“จะทำอะไรก็แล้วแต่ เป้าหมายสำคัญที่สุดต้องทำให้ภาคประชาชนเข้มแข็ง ไม่เช่นนั้นประชาธิปไตยอยู่ไม่ได้ ถ้าภาคประชาชนเข้มแข็งเมื่อไหร่ สิ่งที่เราพูดกันปาว ๆ เรื่องการมีส่วนร่วม เรื่องความโปร่งใส เรื่องความรับผิดชอบ มันจะมาเอง แต่ถ้าภาคประชาชนอ่อนแอ ให้พูดแทบตายเขาก็ไม่ฟัง
“การเมืองนั้นต้องเป็นการเมืองภาคประชาชน ไม่ใช่การเมืองของการเลือกตั้ง ไม่ใช่การเมืองของการเป็น สส. สว. อบต. ไม่ใช่การเมืองท้องถิ่น แต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ของชาติว่าอยู่ที่ไหน และทุกคนเป็นเจ้าของทรัพยากรของชาติ เมื่อคุณมีความรู้สึกว่าเป็นเจ้าของทรัพยากรเมื่อไหร่ ความหวงแหนก็จะเกิดขึ้น เมื่อนั้นอำนาจไหนก็ไม่สามารถลบล้างได้”
นายอานันท์ ปันยารชุน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อครั้งไปเยี่ยมชาวบ้านแห่งบ้านป่าพรุที่รักษาป่าชายเลน เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗
บรรยายภาพ
นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะล่องเรือแคนนูดูสภาพพื้นที่ป่าชายเลนจำนวน ๒,๐๐๐ ไร่ ที่ได้รับการฟื้นฟูให้กลับคืนสภาพสมบูรณ์ จากความร่วมมือของชาวบ้านแห่งบ้านท่าพรุและชุมชนบ้านอ่าวท่าเลน ต. เขาทอง อ. เมือง จ. กระบี่ จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ และได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียว ประเภทชุมชนประจำปี ๒๕๔๖