home
Contact Uscontact@sarakadee.com
สาระเพื่อนักเดินทาง และการท่องเที่ยว อย่างเข้าใจและรอบรู้
www.Thaitraveler.com
เที่ยวทั้วไทยกับ "นายรอบรู้" เดือนกันยายน

ปฏิทินเทศกาลงานประเพณีเดือน ตุลาคม - พฤษจิกายน

วันที่  ชื่องาน  จังหวัด/สถานที่จัดงาน
๑๖-๒๒ ต.ค. ไหลเรือไฟ นครพนม/ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด
ในลำน้ำโขง
๑๙-๒๕ ต.ค. ชักพระ สุราษฎร์ธานี/ บริเวณเกาะลำพู และ และทอดผ้าป่าประจำปี ริมเขื่อนแม่น้ำตาปี
๒๑-๒๒ ต.ค. ตักบาตรเทโว อุทัยธานี/ วัดสังกัสรัตนคีรี และเขาสะแกกรัง
๒๑-๒๒ ต.ค. บั้งไฟพญานาค หนองคาย/ ลำน้ำโขง และวัดไทย อ.โพนพิชัย
๒๖ ต.ค.-๓ พ.ย. งานนมัสการพระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ/ บริเวณศาลากลางจังหวัด และ และงานกาชาด องค์พระสมุทรเจดีย์

@ พบกันฉบับนี้ "นายรอบรู้" มีข้อคิดขอเขียนตามธรรมเนียม มีบางคนกล่าวไว้ว่า ในการเดินทาง "จุดหมาย" เป็นเพียงความมุ่งมาดปรารถนาลอย ๆ เท่านั้น สิ่งที่นักเดินทางต้องเผชิญอยู่ตลอดเวลาของการเดินทางก็คือ "ระหว่างทาง" นั่นเอง คนเรามักคำนึงถึงแต่จุดหมาย ทั้งที่ในการเดินทาง เราใช้ชีวิตและอยู่กับ "ระหว่าง" ทางมากกว่า "ปลายทาง" เสียอีก ...หรือคุณคิดว่าอย่างไร ? 

@ มีข่าวแจ้งมาว่า ชาวบ้านชุมชนวัดเขาตะเครา หมู่บ้านแสมชาย อ. บ้านแหลม จ. เพชรบุรี ร่วมกันพิทักษ์หิ่งห้อย ให้เป็นจุดขายชูการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ก่อนที่บริษัทนำเที่ยวจะทำระบบนิเวศเสียหาย บริเวณหมู่บ้านแสมชายสมบูรณ์ไปด้วยป่าชายเลนน้ำกร่อย มีหิ่งห้อยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงมีบริษัทนำเที่ยวพานักท่องเที่ยวไปชมหิ่งห้อยคราวละมาก ๆ โดยว่าจ้างชาวบ้านพายเรือพานักท่องเที่ยวไปชมหิ่งห้อง กิจกรรมนี้นอกจากชาวบ้านจะมีรายได้ ไม่เป็นกอบเป็นกำเท่าบริษัทนำเที่ยวแล้ว อาจส่งผลกระทบต่อถิ่นอาศัยของหิ่งห้อยอีกได้ เพราะยังไม่มีการจัดการในเรื่องนี้ นักวิชาการจากกรมป่าไม้จึงได้เดินทางไปให้ความรู้แก่ชาวบ้านถึงที่ 

@ ดร. องุ่น ลิ่ววานิช นักกีฏวิทยาอาวุโส เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่หมู่บ้านแสมชาย ควรจัดการโดยชาวบ้านมากกว่าคนนอกชุมชน แต่ชาวบ้านต้องมีความรู้ทั้งในการจัดการรูปแบบการท่องเที่ยว และสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติของหิ่งห้อยอย่างเป็นระบบเสียก่อน การที่หิ่งห้อยกะพริบแสงนั้นเป็นการหาคู่ผสมพันธุ์ นักท่องเที่ยวจึงไม่ควรรบกวนหิ่งห้อยด้วยการฉายไฟไปที่หิ่งห้อย เขย่ากิ่งไม้ต้นโกงกาง แสม ลำพูที่หิ่งห้อยอาศัยอยู่ หรือแม้กระทั่งการส่งเสียงดัง ไม่ว่าจะเป็นเสียงเรือ เสียงนักท่องเที่ยวที่เข้าไปชมเป็นจำนวนมาก การกระทำดังกล่าว อาจเป็นการรบกวนการผสมพันธุ์ของหิ่งห้อย สิ่งเหล่านี้ชาวบ้านควรแนะนำนักท่องเที่ยว นักวิชาการท่านนี้ฝากเตือนมาก่อนที่จะสายเกินแก้ ไม่เหลือหิ่งห้อยให้ชมอีกต่อไป 

@ ถ้าคุณไปเที่ยวลำปางแล้วหมายใจว่าจะนั่งรถม้าเที่ยวให้ทั่วเมือง เพราะเข้าใจว่าเมืองนี้เขายังใช้รถม้าเป็นพาหนะต่างรถยนต์ ขอบอกไว้ตรงนี้ว่าอย่าได้คิดเชียว เพราะรถม้าในลำปางมีไว้บริการนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักเท่านั้น มิหนำซ้ำยังหาที่ขึ้นรถม้าไม่เจอ นาน ๆ จะโผล่มาให้เห็นสักตัว เทศบาลนครลำปางมีแผนที่จะสร้างสถานีรถม้าขึ้น ที่บริเวณข้างสวนสาธารณเขลางค์นครเป็นสถานีแรก ก่อนจะขยายไปยังสถานีอื่น ๆ ทั่วเมืองลำปาง จะรวบรวมรถม้าที่มีอยู่ถึง ๒๐๐ คัน ให้มารวมกันอยู่ที่นี่ ต่อไปนี้นักท่องเที่ยวก็จะมีจุดขึ้นรถม้าได้อย่างสะดวก แต่สนนราคาจะยังแพงหูฉี่อยู่หรือไม่ "นายรอบรู้" ไม่ได้รับแจ้ง ยังไงก็ฝากผู้รับผิดชอบพิจารณาด้วยก็แล้วกัน 

@ ช่วงนี้ทางจังหวัดสงขลามีข่าวความเคลื่อนไหวหลายอย่าง เทศบาลเมืองสงขลามีโครงการสร้างลิฟต์ขึ้นเขาตังกวน กลางเมืองสงขลาจะแล้วเสร็จในปี ๒๕๔๖ เขาตังกวนเป็นเขาสูงตั้งอยู่กลางเมืองสงขลา บนยอดเขานั้นเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พลับพลาที่ประทับของรัชกาลที่ ๔ นับเป็นสิ่งสำคัญคู่เมืองสงขลามาแสนนาน อีกทั้งข้างบนยอดเขานั้น ยังมีทัศนียภาพที่สวยงาม มองเห็นเมืองสงขลาในความหมาย "เมืองสองทะเล" ทะเลสาบสงขลา ทะเลอ่าวไทย ใครที่จะขึ้นไปบนยอดเขานั้นต้องเดินขึ้นบันไดนานราว ๑ ชั่วโมง แต่ถ้าขึ้นลิฟต์ซึ่งคล้ายกับลิฟท์ในอาคารสูงทั่วไป จะใช้เวลาเพียง ๓ นาทีเท่านั้น ขึ้นได้คราวละ ๒๐ คน "นายรอบรู้" ไม่แน่ใจว่า เบื้องหลังความสะดวกสบายเช่นนี้ต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง 

@ เมื่อหลายสิบปีก่อน คนไทยเคยฮือฮากับสะพานติณสูลานนท์ ที่สร้างข้ามทะเลสาบสงขลา ซึ่งถือเป็นสะพานที่ยาวที่สุดและมีทัศนียภาพสวยงาม บัดนี้การจราจรบนสะพานคับคั่ง ด้วยเหตุนี้ จังหวัดสงขลาจึงสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาแห่งใหม่ขึ้น โดยสร้างคู่ขนานไปกับสะพานติณสูลานนท์ 

@ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ย้ายสำนักงานแล้ว จากอาคารเลอคองคอร์ด ถนนรัชดาภิเษก ไปที่อาคารแห่งใหม่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ สำนักงานแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ช่วงสี่แยกมักกะสันกับสี่แยกอโศก ไปไม่ถูก โทร. ๐-๒๒๕๐-๕๕๐๐ (๑๕๐ คู่สาย) หรือโทรสาร ๐-๒๒๕๐-๕๕๑๑-๒ 

@ นับวันการท่องเที่ยวยิ่งเข้ามามีบทบาทในสังคมวัฒนธรรมของเรามากขึ้น ก่อนจากกันฉบับนี้ "นายรอบรู้’’" จึงขอนำแนวคิดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักประวัติศาสตร์เลื่องชื่อของเมืองไทย มาเสนอไว้ ณ ที่นี้ ให้เราในฐานะส่วนหนึ่งของผลิตผลของการท่องเที่ยวได้พินิจพิเคราะห์กัน 

@ "...นักท่องเที่ยวเป็นคนที่มีส่วนเกินทางเศรษฐกิจ มีวัตถุประสงค์ไปเสพ ไปบริโภค โดยไม่คำนึงถึงด้านลบที่จะตามมาหลายปะการ เช่น การค้าประเวณีของเด็กชายหญิง ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการท่องเที่ยวไปแล้ว วัฒนธรรมชุมชนได้รับผลกระทบ คนในท้องถิ่นสูญเสียพื้นที่การพักผ่อน ทำลายความสงบของชุมชน คนท้องถิ่นเลียนแบบการใช้ชีวิตที่หรูหรา ฟุ่มเฟือย ตามแบบอย่างที่เห็นจากนักท่องเที่ยว สร้างทัศนคติการรับใช้เยี่ยงทาส ในระดับลูกจ้างของธุรกิจท่องเที่ยว โดยปราศจากความเคารพวัฒนธรรม และศักดิ์ศรีของตน" 

@ ขณะนี้สังคมกำลังเรียกร้องให้คนกลุ่มนี้ มีการท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อมกับชุมชน และท้องถิ่นมากขึ้น ในความหมายที่เป็นการอนุรักษ์อย่างแท้จริง มิใช่การแสวงหาความแปลกใหม่ภายใต้ชื่อ "นักท่องเที่ยวเชิงนิเวศ" หรือ "นักท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม" 

@ แล้วพบกันในโอกาสต่อไป @
Home