ที่จะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงบังคับโชคชะตาของเรา
ที่จะเป็นผู้บังคับการต่างๆ ให้เป็นไปตามประสงค์ของเราได้”
กุหลาบ สายประดิษฐ์
นักหนังสือพิมพ์ของประชาชน
วันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๑ ประวัติศาสตร์การเมืองของไทยได้บันทึกเพิ่มขึ้นอีกหน้าหนึ่งเมื่อศาลรัฐธรรมนุญตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน ชาติไทย และมัชฌิมา ในขณะที่ทหารทำการปกป้องศาล แต่ไม่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนที่สุวรรณภูมิและปกป้องระบอบประชาธิปไตย
ไม่ว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะอ้างอารยขัดขืนหรืออ้างเหตุผลใดๆ ในการเคลื่อนไหวก็ตาม แต่ ณ วันนี้ พันธมิตรได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ขึ้นในสังคมไทยเรียบร้อยแล้ว
หนึ่ง ต่อไปนี้หากใครอยากทำม็อบล้มรัฐบาล ก็ให้ผู้มีอิทธิพล (ที่สิ้นคิด) สักคนหนึ่งหนุนหลัง โดยตกลงแลกผลประโยชน์ให้เพียงพอ
สอง ลงทุนทำเคเบิ้ลทีวีสักช่องหนึ่งแล้วใช้ภาษาที่หยาบคายปลุกระดมมวลชนด้วยข้อมูลที่จับแพะชนแกะ หานักพูดสักคนที่มีความน่าเชื่อถือ หาประเด็นประท้วงต่อต้านรัฐบาลไปเรื่อยๆ ถ้าโชคดีเจอประเด็นที่เอามาทะเลาะกับเพื่อนบ้านได้เช่น เขาพระวิหาร ก็นำมาใช้ และไม่ต้องสนใจว่าคนชายแดนจะตายไปสักกี่คน เพราะพวกนั้นโง่เองที่เลือก ส.ส. ที่ตนเองไม่ถูกใจเข้าสภา
สาม หาแนวร่วมจากพวกที่ไม่ลงรอยกับรัฐบาลอาทิ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจซึ่งพร้อมเสมอที่จะเข้าร่วมขบวนการต่อต้านรัฐบาลใดๆ ก็ได้โดยละทิ้งอุดมการณ์ของตนเองและองค์กรมาเป็นพวกเอาไว้ “จับประชาชนเป็นตัวประกัน” ด้วยการขู่ตัดน้ำตัดไฟ
สี่ จัดตั้งกองกำลังป้องกันตนเองพร้อมอาวุธครบมือ จัดตั้งบังเกอร์โดยรอบสถานที่ชุมนุม และทำรายเจ้าหน้าที่และคนแปลกปลอมได้อย่างเต็มที่ ภายใต้สโลแกนสันติ อหิงสา (แต่ใครยิงมา ยิงสวน ! ) และถ้าเจ้าหน้าที่ทำร้ายเราก็ร้องตะโกนว่า “ตำรวจฆ่าประชาชน” ส่วนคนของตนเองนั้นมีค่าเป็นหมาก มีหน้าที่ตอบรับแนวทางการเคลื่อนขบวนของแกนนำแค่การเขย่ามือตบเท่านั้น และมีหน้าที่ปกป้องแกนนำและตายเพื่อเป็น “วีรชน” โดยที่แกนนำยังอยู่รอดปลอดภัย
การ์ดพันมิตรทำร้ายชายต้องสงสัยโดยไม่นำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ห้า ป่วนเมืองโดยปิดถนน จอดรถยนต์ทิ้งไว้ตามสี่แยก ปิดสนามบิน บังคับให้รัฐบาลสลายการชุมนุม
หก ทุกการกระทำทำภายใต้ข้ออ้างครอบจักรวาลคือต่อต้านผีที่ชื่อ “ทักษิณ” และ “กู้ชาติ” ใครเดือดร้อนนิดหน่อยก็ช่างมัน
เจ็ด คนที่เห็นต่างไม่ใช่พวกตนและเป็นคนที่หลงผิด
แปด เชื่อฟังคำสั่งศาลเฉพาะที่เป็นประโยชน์กับพวกตนเท่านั้น ส่วนอีกฝ่ายต้องเชื่อฟังคำสั่งศาลทั้งที่มีผลดีและผลร้าย
ในประวัติศาสตร์โลก รัฐบาลที่เกิดจากกลุ่มมวลชนที่คุ้มคลั่งเช่นนี้ อาทิ รัฐบาลนาซีเยอรมัน ล้วนมีจุดจบอย่างไรเราก็รู้กันอยู่ และคนที่อยู่เบื้องหลังจะมีสภาพเช่นไรประวัติศาสตร์ก็บันทึกเอาไว้อยู่
นี่คือ “สันติ อหิงสา” ของพันธมิตร
นายสนธิ ลิ้มทองกุล อ้างหลายครั้งบนเวทีพันธมิตรว่าตนเองเรียนประวัติศาสตร์ จบประวัติศาสตร์
แต่นายสนธิและสปอนเซอร์ คงลืมไปว่ากงล้อประวัติศาสตร์จะหมุนบดขยี้คนที่ฝืนกระแสประชาชนส่วนใหญ่ ฝืนกระแสธารประวัติศาสตร์ ไม่ปรับตัวตามประวัติศาสตร์ ทำลายหลักการของความถูกต้องจนสิ้นซากหลังจากหลงระเริงกับชัยชนะ
อยู่ที่ว่าเมื่อใดเท่านั้น
และเมื่อถึงเวลานั้นอำนาจของ “ประชาชน” จะกลับคืนมา
กลับคืนมาในรูปแบบที่ผู้ที่เข้าร่วมและหนุนหลังพันธมิตรอาจคาดไม่ถึง
Thank you for this article. I agree with you. It’s true always. Your blog will be referred.
รอวันกงล้อประวัติศาสตร์เวียนมาขยี้คนที่ทำความเสียหายแก่เศรษฐกิจของไทย