home
Contact Uscontact@sarakadee.com
สาระเพื่อนักเดินทาง และการท่องเที่ยว อย่างเข้าใจและรอบรู้
www.Thaitraveler.com
เที่ยวทั้วไทยกับ "นายรอบรู้" เดือนมิถุนายน

รู้หรือ (ไม่) รู้

ชายคามีไม้ค้ำยัน ชื่อ คันทวย

คันทวยสมัยอยุธยาที่มีลักษณะอ่อนช้อย แทบไม่ได้ทำหน้าที่รับน้ำหนักชายคา หากทำเพียงเพื่อประดับอาคารให้สวยงาม  (คลิกดูภาพใหญ่)คันทวยสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ที่หอไตร วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ มีลักษณะขึงขัง เข้มแข็ง (คลิกดูภาพใหญ่)คันทวยวัดต้นเกว๋น อ. หางดง จ. เชียงใหม่ แกะสลักเป็นรูปกินรี (คลิกดูภาพใหญ่)
ชักชวนดูหน้าบันกันไปฉบับที่แล้ว คราวนี้มาชมคันทวย ซึ่งอธิบายง่ายๆ ก็คือ ไม้ค้ำยันชายคานั่นเอง แต่มักเรียกเฉพาะที่ใช้ค้ำยันโบสถ์หรือวิหาร นิยมแกะสลักลวดลายประกอบให้สวยงาม
คันทวยโดยทั่วไปสามารถแบ่งออกได้เป็นสามส่วนคือ ส่วนหัว เป็นส่วนที่อยู่ด้านบนสุดติดกับเต้าไม้ชายคา มีลักษณะคล้ายหางนาค มักแกะสลักเป็นรูปกระหนกซ้อนกัน ส่วนกลางตัว เป็นส่วนที่โค้งแอ่นออก มักทำลายประจำยามสลักอยู่ตรงกลาง ส่วนท้าย คือส่วนที่อยู่ติดกับผนังหรือเสา เป็นส่วนค้ำยันรับน้ำหนักของเต้าชายคา มักทำเป็นรูปหัวนาค หรือแกะสลักเป็นลายกระหนกซ้อนกันดูคล้ายหัวนาค 
สำหรับคันทวยของทางล้านนาเรียกว่า "ทวยหูช้าง" มีลักษณะเป็นแผ่นไม้รูปสามเหลี่ยมติดกับเสาหรือผนัง บนแผ่นไม้มีการสลักลายหรือลายฉลุโปร่ง เป็นรูปนาคบ้าง ลายดอกไม้บ้าง บางทีก็ทำเป็นลายสมัยใหม่ อย่างรูปหนุมาน เทวดา หรือสัตว์ต่างๆ
Home