สารคดีผลงานของ มาริลีน อาเกรโล ที่จับภาพชีวิตประจำวันของเด็กๆ วัยเพียง 11 ขวบชั้นประถม 5 เหล่านี้ โรงเรียนเทศบาลนิวยอร์ก ที่ตัดสินใจเดินเข้าสู่โลกของการเต้นรำ และค่อยๆ ค้นพบความสามารถที่เร้นอยู่ในที่สุด เพื่อที่จะเข้าร่วมแข่งขันในการเต้นรำนานาชาติปี ค.ศ.2004 ตัวละครหลักในเรื่องมาจาก 3 โรงเรียนด้วยกัน ได้แก่ โรงเรียนโทนี ทริบีกา, วอชิงตัน ไฮต์, เบนซอนเฮิร์ต ทั้งยังต่างเชื้อชาติ ต่างฐานะ

Mad Hot Ballroom ได้รับแรงบันดาลใจจากบทความของ เอมี สเวลล์ ซึ่งเธอได้คลุกคลีกับสมาคมเต้นรำท้องถิ่นที่มีเด็กๆ มาร่วมกิจกรรมมากมาย (การจัดกิจกรรมเต้นรำของชุมชนได้รับการสนับสนุนโดย สมาคมเต้นรำแห่งอเมริกา (American Ballroom Theatre – AbrT)) เด็กที่เข้ามาเรียน จะต้องศึกษาการเต้นบอลรูมทุกประเภท อันได้แก่ เมอเรนกิว, ฟ็อกซ์ทรอต, รุมบ้า, แทงโก้, สวิง ทั้งแบบเดี่ยวและคู่

ผู้กำกับ มาริลีน อาเกรโล ใช้เวลา 1 ปีเก็บภาพความเป็นไปในสมาคมแห่งนั้น ผู้กำกับภาพ คลอเดีย ราชเก้ จำเป็นต้องผูกกล้องไว้กับเอวของตัวเธอเอง เพราะเป็นระดับที่จับหน้าเด็กๆ ได้พอดี โดย อาเกรโล เล่าว่า เธอเกิดในประเทศคิวบา ตอนยังเด็กเพื่อนๆ ของเธอก็เป็นเด็กโดมินีกันและชนพื้นเมืองต่างๆ แม้ว่าจะไม่ได้เติบโตมาอย่างแร้นแค้นเหมือนพวกเขาก็ตาม จึงมีเจตนาต้องการสื่อสารให้เห็นคนกลุ่มเล็กๆ นี้ในนิวยอร์ก ซึ่งยังมีหน่วยงาน และเด็กเก่งอีกมากที่รอการสนับสนุน

สารคดีเปิดตัวครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์สารคดี สแลมแดนซ์  และ 2 วันต่อมา นิเคลโลเดียน บริษัททำสื่อสำหรับเด็ก และ พาราเมาท์ วินเทจ แผนกหนังอาร์ตของพาราเมาท์ ก็ติดต่อขอซื้อหนังไปจัดจำหน่าย  ก่อนจะติด 1 ใน 10 สารคดียอดเยี่ยมที่สุดในปี 2005 จากหลายสถาบันนักวิจารณ์ รวมถึงได้เข้าชิงและกวาดรางวัลมากว่า 10 สถาบัน  นอกจากนี้ยังกลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Take The Lead ซึ่งนำแสดงโดย แอนโตนิโอ แบนเดอรัส ในปี ค.ศ.2006

  • เรียบเรียงจากข้อมูลภาพยนตร์ของ มงคล เมเจอร์