จุฑารัตน์ คล้ายมณี : รายงาน

หากคลิกเข้าไปที่คลังกระทู้ของ “ห้องสุนัข” ในเว็บบอร์ดยอดนิยมอย่าง www.pantip.com/cafe/jatujak ชุมชนออนไลน์สำหรับคนรักหมา กระทู้อย่างที่ยกมานี้มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้งจนแทบเรียกได้ว่าชินตา บางคนเห็นหัวข้ออาจผ่านเลย บางคนไม่อยากอ่านเพราะกลัวสะเทือนใจ ขณะที่บางคนเข้าไปคลิกอ่านพร้อมโพสต์ข้อความให้กำลังใจ หากไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น

เรื่องและชีวิตของ “น้องหมา” ในกระทู้อาจจบลงเพียงเท่านี้หากใครต่อใครทำเพียงอ่านข้อความในกระทู้และผ่านเลย โชคดีที่ว่าในความเป็นจริง ในเครือข่ายออนไลน์อันกว้างขวางยังมีคนอีกมากที่ไม่ปล่อยผ่านเรื่องแบบนี้ หากเกาะติดสถานการณ์พร้อมเสนอตัวให้ความช่วยเหลือ “หลังไมค์” อย่างเต็มที่ ไม่ว่าอาสาขับรถพาหมาไปหาหมอ ช่วยค่ารักษา รับไปอุปการะต่อ ฯลฯ นั่นทำให้เว็บบอร์ดแห่งนี้ขยายตัวจากการเป็นเพียงเว็บบอร์ดสาธารณะที่คนต่างเพศ ต่างวัย ต่างอาชีพการงาน เข้ามาถาม-ตอบปัญหาเกี่ยวกับสุนัข แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเลี้ยง ฯลฯ มาสู่การเป็นที่พึ่งแห่งใหม่ของสุนัขจรจัดภายใต้เครือข่ายออนไลน์อันทรงประสิทธิภาพ ที่ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว กว้างขวาง และเป็นรูปธรรมกว่าที่เคยเป็นมา

……………………………………………………………………….

“มีนะ กะ กาโม่” คือล็อกอินที่ผู้ชายคนหนึ่งใช้ในเว็บบอร์ด แม้อาจไม่เคยเห็นหน้าค่าตา แต่ชาวเว็บก็รู้จักเขาดีในฐานะ “พ่อพระ” ของหมา-แมวจรจัด ทุกวันนี้มีนะเลี้ยงหมา ๒๕ ตัว แมว ๑๒ ตัว ทุกตัวเป็นหมาและแมวที่เขาไปช่วยเหลือมาทั้งสิ้น

“ตัวแรกที่ช่วยเพราะไปอ่านเจอกระทู้แบบว่า …ช่วยด้วยค่ะสุนัขถูกรถชน ช่วยด้วยครับมีสุนัขบาดเจ็บ เห็นแล้วสงสารมันจัง… อ่านแล้วก็รำคาญปนหงุดหงิด ว่าทำไมเห็นแล้วไม่ลงไปช่วย ก็แค่พาไปหาหมอหรือลงไปดูมันสักหน่อย ทำไมต้องมาโพสต์อย่างเดียว จะเก็บความสงสารกลับบ้านไปนอนคิดเพื่ออะไร ก็เลยตัดสินใจไปช่วยมันเพราะอยากให้คนอื่นเห็นว่าไม่ยากหรอกถ้าเราอยากจะช่วยจริง ๆ

“ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำจริงจังขนาดนี้ แต่พอทำไปสักพักแล้วมันเริ่มมีคนมาถามไถ่ให้ความร่วมมือ ช่วยหาโรงพยาบาลให้ ช่วยขับรถให้ บางคนก็เอาเงินมาช่วย อย่างพี่คนหนึ่งทำเสื้อสุนัขขายในเว็บพันทิป เขาแวะเอาเงินมาให้ที่ออฟฟิศเลย ๑ หมื่นทั้ง ๆ ที่เพิ่งรู้จักเราไม่นาน ทำให้รู้สึกว่า เออ เขาไว้ใจเรา ก็เลยมีกำลังใจ คิดว่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เลยทำต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ คนที่มาช่วยก็เป็นคนในพันทิปนี่แหละ เราร่วมมือกันแต่ไม่ได้รวมกลุ่ม แรกเริ่มที่ทำเราใช้เงินตัวเอง แต่ตอนหลังหมดปัญหาเรื่องเงินเพราะพอคนอื่นเห็นเราช่วย เขาอยากมีส่วนร่วมก็จะโอนเงินมาให้ ถ้าเงินเหลือเราจะเอาไว้ช่วยตัวอื่นต่อไป”

มีนะจะช่วยเฉพาะสุนัขป่วยและบาดเจ็บเท่านั้น โดยหลังจากเห็นกระทู้ เขาจะพยายามติดต่อเจ้าของกระทู้เพื่อสอบถามรายละเอียดก่อน จากนั้นก็ไปดูสุนัขว่าสภาพเป็นอย่างไร มีเจ้าของไหม ก่อนจะหารถไปรับแล้วพาไปหาหมอเพื่อทำการรักษาต่อไป

“เรารู้สึกว่ามันมีชีวิตเหมือนเรา ไม่เคยแบ่งชั้นว่า คนเป็นอันดับ ๑ แล้วหมา-แมวเป็นอันดับ ๒ บางคนอาจคิดว่าทำไมเราไม่ไปทำงานตามมูลนิธิหรือช่วยพาคนป่วยไปส่งโรงพยาบาล แต่เรามองว่ามีคนทำตรงนั้นเยอะแล้ว มีเงินช่วยเหลือจากรัฐด้วย เลยรู้สึกว่าอยากช่วยหมาช่วยแมวมากกว่า”

หมา-แมวจรจัดที่เขาลงมือช่วยเหลือ มีนะจะเลี้ยงไว้เองทั้งหมดโดยให้เหตุผลว่า

“มันเกิดความผูกพันโดยไม่ตั้งใจ รู้สึกไม่อยากให้ใคร มันอดระแวงและเป็นห่วงไม่ได้ว่าถ้าให้มันไปอยู่ที่อื่นเขาจะเลี้ยงมันอย่างไร ก็เลยเลี้ยงไว้เองดีกว่า ถึงไม่มีที่ก็ต้องดิ้นรนหา หรือถ้าพอจะฝากใครได้ก่อนก็ต้องฝาก แต่ไม่คิดที่จะยกให้คนอื่น เวลาเห็นใครทิ้งหมาทิ้งแมวเราก็รู้สึกไม่ดีที่เขาโยนภาระให้คนอื่น เลยไม่อยากโยนภาระของเราให้ใคร”


มีนะและบี (nongthee) กับ (อดีต) หมาจรจัดที่ “บ้านทรายทอง” (ภาพ : วิจิตต์ แซ่เฮ้ง)

นอกจากพ่อพระประจำเว็บอย่างมีนะ ชาวเว็บยังคุ้นตากับ “nongthee” ที่มักจะมาโพสต์ “หาบ้าน” ให้บรรดาลูกหมาจรจัด รวมถึงหาคนรับช่วงเลี้ยงหมาป่วยหรือบาดเจ็บที่เธอไปพบและนำมาดูแลจนแข็งแรงดี เพื่อให้หมาจรจัดเหล่านั้นไม่ต้องเร่ร่อนต่อไป

คุณบี หรือ “nongthee” มีมอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะคู่ชีพ ทุกวันเมื่อออกไปทำงาน เธอจะพกอาหารเม็ด ยาถ่ายพยาธิ และยารักษาโรคอย่างง่ายติดตัวไว้เสมอ เวลาขี่รถไป หากพบหมาจรจัดสภาพผอมโซก็จะรีบนำอาหารไปให้ หากตัวไหนเจ็บป่วยก็จะพาไปรักษา ทำแบบนี้มาเป็นเวลากว่า ๔ ปีแล้ว

หมาจรจัดที่เธอช่วยไว้ หากไม่มีใครมาอุปการะต่อเธอก็จะนำมาเลี้ยงไว้ที่เซฟเฮาส์ส่วนตัวหรือที่คนในห้องสุนัขตั้งชื่อให้ว่า “บ้านทรายทอง” สภาพเป็นกรงขนาดใหญ่พื้นเทปูน มีลูกกรงล้อม และมีหลังคาบังแดดกันฝน เซฟเฮาส์แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า ถ้าไม่สังเกตก็แทบจะมองไม่เห็นเลย แม้อาจจะไม่ใหญ่นักสำหรับหมาเกือบ ๗๐ ตัว แต่กับหมาจรจัดแล้ว ที่นี่คือสวรรค์ของพวกมัน

“กลุ่มแรกที่มาอยู่คือพวกที่ถูกวางยาเบื่อที่ปั๊มน้ำมันและเราช่วยไว้ได้ หมาที่มาอยู่ที่นี่ทุกตัวจะได้รับวัคซีนรวมป้องกันโรค มีป้ายห้อยคอใส่ชื่อเรากับเบอร์โทรศัพท์ไว้ เผื่อมันหลงไปที่ไหน ใครเจอจะได้รู้ว่ามันมีเจ้าของและนำกลับมาส่งได้”

หมามากมายอาจดูเกินกำลังของผู้หญิงคนหนึ่งจะดูแล แต่เธอก็ไม่คิดจะถอดใจ

“ไม่รู้สิ คือเราช่วยไปก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน ถ้าเราไม่ทำแล้วใครจะทำ ตอนนี้ก็พยายามจะทำหมันทุกตัวเพื่อไม่ให้ขยายพันธุ์ ไม่อย่างนั้นเลี้ยงไม่ไหว”

เธอฝากถึงคนที่กำลังคิดจะเลี้ยงสุนัขว่า “อยากให้คิดให้ถี่ถ้วน ศึกษาก่อนว่าหมาที่จะเลี้ยงมีลักษณะนิสัยอย่างไร และตัวเรามีศักยภาพที่จะเลี้ยงได้ไหม คนไทยส่วนมากเลี้ยงหมาเพราะเห็นว่ามันน่ารัก และมักไม่ยอมทำหมัน อ้างว่าสงสารบ้าง กลัวบาปบ้าง แต่ในที่สุดพอเลี้ยงไม่ไหวก็เอาไปปล่อยวัด เราว่าบาปกว่าอีก อย่าว่าแต่หมาไทยพันทางเลย หมาพันธุ์ดี ๆ ถูกเอามาปล่อยก็มีถมไป ซึ่งมันเป็นเรื่องที่โหดร้าย อยากให้เลี้ยงมันด้วยความเมตตามากกว่า เพราะถ้าแค่รัก รักได้ก็เกลียดได้ แต่ถ้าเมตตาต่อสัตว์แล้วทำให้เราไม่อยากทอดทิ้งมัน”


คุณบ๊วยกับเป๊ปซี่ โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ที่กลับมาเริงร่าได้อีกครั้งหลังจากใส่ล้อเลื่อนพยุงสองขาหลังซึ่งเป็นอัมพาตจากการถูกรถชน (ภาพ : Killer Queen)

“เซเว่น” “บีบี้” และ “เป๊ปซี่” อาจเป็นตัวอย่างของ “หมาพันธุ์ดี ๆ” ที่ถูกนำมาปล่อยอย่างที่คุณบีพูดให้ฟัง เจ้าสามตัวนี้เป็นโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ที่ได้รับความช่วยเหลือจากคุณบ๊วย (Golden Fever) แห่งเว็บพันทิป ทำให้พวกมันได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งหลังจากประสบชะตากรรมจนเกือบกลายเป็นหมาจรจัด

วันที่เราแวะไปคุย คุณบ๊วยออกมาต้อนรับพร้อมด้วยหมาตัวโตหลายตัว ทาวน์เฮาส์เล็ก ๆ หลังนี้มีโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ถึง ๙ ตัว ที่ซื้อมาเลี้ยงเอง ๖ ตัว และรับอุปการะเพิ่มอีก ๓ ตัว

ก่อนหน้านี้เซเว่นป่วยด้วยอาการข้อสะโพกเสื่อม และอาจด้วยเหตุนี้หมาพันธุ์ดีอย่างมันจึงถูกนำมาทิ้งเหมือนหมาข้างถนน หลังจากที่เรื่องของมันถูกนำมาโพสต์ในเว็บ เซเว่นก็ได้รับการช่วยเหลือจนกลับมาเดินได้อีกครั้ง

“เซเว่นถูกตัดเบ้าสะโพกออกข้างหนึ่ง ขาเลยไม่เท่ากัน สั้นไปข้าง แต่ก็เดินได้ปรกติ บางทีวิ่งเร็วกว่าตัวอื่นด้วยซ้ำ” คุณบ๊วยอธิบายยิ้ม ๆ ก่อนจะเล่าถึงอีกสองตัวที่รับมาดูแล

“บีบี้เป็นขี้เรื้อนทั้งตัวเลยถูกเอามาทิ้งไว้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ส่วนเป๊ปซี่เรารับตัวมาจากโรงพยาบาล มันถูกรถชน กระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ทำให้ครึ่งท่อนหลังเป็นอัมพาต เจ้าของพามารักษา แต่คงเพราะต้องรักษานานและค่าใช้จ่ายแพง ที่สุดเลยทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล คุณหมอต้องวานคนในเว็บพันทิปให้ช่วยตั้งกระทู้ประกาศหาคนอุปการะ เรารู้ข่าวก็เลยรับไว้”

กระทู้ช่วยหมาจรจัด หมาป่วย หมาถูกทิ้ง ฯลฯ อย่างที่คุณบ๊วยและสมาชิกชุมชนคนรักหมาออนไลน์แห่งนี้ได้พบเห็นผ่านตา ทางหนึ่งจึงเป็นหนทางรอดของหมาเคราะห์ร้ายเหล่านี้ แต่ในทางกลับกัน มันก็กลายเป็นภาระหนักสำหรับกลุ่มคนที่ไม่อาจนิ่งดูดาย

ต่อเรื่องนี้คุณบ๊วยมองว่า “บางคนอาจอยากช่วย แต่กลัวว่าตัวเองจะมีภาระเพิ่มขึ้น และเป็นภาระที่ไม่รู้จบ ก็เลยมาโพสต์ทิ้งไว้แล้วหายไป คิดว่าเดี๋ยวก็มีคนไปช่วยเอง ตอนนี้ปัญหาคือกระทู้แบบนี้มีมากจนคนที่ช่วยอยู่ก็รับผิดชอบไม่ไหว ผมมองว่าทุกคนมีสิทธิ์โพสต์ แต่ถ้าพยายามช่วยกันด้วยจะดีกว่ามาโพสต์บอกเฉย ๆ”

ส่วนมีนะ พ่อพระของหมาจรจัด เห็นว่า “กระทู้พวกนี้มันก็เหมือนดาบสองคม ในแง่ดีมันเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้เราช่วยเหลือหมาจรจัดได้อย่างรวดเร็ว ทันเวลา และมีคนเข้ามาช่วยกันมากขึ้น แต่ในอีกแง่มันก็ทำให้คนเอาหมามาทิ้งเป็นภาระเพิ่มขึ้น จริง ๆ คนที่มาโพสต์น่าจะลองช่วยดูก่อน ถ้าช่วยแล้วเงินไม่พอค่อยมาโพสต์ขอความช่วยเหลือจะดีกว่า”

เพื่อลดปัญหาดังกล่าวและเป็นการแบ่งเบาภาระสำหรับคนที่อยากจะช่วยเหลือหมาจรจัดที่ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บแต่ไม่พร้อมด้านปัจจัย วันนี้ชุมชนออนไลน์แห่งนี้จึงมี “บัญชีเงินฉุกเฉิน” สำหรับเป็นค่ารักษาพยาบาลหมาจรจัดที่ประสบอุบัติเหตุ ถูกทำร้าย หรือป่วย เพื่อให้มันได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที แทนที่ผู้พบเห็นจะเข้ามาโพสต์ข้อความทิ้งไว้เฉย ๆ หรือรอระดมเงินเหมือนอย่างที่ผ่านมา

คุณสุรชัย ศรีอรุณลักษณ์ หนึ่งในผู้ริเริ่มและดูแลโครงการบัญชีเงินฉุกเฉิน อธิบายถึงขั้นตอนการขอใช้บัญชีเงินฉุกเฉินว่า

“ถ้าคุณเจอสุนัขจรจัด สุนัขที่เจ้าของนำมาปล่อยทิ้ง สุนัขที่ไม่มีผู้รับอุปการะ หรือสุนัขที่มีสถานภาพเสมือนสุนัขจรจัด (มีเจ้าของแต่ไม่ได้รับการดูแล) ที่ประสบอุบัติเหตุ ถูกทำร้ายหรือเจ็บป่วย ถ้าดูอาการแล้วคิดว่าต้องนำส่งโรงพยาบาลก็สามารถทำได้ทันที โดยโรงพยาบาลที่จะเอาสุนัขไปรักษาต้องเป็นโรงพยาบาลที่ทางเรากำหนด เพราะเราตรวจสอบแล้วว่าเขายินดีที่จะรักษาสุนัขจรจัดและลดราคาให้เป็นพิเศษ และคนที่พาสุนัขไปต้องเป็นเจ้าของไข้ เมื่อนำสุนัขเข้ารับการรักษาแล้วก็ให้มาโพสต์ในกระทู้เพื่อให้ทุกคนทราบ พอทางเราเห็นกระทู้ก็จะติดต่อกับเจ้าของกระทู้โดยตรงเพื่อขอรายละเอียดและใบเสร็จยืนยันการรักษา จากนั้นทางบัญชีเงินฉุกเฉินจะเป็นผู้ออกค่ารักษาให้จนกว่าสุนัขจะหายเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต”

“แว่น” เป็นหมาตัวหนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือจากบัญชีเงินฉุกเฉิน มันเคยเป็นหมามีเจ้าของแต่ก็เหมือนไม่มี เพราะเจ้าของไม่เคยใส่ใจในชีวิตของมันเลย แว่นพิการเพราะถูกรถไฟทับขาข้างหนึ่งจึงต้องลากขาอีกข้างเพื่อพยุงตัวทำให้ขาเสียทั้งสองข้าง คุณส้ม (I_rOk_JiD) เป็นผู้พบมันและเข้ามาโพสต์ขอความช่วยเหลือ ทางบัญชีเงินฉุกเฉินจึงเข้าไปช่วยเรื่องค่ารักษาทั้งหมด หมอตรวจพบว่าแว่นเป็นโรคแทรกซ้อนหลายโรค ต้องใช้เวลาถึง ๓ เดือนเพื่อรักษาให้ร่างกายแข็งแรงก่อนจึงจะผ่าตัดได้ คุณส้มเป็นผู้ดูแลแว่นและคอยมาโพสต์ให้เพื่อน ๆ ในเว็บทราบความคืบหน้าเรื่องการรักษาอยู่เป็นประจำ โดยระหว่างนั้นก็มีชาวเว็บอีกหลายคนที่เข้ามาช่วยดูแล ไม่ว่าจะเป็นการขับรถพาแว่นไปหาหมอ ช่วยบริจาคอาหาร ตอนนี้แว่นหายดีแล้ว รอเพียงใส่ล้อ เพราะมันถูกตัดขาทั้งสองข้างรวมทั้งหางด้วย อีกไม่นานแว่นก็จะได้ไปอยู่กับผู้อุปการะคนใหม่ ไม่ต้องมีชีวิตเสมือนสุนัขจรจัดอีกต่อไป


ถึงตรงนี้คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า ในชุมชนออนไลน์ที่หลายคนอาจเคยมองว่าเป็นโลกแห่งความสัมพันธ์อันหวือหวาและฉาบฉวย ยังมีแง่งามให้สัมผัสได้จริง และในวันนี้ เรื่องราวของคนกลุ่มเล็ก ๆ กับหมาจรจัดอย่าง แว่น เซเว่น บีบี้ เป๊ปซี่ รวมถึงหมา-แมวจรจัดอีกหลายสิบหลายร้อยชีวิต ก็น่าจะได้จุดประกายอะไรบางอย่างในใจของใครหลายคนที่เที่ยวท่องอยู่ในโลกไซเบอร์ได้บ้าง ไม่ว่าใครคนนั้นจะสังกัดกลุ่มคนรักสัตว์หรือไม่ก็ตาม…

ร่วมแบ่งปันและเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือได้ที่
www.pantip.com/cafe/jatujak (ห้องสุนัข)
http://dog.bloggang.com (บัญชีเงินฉุกเฉิน)
http://mena.bloggang.com (มีนะ กะ กาโม่)