Contact Us
สาระเพื่อนักเดินทาง และการท่องเที่ยว อย่างเข้าใจและรอบรู้
รู้หรือ (ไม่) รู้
ร่มไม้ใบสน
สนเขาเป็นพืชจากยุคดึกดำบรรพ์อีกชนิดหนึ่ง ที่เหลือรอดมาถึงปัจจุบัน สนเขาปรากฏขึ้นครั้งแรกในยุคคาร์บอนนิเฟอรัส พอถึงช่วงไดโนเสาร์ครองโลกเมื่อ ๒๔๕ ล้านปีก่อน สนเขาก็งอกงาม และแพร่กระจายชนิดมากที่สุดเช่นกัน
พืชโบราณอย่างสนเขาจัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า พืชเมล็ดเปลือย นับเป็นพืชกลุ่มแรกๆ ที่มีเมล็ด แต่ยังไม่มีดอก เลยต้องอาศัยลมช่วยผสมเกสรและแพร่กระจายเมล็ด กรณีของสนมีโคน (cone) เป็นอวัยวะสืบพันธุ์ ลักษณะเป็นรูปโคนเหมือนกรวยกลม มีเกล็ดหุ้มโดยรอบ หาดูได้ตามปลายก้าน โคนยังแบ่งเป็นโคนตัวผู้กับโคนตัวเมีย โคนตัวผู้จะคอยสร้างละอองเรณู แล้วให้ลมช่วยพัดละอองเรณู ปลิวไปผสมกับไข่ที่โคนตัวเมียสร้างรออยู่
ทุกวันนี้สนเขาเลือกขึ้นอยู่ตามพื้นที่แห้งแล้งเป็นดินปนทราย เป็นไม้ไม่ผลัดใบที่มีใบเรียวยาวเล็กๆ เหมือนเข็มเคลือบผิวเป็นมันสีเขียวตลอดใบ ช่วยลดการคายน้ำได้เป็นอย่างดี สนเลยไม่ต้องผลัดใบในหน้าแล้ง ในเมืองไทยพบสนเขาสองชนิดคือ สนสองใบกับสนสามใบ สนสองใบมีลำต้นสีค่อนข้างดำ หรือน้ำตาลปนดำ แตกเป็นร่องลึก ส่วนสนสามใบมีสีน้ำตาลแกมชมพูอ่อน ร่อนเป็นสะเก็ดบางๆ
ใครยังดูไม่ออก ลองเดินไปใต้ต้น แล้วหยิบกระจุกใบที่ร่วงขึ้นมาดู หากมีใบเรียวยาวสองใบก็เป็นสนสองใบ แต่ถ้านับได้สามใบ ทายดูสิว่าเป็นสนชนิดไหนเอ่ย