• นม เป็นแหล่ง โปรตีน คุณภาพดี อาการแพ้โปรตีน พบเพียงร้อยละ ๑ ในเด็ก อายุ ไม่เกิน สองปี เท่านั้น
• นม มีอัตราส่วน- แคลเซียม ที่เหมาะสม ช่วยลดภาวะ โรคกระดูกพรุน
• นม มีไขมัน เพียงเล็กน้อย จึงไม่ใช่ สาเหตุ ของ โรคมะเร็ง- โดยตรง
• ร่างกาย นำ แคลเซียม จากนม ไปใช้ ได้ดีกว่า แคลเซียมจาก แหล่งอาหารอื่น

คำขวัญนี้ คุ้นหูคนไทยมานาน นับจากที่ รัฐบาล เริ่มต้นรณรงค์ ให้คนไทย ดื่มนม เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๘ หรือเมื่อ ๑๔ ปีก่อน มาจนถึงวันนี้ คนไทย ดื่มนม มากขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมคนละ ๒ ลิตรต่อปี เพิ่มเป็นคนละ ๑๕ ลิตรต่อปี ล่าสุด แผนโภชนาการแห่งชาติ ระบุว่า เมื่อถึงสิ้นปี ๒๕๔๔ คนไทย ควรดื่มนมคนละ ๒๔ ลิตรต่อคนต่อปี เหตุที่รัฐบาล รณรงค์ ให้คนไทย ดื่มนม ก็เพราะเล็งเห็นว่า นมเป็นแหล่งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ ที่สำคัญ เด็กไทยจำนวนมาก ขาดสารอาหาร เหล่านี้ นม จึงเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับคนไทย
.ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ นม กลับถูกมองว่าเป็น "ศัตรูสุขภาพ" ของคนไทย นักธรรมชาติบำบัด นักแม็กโครไบโอติกส์ นักมังสวิรัติ นายแพทย์ และนักโภชนาการบางท่าน ให้ความเห็นว่า นม เป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะ โรคที่มีความสัมพันธ์กับ ไขมันในเลือดสูง อย่างโรคหัวใจ โรคอ้วน และโรคมะเร็ง อันเป็นโรคอันดับต้น ๆ ที่คร่าชีวิต คนไทย ยุคปัจจุบัน
นอกจากนี้ งานวิจัยบางชิ้น ก็ชี้ว่า สารอาหารในนม เป็นสาเหตุของ โรคไม่พึงปรารถนา อีกหลายโรค อาทิ โปรตีน เป็นสาเหตุของ โรคภูมิแพ้ ปริมาณ แคลเซียมต่อฟอสฟอรัส ที่ไม่สมดุล เป็นสาเหตุของ โรคกระดูกพรุน รวมทั้ง ขั้นตอนการเลี้ยง โคนม ที่ไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิด สารตกค้างในน้ำนม นม จึงกลายเป็นอาหาร ที่หลายคนปฏิเสธ
ดื่มนมมีคุณ หรือดื่มนมมีโทษกันแน่ จึงเป็นประเด็น ที่ผู้บริโภค ยังกังขา และต้องการ ข้อมูล ข่าวสาร เพื่อใช้พิจารณา ก่อนตัดสินใจ ดื่มนม

อ่านต่อ คลิกที่นี่

นพ. บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล
นายแพทย์ และนักธรรมชาติบำบัด

• ไขมันในนม เพิ่ม ความเสี่ยง ต่อ โรคอ้วน โรคหัวใจ- หลอดเลือด และโรคมะเร็ง
• โปรตีนในนม เพิ่ม ความเสี่ยง ต่อ โรคภูมิแพ้
• นม ก่อให้เกิด ภาวะ โปรตีน ล้นเกิน และมี อัตราส่วน แคลเซียม ไม่สมดุล จึง เพิ่ม ความเสี่ยง ต่อ โรคกระดูกผุ
• อาหารพื้นบ้าน ของไทย มีแคลเซียม มากกว่านมวัว