home
Contact Uscontact@sarakadee.com
สาระเพื่อนักเดินทาง และการท่องเที่ยว อย่างเข้าใจและรอบรู้
www.Thaitraveler.com
เที่ยวทั้วไทยกับ "นายรอบรู้" เดือนมีนาคม

นายรอบรู้ชวนเที่ยว.. ตากอากาศ บนเกาะสีชัง

สายลมร้อนที่โชยแผ่วเข้ามาในช่วงเดือนนี้ เป็นสัญญาณเตือนว่าหน้าร้อนกำลังมาเยือน ต้นฤดูอย่างนี้ใครๆ ก็อยากไปเที่ยวพักผ่อนแถบชายทะเล บ้างไปไกลจนสุดทะเลอันดามัน แต่ "นายรอบรู้" ขอชวนไปเที่ยวตากอากาศที่ "เกาะสีชัง" กันดีกว่า
วัยรุ่นสมัยนี้อาจไม่รู้ว่าเกาะสีชังอยู่ที่ไหน แต่ถ้าเป็นคนที่มีอายุหน่อยและเคยเป็นนักเที่ยวย่อมรู้ว่า เกาะนี้อยู่ใน จ. ชลบุรี เป็นเกาะที่เคยนิยมกันมากในสมัยก่อน ก่อนที่หาดพัทยาจะมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเสียอีก ด้วยระยะทางไม่ถึงร้อยกิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียงชั่วโมงกว่า ๆ ก็สามารถไปถึงตัวตลาด อ. ศรีราชาได้อย่างสบาย ๆ แล้วขึ้นเรือโดยสารไปอีกไม่ถึงชั่วโมง ก็จะมองเห็นพระเหลือง พระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่บนเกาะได้แต่ไกลก่อนเรือเทียบท่า 
แผนที่ (คลิกดูภาพใหญ่)
สมัยก่อนสีชังได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่มีอากาศดี ช่วยให้ผู้คนบนเกาะมีอายุยืนยาว และเชื่อกันว่าอากาศบริสุทธิ์ จะช่วยให้คนมีสุขภาพดี ผู้ที่ป่วยอยู่ก็จะทุเลาความเจ็บป่วยลงได้ สีชังจึงกลายเป็นที่นิยมมาพักผ่อน โดยเฉพาะในปี ๒๔๓๑ สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงสร้างพระตำหนักขึ้นสามหลัง เพื่อใช้เป็นที่พักฟื้นของผู้ป่วย นามว่า "ตึกวัฒนา" "ตึกผ่องศรี" และ "ตึกอภิรมย์" ทั้งในปี ๒๔๓๔ ยังได้เสด็จมาประทับเพื่ออภิบาลสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ อยู่เป็นแรมปี 
ต่อมาในปี ๒๔๓๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชฐานเพื่อเป็นที่ประทับในฤดูร้อน พระราชทานนามว่า "จุฑาธุชราชฐาน" ตามพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก พระราชโอรสซึ่งประสูติ ณ เกาะสีชัง เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ในปีเดียวกันนั้นเอง
นี่เป็นจุดเริ่มต้นของความเจริญ และสิ่งอำนวยความสะดวก ที่เข้ามาสู่เกาะสีชัง มีทั้งท่าเทียบเรือ บ่อน้ำจืด ที่ทำการไปรษณีย์ มีการแบ่งเป็นเขตพระราชฐาน เขตราษฎรชาวเกาะ และเขตพักผ่อนตากอากาศของบุคคลภายนอก สีชังกลายเป็นแหล่งตากอากาศชายทะเลแห่งแรกของประเทศที่สะดวกสบาย มีสิ่งบริการครบถ้วนทั้งบ้านพัก ภัตตาคาร รวมทั้งบริการเรือกลไฟรับส่งกรุงเทพ-เกาะสีชัง
อย่างไรก็ตามการสร้างพระราชวังมิได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ กำลังทหารฝรั่งเศสขึ้นมายึดเกาะ หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นไปแล้ว ไม่ปรากฏว่าได้เสด็จพระราชดำเนินประทับแรมบนเกาะอีก และในปี ๒๔๔๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รื้อพระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ พระที่นั่งองค์ใหญ่มาสร้างที่พระราชวังสวนดุสิต ซึ่งก็คือพระที่นั่งวิมานเมฆในปัจจุบัน
(คลิกดูภาพใหญ่)ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ อยู่บนเนินเขาคยาศิระ (คลิกดูภาพใหญ่)
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมหมู่พระที่นั่งและพระตำหนักหลายหลัง ได้ที่บริเวณเนินเขาจุลจอมเกล้า ท่ามกลางหมู่ต้นลั่นทมที่ออกดอกส่งกลิ่นหอมเย็นได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยรถ สกายแลป รถสามล้อติดเครื่องยนต์ ทั้งยังสามารถเหมาพาไปชมสถานที่อื่น ๆ ได้อีก
ชมพระราชฐานเสร็จแล้วควรไปสักการะ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เดิมเป็นศาลที่ภายในมีช่องหินแคบ ๆ เมื่อมีคนไปสักการบูชามากขึ้นจึงสร้างเป็นศาลลักษณะทรงวิหารจีน ภายในมีเจ้าพ่อเห้งเจีย ศาลเจ้าแม่กวนอิม วิหารพระสังกัจจายน์ ฯลฯ เชื่อกันว่าใครได้มาไหว้ติดต่อกันครบสามครั้งภายในสามปีจะร่ำรวย คนไทยเชื้อสายจีนนิยมไปบูชากันโดยเฉพาะในช่วงตรุษจีน
จากนั้นเดินขึ้นยอดเขาไปนมัสการ รอยพระพุทธบาท ซึ่งจำลองจากรอยพระพุทธบาทที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อปี ๕๐๐ มีความยาวศอกเศษ ทำจากหินขวาน สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงนำมาจากวัดพุทธคยา ประเทศอินเดีย แล้วอัญเชิญไปประดิษฐานไว้บนยอดเขา นอกจากนี้ยังมีพระบรมสารีริกธาตุให้สักการบูชา
บนยอดเขานี้มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นตัวเกาะสีชังได้ทั้งเกาะ รวมทั้งเกาะขามใหญ่และทิวทัศน์ของทะเลโดยรอบ ทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามที่สุด
ลงจากยอดเขากันแล้วลงไปเที่ยวชม ช่องเขาขาด และ หาดหินกลม กันต่อ ชาวเกาะสีชังนิยมเรียกบริเวณนี้ว่า "หลังเกาะ" มีลักษณะเป็นช่องเขาที่ขาดออกจากกัน บริเวณหาดมีหินก้อนกลม ซึ่งเกิดจากกระแสลมที่พัดก้อนหินกลิ้งไปมาจนกลมเกลี้ยง ในช่วงที่เกิด "ลมนอก" ลมที่พัดจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก ในช่วงเดือนมีนาคมถึงกันยายนของทุกปี บริเวณนี้ยังมีพลับพลาของรัชกาลที่ ๕ ซึ่งพระองค์ทรงใช้เป็นหอสำหรับดูดาว ถ้าอยากเล่นน้ำทะเล หรือเตรียมตัวมาพักค้างแรมโดยเอาเต็นท์มากางด้วย ควรไปพักที่ หาดถ้ำพัง โค้งหาดยาวเหยียดเป็นรูปวงพระจันทร์ หาดทรายขาว และคลื่นลมแรง ทำให้ได้บรรยากาศของพักผ่อนตากอากาศได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีร้านอาหารหลายร้านให้บริการ ตอนเหนือของหาดเป็นแหลมชื่อว่า แหลมถ้ำพัง เหมาะสำหรับชมสีสันของท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ตก 
แล้วฤดูร้อนนี้อย่าพลาดไปเพิ่มเติมประสบการณ์น่าประทับใจกันที่ เกาะสีชัง 
หาดทรายขาว และน้ำทะเลสีคราม ที่หาดถ้ำพัง (คลิกดูภาพใหญ่)พระเหลือง พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่มองเห็นได้แต่ไกลจากในเรือ (คลิกดูภาพใหญ่)ตึกวัฒนา ในจุฑาธุชพระราชฐาน (คลิกดูภาพใหญ่)
ค่าเรือโดยสาร ๒๐ บาท ใช้เวลาประมาณ ๔๐-๔๕ นาที
จากศรีราชา ขึ้นที่ท่าจรินทร์ ภายใน ซ. เจิมจอมพล ๑๔ เรือออกทุกชั่วโมง ตั้งแต่ ๐๗.๐๐-๒๐.๐๐ น.
จากเกาะสีชัง ขึ้นที่ท่าบน (ท่าภานุรังษี) จะสะดวกกว่าท่าล่าง (ท่าเทววงศ์) เรือออกทุกชั่วโมง ตั้งแต่ ๐๖.๐๐-๒๐.๐๐ น.
ค่าโดยสารรถสกายแลป เที่ยวครึ่งรอบเกาะเล็ก ๑๕๐ บาท (ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่, ช่องเขาขาด และจุฑาธุชพระราชฐาน) ทั่วเกาะรอบใหญ่ เพิ่มหาดถ้ำพัง ๒๕๐ บาท 
หาดถ้ำพัง กางเต็นท์ไม่เสียค่าใช้จ่าย เสียเพียงค่าอาบน้ำจืดและเข้าห้องน้ำ
Home