Home

 
 


นายรอบรู้ชวนเที่ยว.. สนุกสุดสัปดาห์ในป่าแก่งกระจาน

สุดสัปดาห์นี้ หากคุณยังไม่มีโปรแกรมไปพักผ่อนที่ไหน ก็อยากชวนไปเที่ยวป่าด้วยกัน คราวนี้เปลี่ยนบรรยากาศไปพักแรมกลางป่ากันบ้าง อย่าเพิ่งส่ายหน้า ป่าแห่งนี้ไม่ลำบากอย่างที่คิด แถมยังอยู่ใกล้แค่ จ. เพชรบุรีนี่เอง ก็ป่าแก่งกระจานต้นน้ำเพชรไง ขับรถแค่สองชั่วโมงกว่าก็ได้เพลิดเพลินในป่าที่เต็มไปด้วยนกและผีเสื้อ ได้ฟังเสียงชะนีกู่ร้องยามเช้า และยังมีทะเลหมอกให้ชมอีกด้วย ชักอยากไปแล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นหยิบเต็นท์และอุปกรณ์แคมปิ้งออกมาเตรียมได้เลย

แผนที่ "แก่นกระจาน" (คลิกดูภาพใหญ่)
ก่อนไป มาดูรายละเอียดของพื้นที่กันหน่อย ป่าแก่งกระจานนับว่าเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย จึงได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๔ โดยมีอาณาเขตกว้างใหญ่ถึง ๑,๘๒๑,๘๗๕ ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ด้านตะวันตกสุดขนานไปตามชายแดนไทย-พม่าในเขต อ. หนองหญ้าปล้อง อ. เขาย้อย อ. แก่งกระจาน จ. เพชรบุรี และ อ. หัวหิน จ. ประจวบคีรีขันธ์ ภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อนตามแนวเทือกเขาตะนาวศรี ส่วนใหญ่ปกคลุมไปด้วยป่าดงดิบ มีทั้งป่าดงดิบแล้ง ป่าดงดิบชื้น และป่าดงดิบเขา เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรี ภายในผืนป่าแก่งกระจานยังชุกชุมไปด้วยสัตว์ป่า เช่น ช้างป่า กระทิง เสือดาว หมีควาย ชะนี ค่าง ฯลฯ และพบสัตว์ป่าสงวนถึงสี่ชนิด คือ เลียงผา สมเสร็จ แมวลายหินอ่อน และเก้งหม้อ ที่นี่ยังเป็นถิ่นอาศัยของนกป่าถึง ๔๑๓ ชนิด นับว่ามากที่สุดในประเทศไทย จึงเป็นแหล่งดูนกยอดนิยมแห่งหนึ่ง ขณะเดียวกันก็มีผู้เดินทางมาดูผีเสื้อที่นี่เป็นประจำเช่นกัน
ป่ากลางสายหมอกยามเช้า (คลิกดูภาพใหญ่)ดูนกในป่า (คลิกดูภาพใหญ่)พักแรมที่แคมป์บ้านกร่าง (คลิกดูภาพใหญ่)
เห็นข้อมูลแบบนี้ ใครจะไม่อยากไปเที่ยว การเดินทางไป อช. แก่งกระจานก็สะดวกมาก จากกรุงเทพฯ มาตาม ถ. พระราม ๒ (ทางหลวงหมายเลข ๓๕) แล้วมาเลี้ยวเข้าสู่ ถ. เพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข ๔ ) ที่แยกวังมะนาว ผ่านตัวเมืองเพชรบุรี พอถึงสี่แยกท่ายาง ก็เลี้ยวเข้าไปที่ตลาดท่ายาง แวะซื้ออาหารเตรียมเป็นเสบียงเสียก่อน แล้วจึงขับรถต่อไปตามถนนเลียบคลองชลประทาน (ทางหลวงหมายเลข ๓๔๙๙) ประมาณ ๘ กม. พอถึงสามแยกตรงโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี ให้ไปตามทางอีกประมาณ ๒๖ กม. พอถึงตัวอำเภอแก่งกระจาน ก็เลาะอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจานไปอีก ๔ กม. จึงถึงที่ทำการฯ 
ออกจากกรุงเทพฯ สายๆ จะได้มากินอาหารกลางวันที่แก่งกระจาน อย่าลืมสั่งปลาจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจานมาชิม ปลานิลทอดกรอบของที่นี่ตัวใหญ่อร่อยนัก อิ่มท้องแล้วก็ไปติดต่อขอใบอนุญาตผ่านทางพร้อมเสียค่าธรรมเนียมที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เส้นทางเข้าสู่ป่าค่อนข้างแคบ บางช่วงรถวิ่งสวนกันลำบาก ช่วงขึ้นเขายังชันอีกด้วย ทาง อช. แก่งกระจานจึงกำหนดให้รถยนต์เข้าสู่ป่าแก่งกระจานตามเวลา ดังนี้
เวลาขึ้น (จากศูนย์บริการฯ) ช่วงเช้า ๐๕.๐๐-๐๙.๓๐ น. ช่วงบ่าย ๑๔.๓๐-๑๕.๐๐ น.
เวลาลง (จากหน่วยฯ พะเนินทุ่ง) ช่วงเช้า ๑๒.๐๐-๑๓.๐๐ น. ช่วงบ่าย ๑๖.๓๐-๑๘.๐๐ น.
นกหัวขวานสี่นิ้วหลังทอง (คลิกดูภาพใหญ่)นกปลีกล้วยลาย (คลิกดูภาพใหญ่)
รอจนได้เวลาก็ออกเดินทางต่อ มุ่งหน้าไปยังด่านสามยอด แล้วขับรถไปตามเส้นทางวังวน-พะเนินทุ่ง ระยะทาง ๓๖ กม. ช่วงแรกเป็นทางลาดยางประมาณ ๑๐ กม. ต่อด้วยทางลูกรัง จนไปถึง กม. ๑๕ เป็นที่ตั้งของหน่วยฯ กจ. ๔ (บ้านกร่าง) และมีจุดพักแรมอยู่ทางซ้ายมือ เรียกว่า แคมป์บ้านกร่าง เป็นลานกว้างใต้ร่มไม้ ติดกับลำห้วยที่มีน้ำตลอดปี สามารถใช้หุงต้มอาหารและอาบน้ำได้ ส่วนห้องน้ำมีแยกต่างหาก แคมป์บ้านกร่างนับว่าเป็นจุดพักแรมที่สะดวกมาก และยังได้บรรยากาศของการแคมปิ้งกลางป่าใหญ่อย่างแท้จริง
หลังจากกางเต็นท์และเตรียมสัมภาระเรียบร้อยแล้วก็ออกไปเที่ยวป่ากันได้เลย เดินชมธรรมชาติไปตามถนนจนถึงเชิงเขาตรง กม. ๑๘ นั่นแหละ อย่าลืมหยิบกล้องส่องทางไกลคล้องคอไปด้วย ทางช่วงนี้เหมาะสำหรับดูนกและชมผีเสื้อ นกที่น่าสนใจก็มี พวกนกพญาปากกว้าง นกปรอด นกบั้งรอก นกหัวขวาน และนกแต้วแล้ว เดินดูนกริมทางไปเรื่อย ๆ พร้อมกับมองหาผีเสื้อไปพร้อมกัน ตามดอกไม้ป่าริมทางมีผีเสื้อกะลาสีธรรมดา ผีเสื้อสีตาลจุดตาห้า ผีเสื้อช่างร่อน ถ้ามีแอ่งน้ำบนถนนจะมีผีเสื้อไปรวมกันอยู่จำนวนมาก เช่น ผีเสื้อสะพายฟ้า ผีเสื้อหนอนจำปีจุดแยก ผีเสื้อวาวสีต่างฤดู และตามกองมูลสัตว์ มักพบผีเสื้อเหลืองหนามธรรมดา ผีเสื้อตาลหนามใหญ่ ส่วนผีเสื้อหางติ่งปารีสที่มีสีเหลือบเขียวสวยชอบอยู่ตามที่ชื้นริมห้วย
เพลิดเพลินกับนกและผีเสื้อจนเย็นค่อยกลับมาที่แคมป์ อาบน้ำอาบท่าในลำห้วย แล้วขึ้นมาเตรียมอาหารเย็น ไม่ต้องรีบเร่ง ใครขยันก็ปรุงอาหารเอง ถ้าชอบสะดวกก็ต้องเครื่องกระป๋อง นาน ๆ จะได้กินข้าวกลางป่าเสียที อิ่มอร่อยท่ามกลางแสงตะเกียง โดยมีเสียงจักจั่นและนกกลางคืนขับกล่อม ชีวิตในราวไพรคืนนี้ช่างสุขนัก
ผีเสื้อหางติ่งปารีส (คลิกดูภาพใหญ่)ผีเสื้อหางมังกรเขียว (คลิกดูภาพใหญ่)
เสียงนกนานาชนิดร้องปลุกกันเซ็งแซ่ตั้งแต่ย่ำรุ่ง ตามมาด้วยเสียงกู่ร้องของชะนี อย่ามัวอ้อยอิ่งอยู่ในเต็นท์ รีบออกมาสัมผัสกับความสดชื่นของธรรมชาติยามเช้าดีกว่า ล้างหน้าล้างตาหากาแฟดื่มรองท้อง แล้วขึ้นรถไปเที่ยวกันต่อ เช้านี้มีโปรแกรมชมทะเลหมอกรออยู่ที่ กม. ๓๖ ขับรถขึ้นเขา ผ่านด่านตรวจของหน่วยฯ พะเนินทุ่งไปจนสุดถนน จะพบกับทะเลหมอกสีขาวปกคลุมทุ่วหุบเขา อช. แก่งกระจานเป็นพื้นที่เพียงแห่งเดียวในภาคกลางที่สามารถชมทะเลหมอกได้เกือบตลอดทั้งปี สายหมอกปกคลุมแน่นทึบเป็นบริเวณกว้างตั้งแต่เช้าตรู่ จนสายเมื่อทะเลหมอกสลายตัวไปแล้ว จะเผยให้เห็นความสมบูรณ์ของผืนป่าดงดิบ ที่เบียดแน่นทึบ และทอดตัวไปตามเทือกเขาสลับซับซ้อน กว้างไกลสุดสายตา ถ้าโชคดีอาจได้เห็นนกกกและนกเงือกกรามช้างบินผ่านเหนือผืนป่าไปช้า ๆ
ตรงสุดถนนมีทางเดินลงไปสู่น้ำตกทอทิพย์และต้นน้ำเพชรบุรี ระยะทางประมาณ ๔ กม. เป็นทางดิ่งลงเขาชันมาก ขาลงสบายหน่อย แต่เดินขึ้นเหนื่อยมาก ไว้คราวหน้าฟิตร่างกายมาให้ดี ค่อยหาโอกาสไปเที่ยวชม ตอนนี้กลับไปตั้งหลักที่ด่านพะเนินทุ่งก่อน ยังมีเวลาเหลือเฟือสำหรับดูนก ป่าบริเวณนี้เป็นถิ่นอาศัยของนกบนที่สูง เช่น นกเสือแมลงหัวขาว นกปรอดหัวตาขาว นกเสือแมลงปีกแดง นกกะลิงเขียดสีเทา ฯลฯ รวมทั้งนกกะลิงเขียดหางหนามที่พบเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ป่าแก่งกระจานนี่เอง
พอได้เวลาด่านเปิดตอนเที่ยงก็ลงจากเขาพะเนินทุ่ง แวะเก็บสัมภาระที่แคมป์บ้านกร่าง แล้วกลับออกไปยังศูนย์บริการฯ กินอาหารกลางวันส่งท้ายอีกครั้ง ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ อ้อ ! มาเมืองเพชรทั้งที อย่าลืมแวะซื้อขนมหม้อแกงกลับบ้าน เขาว่าอร่อยที่สุดในโลกเชียวนา
Home