home
Contact Uscontact@sarakadee.com
สาระเพื่อนักเดินทาง และการท่องเที่ยว อย่างเข้าใจและรอบรู้
เที่ยวทั้วไทยกับ "นายรอบรู้" เดือนกันยายน

นายรอบรู้ชวนเที่ยว : ดูสนุก ดูที่ไหน
เปิดม่านหมอกป่าดงดิบเขา

ป่าดงดิบเขาพบอยู่บนยอดเขาสูง

นั่นแน่ ! ทำเป็นรู้ทันว่า ฝนชุกอย่างนี้ "นายรอบรู้" ต้องพาไปเที่ยวป่าหน้าฝนแน่ ๆ เลย
อย่างนี้สิเขาถึงเรียกแฟนประจำตัวจริง แต่ยี่ห้อ "นายรอบรู้" ย่อมไม่ทำอะไรเหมือนคนอื่นอยู่แล้ว ถึงจะไปเที่ยวป่า แต่คราวนี้ขอไปแบบเหนือเมฆนะจะบอกให้ ก็มาชวนไปเที่ยวป่าดงดิบเขากันนะสิ ถ้าอยากเห็นป่าดงดิบเขาสวยงามที่สุดก็ต้องไปตอนวสันตฤดูแบบนี้แหละ...

ต้นไม้ห่มผ้า สัญลักษณ์ของป่าดงดิบเขาทำไมนะหรือ ? ก็เพราะช่วงหน้าฝนต้นไม้ในป่าดงดิบเขาห่มผ้าหนายิ่งกว่าหน้าหนาวเสียอีก
อย่างที่บอกไว้เมื่อตะกี้ ต้นไม้ในป่าไม่ได้ห่มผ้าป้องกันอากาศหนาวเย็นเหมือนคนหรอก ที่เป็นเช่นนั้นเพราะความชุ่มชื้นช่วยโอบอุ้มต้นไม้ไว้ โดยเอื้ออำนวยให้มอส เฟิน และตะไคร่ที่ชมชอบอยู่กับน้ำงอกงามตามลำต้นและกิ่งก้าน แล้วป่าช่วงไหนจะฉ่ำน้ำเท่าหน้าฝน

เรื่องนี้คงต้องคุยกันยาว ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับป่าดงดิบเขาเสียก่อน จะได้ทราบลักษณะเด่นว่าแตกต่างจากป่าทั่วไปอย่างไร เมื่อมีคำว่าเขา (mountain) มาเกี่ยวข้อง แน่นอนต้องพบตามภูเขา และไม่ใช่ภูเขาเตี้ยๆ เสียด้วย จุดเด่นอยู่ตรงนี้นี่เอง ป่าดงดิบเขาพบปกคลุมภูเขาในระดับความสูงตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ม. ขึ้นไป พื้นที่ระดับสูงแบบนั้นย่อมมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี แถมยังมีความชื้นสูง เนื่องจากอิทธิพลของเมฆที่ปกคลุมอยู่เสมอ บางคนเลยตั้งนิคเนมให้ว่า "ป่าเมฆ" เสียเลย

ไม้ใหญ่มีเฟินงอกงามคลุมทั่วลำต้นในวันฉ่ำฝน

ป่าดงดิบเขาพบอยู่ทั่วประเทศ แถบไหนมีภูเขาสูงเกิน ๑,๐๐๐ ม. พบได้ทั้งนั้น แม้กระทั่งภาคอีสาน บนภูเขียว ภูหลวง หรือภูกระดึง ไปดูได้เลย ส่วนคนใต้คงรู้จักเขาหลวงเมืองนครกันดี ถ้าต้องการรู้จักป่าดงดิบเขาให้ดีที่สุด ต้องไปดอยอินทนนท์ เพราะเป็นจุดสูงสุดในสยาม ส่วนใครไม่ชอบเดินทางไกลก็ไม่ต้องห่วง แถวภาคกลางมีป่าดงดิบเขาให้ไปเที่ยวง่าย ๆ เหมือนกัน บนยอดเขาเขียวที่ อช. เขาใหญ่ไง สูงตั้ง ๑,๒๙๒ ม. หาชมต้นไม้ห่มผ้าได้ตามเส้นทางไปผาเดียวดาย ระยะฝนฉ่ำแบบนี้น้อง ๆ ดอยอินทนนท์เหมือนกัน

ดอกบีโกเนีย ชอบขึ้นอยู่ตามที่ชื้น

ทีนี้จากระดับ ๑,๐๐๐ ม. ขึ้นไปกว่าจะถึงยอดสูงสุด มันมีระยะห่างกันเยอะ ป่าดงดิบเขาจึงแบ่งแยกออกได้อีกสองระดับ เริ่มจากป่าดงดิบเขาระดับต่ำ พบในระดับต่ำกว่า ๑,๕๐๐ ม. ลงมา บริเวณนี้มีต้นไม้สูงใหญ่เหมือนป่าดงดิบทั่วไป แต่มีสิ่งต่างอยู่ที่พรรณไม้ โดยพบต้นก่อเป็นพันธุ์ไม้เด่น พร้อมด้วยทะโล้ มณฑาดอย เชียด เป็นต้น ป่าดงดิบเขาระดับนี้ยังมีมอสเฟินคลุมลำต้นไม่มาก พูดง่ายๆ ต้นไม้ยังห่มผ้าบางๆ อยู่ ป่าดงดิบเขาส่วนใหญ่ในเมืองไทยก็มักอยู่ระดับประมาณนี้ ทั้งที่เขาใหญ่ แก่งกระจาน ภูหินร่องกล้า แม่วงก์ ฯลฯ

ข้าวตอกฤาษี

พอพ้นจากระดับ ๑,๕๐๐ ม. ขึ้นไปเป็นป่าดงดิบเขาระดับสูง สูงเทียมเมฆแบบนี้เรียก "ป่าเมฆ" ได้เต็มปากแล้ว พอขึ้นมาถึงป่าระดับนี้ ต้นไม้มีลำต้นไม่สูงนัก อย่างเก่งที่สุดไม่เกิน ๓๐ ม. ทั้งนี้เพราะดินบนที่สูงไม่หนาพอจะช่วยต้นไม้พยุงตัวเองให้สูงไปกว่านี้ได้ สายลมบนยอดเขาสูงๆ ยังพัดแรง จนต้นไม้ต้องปล่อยให้กิ่งก้านคดงอบิดเบี้ยวไปตามทิศทางของลม พอมีเมฆหมอกแผ่ปกคลุมจนป่าขมุกขมัว แสงแดดส่องผ่านเรือนยอดของป่าเพียงสลัว ช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูสมกับอีกชื่อหนึ่งว่า "ป่าดึกดำบรรพ์"

ฟิล์มมีเฟิน เป็นเฟินขนาดจิ๋ว

ยิ่งเป็นป่าดงดิบเขาที่อยู่สูงเกิน ๒,๐๐๐ ม. ขึ้นไปอย่างบนดอยอินทนนท์ ความชื้นยิ่งมีมาก ภายใต้ร่มครึ้มของเรือนยอดไม้ใหญ่ มองไปทางไหนมีแต่สีเขียวของมอส เฟิน และตะไคร่ห่อหุ้มลำต้นและกิ่งก้านเต็มไปหมดทุกอณู ป่าดงดิบเขายามนี้ช่างสวยงามไร้ที่ติ ต่างจากที่เห็นตอนหน้าหนาว แม้จะยังมีผ้าห่มคลุมอยู่ แต่เป็นผ้าผืนเก่าที่ดูโทรมจนออกสีน้ำตาลแห้งๆตามประสาพืชไร้น้ำไปเสียหมด
เมื่อเฟินแย่งกันงอกงาม เป็นโอกาสดีที่จะได้รู้จักเฟินชนิดต่าง ๆ ว่ากันเฉพาะกลุ่มเฟินภูเขาที่เห็นขึ้นปะปนกับมอสตามต้นไม้ก็เต็มไปหมดแล้ว ชนิดที่น่าสนใจมีเฟินข้าหลวงใบหอก กูดแฉก เถานาคราช ช้องเมรี รวมทั้งฟิล์มมีเฟิน เฟินเล็กที่สุดในโลก ถัดลงไปบนพื้นป่าเป็นกูดฉาก กูดใบห้า เฟินข้าหลวงก้านดำ เฟินเหล่านี้พบได้ทั่วไป

ป่าดงดิบเขาบนภูกระดึง

ขณะเดียวกันตามพื้นดินในป่าดงดิบเขาบางแห่งอาจเห็นมอสขึ้นเขียวขจีเต็มไปหมดราวกับปูพรมไว้ เรียกกันว่าข้าวตอกฤาษี เป็นมอสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ชอบขึ้นอยู่เฉพาะป่าดงดิบเขาที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดปีและความชุ่มชื้นสูง ยิ่งสูงยิ่งมีมาก บนยอดดอยอินทนนท์ถือว่าเป็นบริเวณที่ดูข้าวตอกฤาษีได้สะดวกที่สุด

ท่ามกลางความชื้นก็มีดอกไม้สีสวยให้ดูเยอะแยะ พวกบีโกเนีย ดอกหรีด สาวสนม และเทียนต่างๆ พบได้ทั่วไป หรือเลยไปช่วงปลายฝนดอกไม้ยิ่งบานสะพรั่ง ไม่ว่าจะเป็นส้มแปะ ไคร้มด ข้าวสารหลวง ต่างไก่ป่า หรือกล้วยไม้สารพัดชนิด ขึ้นไปบนดอยสูงมากๆ ก็มีพวกกุหลาบดอย สะเภาลม คำหยาด บัวทอง แต่ใครอยากเห็นกุหลาบพันปีคงต้องรอไปถึงระยะปลายหนาวโน้นเลย

ป่าดงดิบเขาบนเขาเขียว

คนที่ชอบดูนกอาจทักว่า ไปป่าดงดิบเขาช่วงนี้จะมีนกให้ดูหรือ อ้าว ! ลืมนกประจำถิ่นไปแล้วหรือไร ช่วงฤดูฝนพากันออกหากินคึกคักมากเสียด้วย ฝนฉ่ำ มีอาหารเยอะ และนกหนุ่มสาวก็เติบโตกันฤดูนี้ นกหายากของป่าดงดิบเขาอย่างนกปีกแพรสีเขียวก็เห็นได้ง่ายกว่าฤดูอื่น พวกขาประจำอย่างนกกะรางหัวแดง นกมุ่นรกหัวน้ำตาลแดง และนกศิวะหางสีตาลเป็นของตายอยู่แล้ว นี่ยกตัวอย่างมาเฉพาะบนดอยอินทนนท์นะ

ยามฟ้าฉ่ำฝนเช่นนี้ เลือกไปดอยไหน คงได้สัมผัสความงามของชีวิตในป่าดงดิบเขาไม่แพ้กัน
เที่ยวดอยที่ไหน
แสงส่องผ่านแมกไม้ ราวกับป่าดึกดำบรรพ์ดอยอินทนนท์ จ. เชียงใหม่ เป็นภูเขาสูงที่สุดในเมืองไทยที่ระดับ ๒,๕๖๕ ม. บนพื้นที่ระดับสูงยังมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ จึงพบป่าดงดิบเขาปกคลุมตั้งแต่ระดับต่ำขึ้นไปจนถึงป่าดึกดำบรรพ์บนยอดดอย โดยมีถนนตัดผ่านขึ้นไปถึงอย่างสะดวก และมีเส้นทางให้เดินเที่ยวชมธรรมชาติป่าดงดิบเขาบริเวณกิ่วแม่ปานและอ่างกาหลวง ซึ่งมีป่าดงดิบเขาสวยงามที่สุดในเมืองไทย
ดอยผ้าห่มปก จ. เชียงใหม่ เป็นภูเขาสูงอันดับสองของเมืองไทย ที่ระดับความสูง ๒,๒๘๕ ม. ธรรมชาติบนดอยผ้าห่มปกปกคลุมด้วยป่าดงดิบเขาคล้ายคลึงกับดอยอินทนนท์ มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติระยะทางประมาณ ๕ กม. ผ่านป่าดงดิบเขาขึ้นไปจนถึงยอดดอย ซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์ตระการตาของเทือกเขาสลับซับซ้อนในประเทศพม่า

นกกะรางหัวแดง กระจายพันธุ์ตามป่าดงดิบเขาดอยสุเทพ-ปุย จ. เชียงใหม่ เป็นจุดชมป่าดงดิบเขาใกล้เมืองเชียงใหม่บนดอยปุย ซึ่งมีความสูง ๑,๖๕๘ ม. และมีทางรถยนต์ขึ้นสู่ยอดดอยเช่นเดียวกับดอยอินทนนท์ บนยอดดอยยังพบป่าสนเขาสลับกับป่าดงดิบเขานับเป็นธรรมชาติโดดเด่น และเป็นถิ่นอาศัยของนกป่าจำนวนมาก โดยมีนกประจำถิ่นที่น่าสนใจ เช่น ไก่ฟ้าหางลายขวาง นกศิวะปีกสีฟ้า นกกางเขนน้ำหลังดำ ฯลฯ

อช. เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา/ปราจีนบุรี/สระบุรี/นครนายก เป็นผืนป่าใหญ่ของภาคกลางที่มีป่าดงดิบเขาสภาพสมบูรณ์อยู่บนเขาเขียวและเดินทางไปถึงได้สะดวกที่สุด ตามเส้นทางสู่ผาเดียวดายมีมอสและตะไคร่น้ำขึ้นปกคลุมตามต้นไม้และโขดหินทั่วไป บริเวณหน้าผาเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่มองเห็นเขาร่มและความสมบูรณ์ของผืนป่าดงดิบแน่นทึบ

ป่าดงดิบเขาบนภูหลวงเขาหลวง จ. นครศรีธรรมราช เป็นขุนเขาสูงแดนใต้ที่มีความสูงถึง ๑,๘๓๕ ม. มองเห็นยอดเขาปรากฏภายใต้ม่านหมอกชั่วนาตาปี บนยอดเขาปกคลุมด้วยป่าดงดิบเขา เต็มไปด้วยมอส เฟิน และตะไคร่น้ำไม่ต่างจากป่าดึกดำบรรพ์ทางภาคเหนือ และเป็นแหล่งรวมของพันธุ์พืชหายาก เช่น บัวแฉก เฟินดึกดำบรรพ์ รวมทั้งกล้วยไม้เฉพาะถิ่นมากมาย
Home