Contact Us
สาระเพื่อนักเดินทาง และการท่องเที่ยว อย่างเข้าใจและรอบรู้
www.Thaitraveler.com
ไปขึ้นเขาพระสุเมรุที่วัดสุทัศน์
วันแม่ปีนี้ คุณมีโปรแกรมพิเศษสำหรับท่านแล้วหรือยัง? ถ้ายังลังเลหรือไม่รู้ว่าจะพาท่านไปไหน "นายรอบรู้" ขอเชิญคุณผู้อ่านพาคุณแม่ไปเที่ยววัดที่ตั้งอยู่ใจกลางพระนครกันดีกว่า ไม่เพียงแต่จะได้ไปกราบพระศรีศากยมุนีแล้ว ยังถือว่าได้ขึ้นเขาพระสุเมรุโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย
ก่อนเข้าวัด "นายรอบรู้" อยากให้คุณผู้อ่านได้รู้มูลเหตุการสร้างวัดแห่งนี้กันเสียก่อน จะได้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น เมื่อได้เข้าไปชมความงดงามภายในวัดแห่งนี้ เมื่อครั้งสร้างกรุงเทพฯ รัชกาลที่ ๑ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดสุทัศน์ฯ ขึ้น ณ ตำแหน่งที่เป็นใจกลางพระนคร ตามคติความเชื่อในไตรภูมิ โดยการจำลองจักรวาลขึ้นในเขตพุทธาวาส อันประกอบด้วย เขาพระสุเมรุอันเป็นแกนกลางของจักรวาล ทะเลสีทันดร เขาสัตบริภัณฑ์ (เขาเจ็ดลูก) ที่อยู่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ ชมพูทวีป
วัดสุทัศนเทพวรารามตั้งอยู่ใกล้กับศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า และโบสถ์พราหมณ์ มีถนนล้อมรอบทั้งสี่ด้านคือ ถ. บำรุงเมือง ถ. ตีทอง ถ. อุณากรรณ และ ซ. สระสรง เป็นวัดที่สร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ กว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ มีสิ่งก่อสร้างสวยงามอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ก็ล่วงเข้ารัชกาลที่ ๓ แล้ว
การเดินทางมายังวัดสุทัศน์ฯ สะดวกมาก เนื่องจากวัดตั้งอยู่กลางเมืองที่มีถนนผ่านหลายเส้นและใกล้สถานที่สำคัญๆ จึงมีที่จอดรถและรถประจำทางผ่านหลายสาย ในสมัยก่อนบริเวณเสาชิงช้าถือว่าเป็นย่านชุมชนที่มีความเจริญเป็นอันดับแรกๆ ของพระนคร เพราะมีถนนอันทันสมัยที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ ๔ คือ ถ. บำรุงเมือง ตัดผ่านและเกิดตึกแถวรุ่นแรกเพื่อให้เช่าทำการค้า ซึ่งในปัจจุบันยังคงเหลือตึกเก่าบางส่วนให้ได้ชมบน ถ. บำรุงเมือง
ทีนี้ก็ถึงเวลาไปขึ้นเขาพระสุเมรุกันแล้ว ทันทีที่เข้าสู่เขตพุทธาวาส สิ่งแรกที่ได้เห็นคือความยิ่งใหญ่ของพระวิหาร มีพระศรีศากยมุนีประดิษฐานอยู่ภายใน ความสูงของพระวิหารนี่เองที่เปรียบดั่งเขาพระสุเมรุ ส่วนระเบียงคดก็คือเขาสัตบริภัณฑ์ และพื้นที่ระหว่างเขากับเขาก็คือทะเลสีทันดรนั่นเอง สำหรับชมพูทวีปเราจะไปชมกันหลังจากลงเขาแล้ว
ต่อไป "นายรอบรู้" จะพาคุณไต่บันไดเพื่อขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาโดยมีวิมานของพระอินทร์อยู่บนสวรรค์ชั้นนี้ด้วย สิ่งที่แสดงถึงการเป็นพระวิมานก็ดูที่หน้าบันประธานของพระวิหาร เป็นซุ้มรูปพระอินทร์ประทับอยู่ในเวชยันตรวิมานประดิษฐานอยู่เหนือช้างเอราวัณ ภายในพระวิหารมีภาพจิตรกรรมที่ผนังทั้งสี่ด้าน เสาทั้งแปดต้น คอสอง เป็นเรื่องโลกสัณฐาน แสดงลักษณะและองค์ประกอบทางกายภาพของจักรวาล ตามแนวคิดศาสนาพุทธนิกายเถรวาท รวมถึงเรื่องนรกสวรรค์และโลกมนุษย์ เรื่องทศชาติ ถ้าอยากรู้ว่าเปรตและนรกเป็นอย่างไร ไปดูได้ที่บริเวณเสาสองต้นด้านหลังสุด ซึ่งมีภาพวาดบนตัวเสาทั้งสี่ด้าน เสาด้านซ้ายเป็นภาพเปรต ส่วนเสาต้นขวาเป็นภาพในนรก
ชมจิตรกรรมกันเรียบร้อยแล้ว อ้อมกลับมาชมความงดงามของพระประธาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ปางมารวิชัย หล่อด้วยโลหะ ตามประวัติกล่าวว่าอัญเชิญมาจากเมืองสุโขทัย โดยล่องมาตามแม่น้ำเจ้าพระยาและมาขึ้นที่ประตูท่าช้างวังหลวง ทว่าองค์พระนั้นใหญ่เกินไปจึงต้องรื้อประตูออก ทำให้ชื่อท่าน้ำตรงนั้นเปลี่ยนเป็นท่าพระตั้งแต่นั้นมา ซึ่งก็คือบริเวณท่าช้างในปัจจุบันนี้เอง เมื่อขึ้นจากท่าน้ำเรียบร้อย รัชกาลที่ ๑ ได้เสด็จพระราชดำเนินตามขบวนแห่ด้วยพระบาทเปล่ามาจนถึง ณ ที่นี่ จากนั้นจึงอัญเชิญพระศรีศากยมุนีขึ้นประดิษฐาน ที่ผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์พระศรีศากยมุนี ยังได้บรรจุพระบรมราชสรีรางคารรัชกาลที่ ๘ ไว้ด้วย นอกจากนี้หากคุณมาในเวลาเที่ยงหรือเย็น จะมีพิธีปฏิบัติธรรมและสวดมนต์ทุกวันภายในพระวิหารอีกด้วย
จากชั้นสวรรค์เราก็จะกลับลงมาสู่โลกมนุษย์ ไปชมพระอุโบสถที่มีขนาดยาวที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระวิหาร และมีส่วนสัมพันธ์กับการก่อสร้างตามคติจักรวาลด้วยเช่นกัน เพราะตำแหน่งของพระอุโบสถ ช่างโบราณกำหนดให้เป็นชมพูทวีป โดยมีพระอาทิตย์และพระจันทร์โคจรรอบเขา ซึ่งแสดงให้เห็นที่หน้าบันของพระอุโบสถนั่นเอง
อิ่มเอมกับความงามและอิ่มบุญกันแล้ว ก็ไปเตรียมอิ่มท้องกันเพิ่มพลังกันได้ ร้านอาหารที่ "นายรอบรู้" จะพาไปชิมนี้ อยู่ที่แพร่งภูธรซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก ที่นั่นมีร้านขึ้นชื่อทำเนียบหลายร้านทีเดียว ทั้งร้านโชติจิตรโภชนา สมองหมู บะหมี่แพร่งภูธร ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายกิมทอง ข้าวเหนียว ก. พานิช ไอศกรีมนัฐพร โภชน์สภาคาร หรือถ้าใกล้กว่านั้นก็ที่ถนนดินสอซึ่งมีอีกหลายร้านให้เลือกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นมิตรโกหย่วน นันฟ้า เทียนซ้ง และมนต์นมสดเจ้าเก่า อิ่มหนำกันแล้วก็กลับบ้านด้วยหัวใจอิ่มเอิบด้วยบุญกุศลกันถ้วนหน้า