ของ นอร์แมน เมลเลอร์ ที่เล่าเหตุการณ์ที่นำไปสู่การก่ออาชญากรรมของ แกรี กิลเมอร์ จนถึงวาระที่เขาถูกประหาร หรือหากจะดูงานสมัยใหม่ก็มีเช่น The Orchid Thief ของ ซูซาน ออร์ลีน เล่าเรื่องของนักขโมยกล้วยไม้ป่า ผู้คลั่งไคล้หลงใหลกล้วยไม้ชนิดไม่ธรรมดา (เรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงเป็นหนังแบบไม่ประสบความสำเร็จจนกลายเป็นความในใจคนเขียนบทในหนังเรื่อง Adaptation)

สารคดีในหนังสือภาพ
ประเภทหนังสือดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในยุคนี้คือ Graphic Novel (หนังสือภาพ) หรือที่เราเห็นแล้วอาจเรียกว่าการ์ตูน ทว่าต่างจากการ์ตูนทั่วไปตรงที่เป็นเรื่องสำหรับผู้ใหญ่อ่านด้วยความยาวเท่ากับหนังสือเล่ม

หนังสือภาพจำนวนมากเล่าชีวิตจริง ในจำนวนนี้มีหนังสือดีที่ต้องพูดถึงอย่างน้อย ๒ เล่มต่อไปนี้

Maus ของ อาร์ต สปีเกิลมาน เล่าชีวิตบิดาชาวยิวของเขาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ เมื่อประสบภัยนาซีจนถูกส่งตัวไปค่ายกักกัน นอกจากเรื่องนี้จะเล่าความโหดร้ายของนาซีต่อชาวยิวได้ดีแล้วเนื้อเรื่องยังซับซ้อนไปกว่านั้นด้วยได้สะท้อนความสัมพันธ์อันระหกระเหินของเขากับบิดาไปด้วยกัน ภาพและเรื่องนี้น่าประทับใจมากเพราะบอกเล่าความเป็นมนุษย์ได้ลึกซึ้งกินใจ หนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ในปี ค.ศ. ๑๙๙๑ ชื่อหนังสือ เมาส์ สื่อถึงการแสดงภาพชาวยิวด้วยหนู และแสดงภาพคนเชื้อชาติอื่นด้วยสัตว์ต่างชนิด เช่นเยอรมันคือแมว

Persepolis ของ มาร์เจน ซาทราปี เล่าชีวิตวัยเด็กของเธอในอิหร่านในสภาวะสงคราม ภาพของเธอเรียบง่ายแต่เล่าความได้มีพลังมาก มุมมองจากวัยเยาว์ของเธอเล่าความที่ทั้งหดหู่ ชวนขัน และเสียดสี ซาทราปีเกิดในครอบครัวปัญญาชน เธอมีความคิดก้าวหน้าจึงแสดงความขัดแย้งภายในตัวตนต่อสภาพสังคมแวดล้อมได้ดี Persepolis จะออกฉบับแอนิเมชันเร็ว ๆ นี้

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันหนังสือภาพจะมีคนอ่านจำกัดในวงแคบ แต่มีแนวโน้มสูงว่างานแนวนี้จะเป็นที่รู้จักและนิยมมากขึ้นในเร็ววันนี้

สารคดีในใจคนอ่าน
อาการขายดีและความนิยมอาจเป็นกระแสชั่วคราว แต่เรื่องที่ว่าสารคดีให้ความรู้และเพลิดเพลินนั้นเป็นความจริงที่จะไม่ผ่านไปกับกาลเวลา

ที่ผ่านมามีการจัดอันดับสารคดีดีเด่นจากสำนักต่างๆ อันดับเหล่านี้กำเนิดความเห็นขัดแย้งจำนวนมาก (เป็นเรื่องธรรมดาเพราะการจัดอันดับที่ถูกใจเราที่สุดย่อมเป็นอันดับที่เราจัดเอง)

ถึงอย่างนั้นก็ตาม มีหนังสือหลายเล่มที่หลายสำนักเห็นตรงกันว่าดีจริง ดังตัวอย่างต่อไปนี้ The Elements of Style โดย วิลเลียม สตรังก์ และ อี.บี. ไวท์ บอกข้อคิดการเขียนหนังสือได้คลาสสิกที่สุด เหมาะกับการอ่านซ้ำทุกปี หนังสือเล่มนี้เป็นครูของนักเขียนจากอดีตมาจนวันนี้ ประโยคน่าประทับใจที่สุดคือ “ตัดคำไม่จำเป็นทิ้ง” “การเขียนที่มีพลังต้องกระชับ ในประโยคไม่ควรมีคำไม่จำเป็น ในย่อหน้าไม่ควรมีประโยคไม่จำเป็น เช่นเดียวกับที่รูปวาดไม่ควรมีเส้นไม่จำเป็นและเครื่องจักรไม่ควรมีชิ้นส่วนไม่จำเป็น ในที่นี้มิใช่ว่านักเขียนต้องตัดทอนประโยคให้สั้นลงหรือเลี่ยงการลงรายละเอียดโดยเขียนเพียงโครงร่าง ทว่านักเขียนต้องให้คำทุกคำสื่อความหมาย”

ผู้สนใจอ่านฉบับอินเทอร์เน็ตได้ที่ www.bartleby.com/141

Speak, Memory โดย วลาดิเมียร์ นาโบคอฟ
อัตชีวประวัติจากนักเขียนฝีมือเอกผู้นี้ย่อมไม่ธรรมดา นาโบคอฟเล่าชีวิตก่อนย้ายถิ่นฐานมาพำนักที่อเมริกาในปี ค.ศ. ๑๙๔๐ ชีวประวัติเล่มนี้พิเศษกว่าเล่มอื่น ด้วยผู้เขียนให้ความทรงจำที่รุ่มรวยด้วยผลึกความคิดของเขาเล่าเรื่อง จึงให้ทั้งภาพ แสงเงา และความรู้สึกที่มีชีวิตชีวาอย่างยิ่ง เขาเล่าให้เราฟังตั้งแต่ความทรงจำสมัย ๔ ขวบ บอกกระทั่งว่าตัวอักษรแต่ละตัวให้ความรู้สึกและสื่อถึงสีสันใด เช่นตัวอักษร q มีสีน้ำตาลเข้มกว่า k คำว่ารุ้งในภาษานาโบคอฟคือ kzspygv

หนังสือเล่มนี้เป็นวรรณศิลป์สูงค่า นาโบคอฟเป็นนักเขียนภาษาแพรวพราย งานเขียนชิ้นนี้จึงอ่านได้พราวตาน่าหลงรัก (ในทีแรกนาโบคอฟตั้งชื่อหนังสือว่า Speak, Mnemosyne แต่สำนักพิมพ์ทักท้วงไว้ด้วยเกรงจะขายไม่ได้)

The Feynman Lectures on Physics และ Six Easy Pieces โดย ริชาร์ด พี. ไฟน์แมน
ไฟน์แมนเป็นนักฟิสิกส์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รักที่จดจำมากคนหนึ่งแม้เขาจะจากโลกนี้ไปแล้ว งานเขียนฟิสิกส์ของเขาเป็นตำราเรียนที่ถือกันว่าดีที่สุด ส่วนงานเขียนอื่น ๆ ของไฟน์แมนอ่านสนุกและกระตุ้นความคิดได้มาก เขาเป็นนักสร้างแรงบันดาลใจ ความรักในความรู้และในวิทยาศาสตร์ของเขาเป็นหนึ่งในสิ่งที่งดงามที่สุดบนโลกใบนี้

The Elegant Universe โดย ไบรอัน กรีน
หนังสือเล่มนี้เขียนถึงความรู้ฟิสิกส์ปัจจุบันได้ดีที่สุดเท่าที่เคยอ่านมา กรีนเป็นครูที่ดีของคนอ่าน และไม่พอใจให้คนอ่านรับรู้แต่เพียงผิว ๆ ดังเช่น สตีเฟน ฮอว์กิง พอใจ (ฮอว์กิงเขียนหนังสือวิทยาศาสตร์ขายดีชื่อ A Brief History of Time และ The Universe in a Nutshell) แต่กรีนจูงมือคนอ่านแล้วพากเพียรสอนให้คนอ่านเข้าใจทฤษฎีสัมพัทธภาพภาคทั่วไป ควอนตัมฟิสิกส์ ไปจนถึงทฤษฎีสตริง การเขียนยอดเยี่ยมของกรีนเล่าอัศจรรย์ในโลกฟิสิกส์ได้สง่างามดังชื่อเรื่องโดยแท้

Silent Spring โดย เรเชล คาร์สัน
หนังสือที่เป็นแรงสำคัญในกระบวนการเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อมของอเมริกา คาร์สันเปิดเผยอันตรายของการใช้สารเคมีกำจัดแมลงและศัตรูพืชต่อสิ่งแวดล้อมโดยเสนอข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ผนวกฝีมือการเขียนที่ดีทำให้หนังสือเล่มนี้ขายดีทันทีทันใดและกลายเป็นกรณีโต้แย้งรุนแรงกับกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตสารเคมีจนในที่สุดรัฐบาลประกาศห้ามใช้ดีดีที ความคลาสสิกของหนังสืออายุกว่า ๔๐ ปีเล่มนี้อยู่ที่ทำให้ผู้คนตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมและส่งผลให้คาร์สันเป็นตัวแทนนักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมคนสำคัญคนหนึ่ง เธอเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในปี ค.ศ. ๑๙๖๔ เมื่ออายุ ๕๖ ปี

ชื่อหนังสือ ฤดูใบไม้ผลิเงียบงัน มาจากตอนแรกของหนังสือที่จินตนาการว่าหากเรายังใช้สารเคมีกำจัดแมลงอย่างไม่ยั้ง ฤดูใบไม้ผลิคงมาถึงโดยปราศจากสรรพเสียง เนื่องจากนกตายลงหมดสิ้นแล้ว

Collected Essays และ Homage to Catalonia โดย จอร์จ ออร์เวล
ออร์เวลมีผลงานนวนิยายโด่งดังเช่น 1984 และ Animal Farm แต่เขายังเป็นนักเขียนบทความที่ดีที่สุดคนหนึ่งในศตวรรษที่ ๒๐ อีกด้วย นักอ่านไม่ควรพลาดบทความอันแหลมคมของเขาที่อ่านได้ครั้งแล้วครั้งเล่าและยังสดใหม่เสมอ Homage to Catalonia เล่าประสบการณ์ของออร์เวลในสงครามกลางเมืองสเปนที่เขาร่วมรบในแนวหน้า เขาเขียนความซับซ้อนของการเมืองทั้งภายในและภายนอกเกี่ยวกับสงคราม และบอกประสบการณ์ที่สลายมายาคติเดิมของตนเองหลายประการ หนังสือเล่มนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นสารคดียอดเยี่ยมและเป็นบันทึกเชิงการเมืองที่เขียนดีดังวรรณกรรมชิ้นเอกเรื่องหนึ่ง

แนวโน้มของสารคดี
สารคดีขายดีในรอบทศวรรษที่ผ่านมาเต็มไปด้วยหนังสือที่คนดังเขียนเล่าชีวิต งานเขียนแนวนี้คงได้รับความนิยมต่อไปอีกชั่วกาลนาน อย่างไรก็ตามหนังสือชนิดนี้ขายดีในช่วงเวลาสั้นมาก สำนักพิมพ์ต่างหวังกอบโกยผลประโยชน์แบบสายฟ้าแลบด้วยกันทั้งนั้น

น่าดีใจว่าสารคดีขายดีมีหลากหลายขึ้นเรื่อย ๆ สารคดีหลายเรื่องได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ซึ่งช่วยส่งเสริมให้งานเขียนแนวนี้เป็นที่รู้จักและอ่านกว้างขวาง เช่น Angela’s Ashes ของ แฟรงก์ แมคคอร์ต และ Midnight in the Garden of Good and Evil ของ จอห์น เบเรนด์ต สารคดีที่ไม่น่าจะขายได้กลับขายดีอย่างคาดไม่ถึง เช่น หนังสือสอนการใช้เครื่องหมายวรรคตอนภาษาอังกฤษ Eat, Shoots and Leaves ของ Lynne Truss ที่ขายดีชนิดสำนักพิมพ์ยังงง ปรากฏการณ์เช่นนี้ช่วยสนับสนุนให้สารคดีออกมาหลากหลายขึ้นแม้แต่ในแนวที่สำนักพิมพ์ไม่เตรียมใจมาก่อน

สารคดีเชิงประวัติศาสตร์และการเมืองตีพิมพ์ออกมามากทุกปี ความนิยมของหนังสือการเมืองขึ้นอยู่กับสถานการณ์ปัจจุบันเป็นหลัก (เช่นการก่อการร้าย การถล่มอิรัก) หนังสือเหล่านี้ขายดีแต่ขายได้ไม่นานนัก ส่วนใหญ่จะเสื่อมความนิยมหลังจากพ้นกระแสไปแล้ว

แนวโน้มเหล่านี้ไม่ต่างจากบ้านเรา ข้อแตกต่างอยู่ที่สารคดีในภาษาอังกฤษหลากหลายกว่ามากแต่เป็นเรื่องดีว่าสำนักพิมพ์บ้านเรามีแนวโน้มให้ความสนใจพิมพ์และแปลงานสารคดีมากขึ้นทั้งแนววิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และท่องเที่ยว

สำนักพิมพ์อเมริกันมีแนวโน้มผลิตงานสารคดีมากขึ้นด้วยมีโอกาสขายดีและขายง่ายกว่านิยาย การแข่งขันของหนังสือสารคดีที่สูงขึ้นจะเป็นผลดีกับคนอ่านที่จะได้อ่านงานหลากหลายกว่าเดิม

อาณาจักรการอ่านที่ไร้ขอบเขต
มีหนังสือสารคดีจำนวนมากที่อ่านสนุก วันนี้คุณลองสำรวจดูชั้นหนังสือสารคดีบ้างหรือยัง โลกหนังสือสารคดีหลากหลายด้วยความหวานหอม (หนังสือทำอาหาร) มีหนังสือสาระน่าสนุกต่าง ๆ มีหนังสือท่องเที่ยวที่ชวนให้อยากเดินทางแต่ที่สำคัญที่สุดคงเป็นเพราะหนังสือสารคดีบรรจุความจริงของชีวิต

ในบางเหลี่ยมมุมของชีวิต เราอยากกระทบความจริงเหล่านั้น

ตะกอนของการสัมผัสความจริงใหม่ ๆ อาจกลายเป็นสารคดีในชีวิตของเราเอง