home
Contact Uscontact@sarakadee.com
สาระเพื่อนักเดินทาง และการท่องเที่ยว อย่างเข้าใจและรอบรู้
เที่ยวทั้วไทยกับ "นายรอบรู้" เดือนมิถุนายน

รู้หรือ (ไม่) รู้

เมฆพยากรณ์อากาศ

คุณเคยเล่นเกมส์ตั้งชื่อให้กับก้อนเมฆกับเพื่อนๆ ไหม?
รูปทรงที่แตกต่างกันของเมฆสีขาวบนท้องฟ้า ไม่เพียงชวนให้จินตนาการถึงสิ่งหลากหลายอย่างไร้ขอบเขต เมื่อมันสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ไม่รู้จบ แต่ลักษณะของเมฆยังบอกให้ทราบถึงสภาพอากาศได้อีกด้วย

คุณลองแหงนหน้าขึ้นมองฟ้าใสยามอากาศปลอดโปร่ง จะเห็นเมฆเป็นก้อนคล้ายปุยฝ้ายลอยกระจายทั่วท้องฟ้า เมฆแบบนี้เรียกว่า คิวมูลัส (Cumulus) หากเมฆคิวมูลัสมีขนาดใหญ่มาก ฝนอาจตกเป็นหย่อมๆ ใต้เมฆบางก้อน แต่ถ้าเมฆเกิดก่อตัวสูงขึ้นไปจนเป็นก้อนหนาทึบคล้ายภูเขาขนาดใหญ่ คราวนี้เดาไม่ยากว่า ฝนต้องตกแน่ๆ เมฆฝนฟ้าคะนองแบบนี้เรียกว่า คิวมูโลนิมบัส (Cumulonimbus) ยิ่งถ้ายอดเมฆด้านบนขยายออกจนดูเหมือนรูปทั่ง (anvil) ฝนจะกระหน่ำหนักถึงขั้นพายุ และมีฟ้าแลบฟ้าร้องตามมาอย่างรุนแรง

นักอุตุนิยมวิทยาแบ่งเมฆตามรูปร่างออกเป็นสี่ลักษณะคือ เมฆเซอร์รัส (cirrus) เมฆสเตรตัส (stratus) เมฆคิวมูลัส (cumulus) และ เมฆนิมบัส (nimbus)
เมฆเซอร์รัสอยู่ระดับสูงที่สุดของเมฆทั้งมวล มีลักษณะเป็นเส้นสีขาวปลายม้วนสะบัดคล้ายขนนก ถ้าเห็นเมฆแบบนี้แสดงว่าอากาศแจ่มใสดีตลอดวัน คำว่า Cirrus มาจากภาษาละตินหมายถึง เส้นผมปลายม้วนโค้ง
เมฆสเตรตัสมีลักษณะเป็นแผ่นบางสีขาวคลุมทั่วท้องฟ้า ตามความหมายของคำว่า Stratus เมฆสเตรตัสที่อยู่ในระดับต่ำจะเป็นแผ่นแนวนอนคล้ายหมอก ทำให้ท้องฟ้าเป็นฝ้า
ถ้าเห็นเมฆชนิดนี้อาจมีฝนปรอยพรำลงมา
เมฆคิวมูลัสมีลักษณะเป็นก้อนอย่างที่กล่าวไปแล้ว ลักษณะเช่นนี้ตรงกับคำว่า Cumulus นั่นเอง
สำหรับเมฆนิมบัสมีความหมายตรงตัวว่า เมฆฝน ดังนั้นถ้าเห็นเมฆนิมบัสตั้งเค้าดำทะมึนมาเมื่อไหร่ ก็เตรียมหยิบร่มหรือหาที่หลบกำบังได้เลย รีบหน่อยนะ
เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!!!


Home