วันชัย ตัน
ภาพประกอบ : DINHIN
แม้จะรู้กันดีว่า บรรดาอาหารฟาสต์ฟูดทั้งหลาย ทั้งแฮมเบอร์เกอร์ ไก่ทอด เฟรนช์ฟราย ฯลฯ ล้วนแต่เป็นสาเหตุของความอ้วน แต่คนจำนวนไม่น้อยกลับยอมอ้วนมากกว่าจะยอมงดอาหารเหล่านี้ ไม่ว่าจะเพราะชอบในรสชาติหรือรักสะดวกก็ตาม โดยเฉพาะในอเมริกาซึ่งมีร้านฟาสต์ฟูดล่อตาล่อใจลูกค้านักกินอยู่ทั่วทุกมุมเมือง
ผลจากการยึดฟาสต์ฟูดเป็นอาหารหลัก ทำให้คนอเมริกันโดยเฉลี่ยมีรูปร่างอ้วนท้วนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ ไปจนถึงคนชรา และรอบเอวของคนอเมริกันที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้เอง ได้ก่อให้เกิดผลกระทบตามมาอย่างคาดไม่ถึงในหลายวงการ
สายการบินหลายแห่งต้องปรับเพิ่มน้ำหนักเฉลี่ยของผู้โดยสารสำหรับการคำนวณน้ำหนักบรรทุกในแต่ละเที่ยวบิน เก้าอี้นั่งภายในรถโดยสาร ในโรงภาพยนตร์ ในร้านอาหารหลายแห่ง ได้รับการออกแบบสำหรับคนอ้วนโดยเฉพาะ เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่กำลังได้รับความสนใจ และร้านขายเสื้อผ้าหลายแห่งก็เริ่มมีเสื้อผ้ารวมถึงชุดชั้นในขนาดซูเปอร์ไซซ์ไว้รองรับลูกค้า
ที่น่าสนใจก็คือ บริษัทรับต่อโลงศพพากันขยายขนาดของโลงกันถ้วนหน้าแล้ว
โกไลแอต แคสเก็ต ในรัฐอินดีแอนา เป็นบริษัทรับต่อโลงศพเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกา รับต่อโลงสำหรับคนอ้วนโดยเฉพาะ เป็นโลงขนาดใหญ่พิเศษที่มีความกว้างถึง ๑๓๒ เซนติเมตร ขณะที่โลงศพทั่วไปกว้าง ๖๑ เซนติเมตร
ที่ผ่านมาโลงไซซ์พิเศษของบริษัทสามารถใส่คนอ้วนได้สบาย แต่มาระยะหลัง ทางบริษัทต้องเพิ่มขนาดของโลงขึ้นเพื่อรองรับขนาดและน้ำหนักตัวของผู้ตายที่เพิ่มขึ้นทุกที
“ย้อนกลับไปยุค ‘๙๐ โลงศพขนาดใหญ่ที่สุดที่เราทำคือขนาดกว้าง ๘๔ เซนติเมตร เราคิดว่านั่นมันก็ใหญ่มากๆ แล้ว แต่มาระยะหลังเราได้รับออร์เดอร์ให้ต่อโลงขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบันคือ ๑๓๒ เซนติเมตร” คีท เดวิด เจ้าของบริษัทกล่าว
ล่าสุดบริษัทต้องต่อโลงศพที่มีความกว้างถึง ๒๑๐ เซนติเมตร ซึ่งถือว่าเป็นโลงศพที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนของชายคนหนึ่งที่เสียชีวิตในอะแลสกา ขณะมีน้ำหนัก ๔๘๐ กิโลกรัม
“ตอนแรกเรานึกว่าโลงศพขนาดเดิมจะใส่ชายผู้นี้ได้ แต่ขาของเขาทำให้ปิดฝาโลงไม่ได้ เราจึงต้องนำร่างเขาไปแช่แข็งไว้ แล้วรีบต่อโลงชนิดจัมโบ้ขึ้นมาอย่างรีบด่วน”
บิดาของเดวิดก่อตั้งบริษัทผลิตโลงศพสำหรับคนอ้วนขึ้นมาเมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว ด้วยเหตุผลว่า อยากผลิตโลงศพสำหรับคนอ้วนที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีตและสวยงาม เพราะสังเกตว่าที่ผ่านมาโลงศพสำหรับคนอ้วนมักจะทำกันขึ้นมาอย่างเร่งรีบ
ปีที่แล้วบริษัทของเขาขายโลงศพได้ ๖๐๐ โลง ขณะที่ทั่วสหรัฐฯ ยอดขายโลงศพสำหรับคนน้ำหนักเกินมาตรฐานจะอยู่ที่วันละ ๒๐๐-๓๐๐ โลง
“เมื่อ ๑๕ ปีก่อน ทั่วประเทศขายได้แค่วันละ ๒-๓ โลงเท่านั้น แสดงว่าคนอ้วนเพิ่มขึ้นมากจริงๆ”
ราคาโลงศพของบริษัทโกไลแอต แคสเก็ต ตกอยู่ในราว ๘๐,๐๐๐-๑๖๐,๐๐๐ บาท หากสั่งทำสีพิเศษหรือมีขนาดใหญ่ขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก ทั้งนี้ทางบริษัทจะจัดส่งให้ถึงบ้านลูกค้าภายใน ๒๔ ชั่วโมง
“ขอบคุณอาหารฟาสต์ฟูดที่ช่วยเพิ่มไขมันและน้ำหนัก หากทุกคนดูแลสุขภาพและควบคุมอาหารจนไม่มีคนอ้วน ผมคงต้องตกงานแน่” เดวิดกล่าวติดตลก